บทที่ 7
แสงสีไฟส่องอาบร่างมากมายที่วาดลวดลายกันหน้าเวที วงดนตรีกำลังเล่นเพลงร็อกสุดฮิต ผู้คนเต้นรำ โยกขยับกายตามจังหวะอย่างเมามัน
บนชั้นสองของสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นห้องวีไอพี ซึ่งไม่ใช่แค่เงินหนาอย่างเดียว ต้องบารมีถึงด้วยจึงจะจองได้
ดวินคลอเคลียอยู่กับนางแบบที่บอกว่ามาจากยุโรป ประเทศอะไรเขาก็ไม่ได้จำ รู้แต่เธอสูง ยาว ขาว ดี มีส่วนเว้าส่วนโค้งสมแล้วที่เจ้าตัวคุยโอ่ว่าเคยถ่ายแบบชุดชั้นใน
คืนสุดสัปดาห์เป็นเวลาที่เขากับเพื่อน ๆ ใช้เวลาหาความสำราญ เหล้า ผู้หญิง แสงสี และการละเล่นต่าง ๆ ที่จะหาได้แบบถูกกฎหมาย ดวินกับเพื่