ตอนที่ 504 งานเลี้ยงตระกูลวีรภัทรเมธี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 504 งานเลี้ยงตระกูลวีรภัทรเมธี
ตอนที่ 504 งานเลี้ยงตระกูลวีรภัทรเมธี ตั้งแต่ที่ตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานเลี้ยง จิรภาสจึงได้เลื่อนเวลาประชุมให้เร็วขึ้น เพื่อที่จะได้ไปพร้อมกับจิดาภาและแม่ยาย “แม่คะ แม่รอที่ห้องพักของโรงแรมก่อนนะคะ หนูจะเข้าไปดูสถานการณ์ก่อน” จิดาภากุมมือของรุจาภาไว้ “หนูไม่อยากให้แม่เป็นอันตราย ตอนนี้ญาณิดาคงคิดว่าแม่ถูกพวกลักพาตัวพวกนั้นฆ่าไปแล้ว” “จ้ะ จิดาภา ลูกเองก็ต้องระมัดระวังตัวเองแล้วก็ลูกไว้ด้วยนะ” รุจาภาจ้องมองลูกสาว และจึงหันไปมองลูกเขยของตน “จิรภาส ฝากดูแลเธอด้วยนะ” จิรภาสพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น และโอบจิดาภาลงจากรถไป ในตอนที่พวกเขาสองสามีภรรยาเดินเข้ามาในห้อง ผู้อาวุโสของตระกูลวีรภัทรเมธีบางคนก็ได้มาถึงแล้ว เมื่อท่านจิรชยาเห็นว่าจิดาภาและจิรภาสมาด้วยกัน ก็พยักหน้ายิ้มๆ และแนะนำทั้งสองกับผู้อาวุโสคนอื่นๆ ของตระกูลวีรภัทรเมธี ญาณิดาที่เข้ามาทีหลังจึงได้เห็นใบหน้าสดใสของจิดาภา และสายตาของผู้อาวุโสที่มองจิดาภาอย่างพึงพอใจ “ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับบริษัทแล้ว เธอจัดการมันได้ดีจริงๆ” “อนาคตของบริษัทคงต้องพึ่งเธอเสียแล้ว อ้อ ใช่แล้ว ฉันได้ดูเรื่องที่แสดงแล้วนะ ไม่เลวเลยๆ” เมื่อได้รับการยอมรับจากพวกเขา จิดาภาก็กล่าวขอบคุณ จิรภาสยังคงอยู่ข้างๆ เธอ เพื่อปกป้องเธอ ทั้งสองคนดูรักกันมากยิ่งนัก “เมื่อไหร่จะได้ยินข่าวดีจากพวกเธอกันล่ะ” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเอ่ยถามยิ้มๆ “พวกเราตั้งตาคอยสมาชิกคนใหม่ของตระกูลวีรภัทรเมธีกันอย่างมากเลยนะ” ด้านนอกประตูนั้น ญาณิดาดวงตาแดงก่ำ ทั้งยังกำสองมือไว้แน่น เธอท้องมาตั้งนานแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครพูดแบบนี้กับเธอเลย แต่กลับจับจ้องไปยังท้องของจิดาภากันทั้งนั้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มองเธอเป็นครอบครัวเดียวกันเลย “คุณปู่คะ หนูมาแล้ว” ญาณิดาฉีกยิ้ม และรีบเดินเข้าไปขวางหน้าจิดาภา เพื่อคว้าท่านจิรชยาเอาไว้ “ระหว่างทางแพ้ท้องนิดหน่อยค่ะ ถึงได้มาช้าแบบนี้” การที่เธอพูดเช่นนี้ ก็เพื่อบอกกับทุกคนว่าเธอนั้นกำลังจะมีสมาชิกเพิ่มให้กับตระกูลวีรภัทรเมธี “มาแล้วก็นั่งลงเถอะ” ท่านจิรชยาไม่ได้มีท่าทีใส่ใจญาณิดาดั่งแต่ก่อน และหลีกห่างจากมือของเธอ ผู้อาวุโสตระกูลวีรภัทรเมธีต่างก็รับรู้เรื่องของญาณิดาในช่วงนี้เช่นกัน จึงนั่งประจำที่และพูดคุยกันไป โดยไม่ได้สนใจเธอ ญาณิดาจ้องไปยังจิดาภา จิรภาสประคองจิดาภานั่ง เพื่อบดบังสายตาของญาณิดา หลังจากที่คนในตระกูลวีรภัทรเมธีมากันพร้อมหน้า ท่านจิรชยาก็เริ่มประกาศอย่างเป็นทางการ บรรยากาศในงานเลี้ยงนี้เป็นไปอย่างไม่เลว นอกจากญาณิดาที่เอาแต่ค้นหาเหตุผลที่ท่านจิรชยาจัดการเลี้ยงขึ้นมา ทุกคนต่างก็รื่นรมย์ไปกับอาหารค่ำมื้อนี้ “ที่ฉันเรียกทุกคนมาในวันนี้ ก็เพื่ออยากจะกล่าวขอบคุณจิดาภา หลานสาวที่แสนดีของฉันต่อหน้าทุกๆ คน” “หากไม่ใช่เพราะเธอ บริษัทจะต้องพบกับวิกฤตครั้งใหญ่เป็นแน่” ญาณิดากัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะลุกขึ้นยืน “ฉันรู้สึกไม่สบายค่ะ ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” แต่เพราะถูกความเกลียดชังบังตา จึงได้เดินหาพนักงานคนหนึ่งและขอกาน้ำชามาหนึ่งใบ หลังจากนั้นก็หามุมที่ลับตาคน และใส่ยาที่ยงยศให้กับเธอมาลงไป ประจวบเหมาะกับที่รุจาภาอยู่ที่ห้องพักของโรงแรมพอดิบพอดี จึงได้เห็นฉากนี้จะจะตา ญาณิดากลับเข้าในห้องทำท่าทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่ในมือนั้นประคองกาน้ำชามาด้วย ท่านจิรชยาได้พูดไปหลายส่วนแล้ว ในส่วนท้ายนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด “ฉันได้ให้ทนายความทำพินัยกรรมขึ้นมาแล้ว หลังจากที่ฉันครบร้อยปี ทรัพย์สมบัติของตระกูลวีรภัทรเมธีจะถูกแบ่งให้กับหลานๆ อย่างเท่าเทียมกัน” “อะไรนะ” ญาณิดาตะโกนออกไปด้วยความตื่นตกใจ จึงเรียกสายตาสงสัยจากทุกคนในตระกูลวีรภัทรเมธี ใบหน้าของท่านจิรชยาย่ำแย่ลงในทันพลัน “ทำไม หลานมีความคิดเห็นอย่างอื่นหรือ” ญาณิดากำชาในมือเอาไว้แน่น เธอไม่คิดว่าจะเดินมาจนถึงจุดจุดนี้ แต่จะปล่อยให้ท่านจิรชยาพูดไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว “คุณปู่ค่ะ หนูรู้สึกว่าร่างกายของคุณปู่ยังดูแข็งแรงนะคะ ไม่เห็นจะต้องรีบตัดสินใจเรื่องนี้เลย” เธอเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม และรินชาให้กับท่านจิรชยา ทันใดนั้นก็มีพนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามากล่าวกับจิดาภาไม่กี่ประโยค สายตาของจิดาภาจ้องมองถ้วยชาที่ญาณิดากำลังรินไปให้กับท่านจิรชยาเขม็ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “คุณปู่ค่ะ ดื่มชาก่อนสิคะ” ญาณิดายิ้มเพียงเล็กน้อย “เรื่องพินัยกรรมเอาไว้พูดกันทีหลังก็ได้” “เดี๋ยวก่อนค่ะ” จิดาภาเอ่ยขึ้นเสียงเย็น ในขณะที่ท่านจิรชยากำลังจะดื่มชา “คุณปู่ค่ะ หนูว่าพูดเรื่องพินัยกรรมก่อนจะดีกว่าค่ะ” ญาณิดาหันกลับมาจ้องจิดาภาในทันที “แกเป็นถึงนักแสดงที่มีชื่อเสียง เป็นถึงคุณนายของตระกูลปรีดาอัครกุล ทำไมถึงได้เอาแต่จ้องสมบัติของตระกูลวีรภัทรเมธีกัน แกกำลังคาดหวังให้เกิดเรื่องกับคุณปู่อย่างนั้นรึ” จิดาภามองท่านจิรชยาแล้วส่ายหน้า “หนูไม่เคยคิดแบบนั้น” “แล้วทำไมถึงต้องให้คุณปู่รีบพูดเรื่องพินัยกรรมด้วย คงไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องกับแม่ของแก แกจึงอยากให้คุณปู่รีบทำพินัยกรรมเพื่อจะได้แบ่งหุ้นของตระกูลวีรภัทรเมธีกับแกใช่ไหม” ญาณิดาไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองได้กลายเป็นตัวตลกไปแล้ว และยังคงต่อปากต่อคำอย่างดุเดือด “ทางที่ดีที่สุดท่านประธานจิรภาสพาภรรยาสุดที่รักออกไปเสียจะดีกว่านะคะ อย่าปล่อยให้เธอมาแย่งสมบัติตระกูลวีรภัทรเมธีของพวกเราอีก” “เธอเป็นภรรยาของผม แต่เธอก็นามสกุลวีรภัทรเมธี...” จิรภาสกล่าวอย่างไม่แยแส น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดุดัน ญาณิดาทำได้เพียงโมโหไปกับคำพูดเหล่านั้น ในตอนที่ผู้อาวุโสภายในตระกูลวีรภัทรเมธียังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จิดาภาก็ได้ให้พนักงานทั้งหมดออกไป และชี้ไปยังถ้วยชาด้วยท่าทีเคร่งขรึม “มีคนบางคนกลัวว่าจะไม่ได้รับส่วนแบ่ง จึงได้วางยาในถ้วยชาของคุณปู่ ญาณิดา เมื่อครู่เธอออกไปตั้งหลายนาที เธอไปไหนมาหรือ” “ฉัน... ฉันรู้สึกไม่สบายถึงได้ไปห้องน้ำต่างหาก” ญาณิดาเสียงสั่นด้วยความตื่นตระหนก “แกแสดงละครมากไปล่ะสิ ถึงได้มีอาการระแวงแบบนี้ พนักงานของ洲际酒店ไม่ได้ถูกซื้อตัวมาทำเรื่องแบบนี้แน่” “ฉันไม่ได้หมายถึงพนักงาน ฉันหมายถึงเธอ” จิดาภายิ้มเยาะเพียงบางเบา “เธออยากจะฮุบสมบัติของตระกูลวีรภัทรเมธีไว้แต่เพียงผู้เดียว ถึงได้ไม่อยากให้คุณปู่พูดเรื่องพินัยกรรมขึ้นมา” “แกพล่ามอะไร เห็นได้ชัดว่าเป็นแก...” ญาณิดารีบปัดเรื่องออกในทันที “คุณปู่คะ อย่าไปฟังคำพูดของมันนะคะ มันพยายามจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา” “พอแล้ว” ท่านจิรชยาไม่คิดว่าญาณิดาจะน่าผิดหวังถึงเพียงนี้ เขาขบกรามแน่น ก้มมองชาร้อนที่เพิ่งถูกรินมา “หลานบอกชานี้สะอาดมาก เช่นนั้นหลานก็ดื่มซะสิ” “ไม่... หนูดื่มชาไม่ได้ค่ะ คุณปู่ หนูกำลังท้องนะคะ จะดื่มชาได้อย่างไรกัน” “ท้องแล้วดื่มชาไม่ได้หรือ หรือว่าเธอรู้อยู่แล้วต่างหากว่าในถ้วยชานั้นมีอะไรกันแน่” จิดาภาก้าวไปข้างหน้า “ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ต่างก็เป็นผู้อาวุโสของตระกูลวีรภัทรเมธี ฉันหวังให้ทุกคนเป็นพยาน แล้วดูว่าพี่สาวที่แสนดีของฉันคนนี้โหดเหี้ยมขนาดไหน” ญาณิดาไอออกมาด้วยความตื่นตระหนก แต่แล้ว... ไม่มีใครเชื่อเธออีกแล้วแม้แต่คนเดียว ท่านจิรชยาหนาวเหน็บไปทั้งใจ เขาลุกขึ้นยืน ตบหน้าญาณิดาอย่างสุดแรง และปาถ้วยชาลงกับพื้นทันที “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอไม่ใช่หลานของฉันแล้ว” “ตระกูลวีรภัทรเมธีของพวกเราคงจะเก็บเธอเอาไว้ต่อไปไม่ได้แล้ว” “ฉันจะให้คนเก็บของทั้งหมดของเธอออกไป เธออยากจะแยกตัวออกไปไม่ใช่หรือ แต่สมบัติของตระกูลวีรภัทรเมธี เธอจะไม่มีทางได้มันไปแม้แต่แดงเดียว” “ไม่นะ คุณปู่คะ ขอร้อง ไม่เอานะคะ...” ญาณิดาร้องไห้กับพื้นด้วยความรู้สึกเสียศูนย์ “หนูไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น หนูแค่กลัวเกินไป...”
已经是最新一章了
加载中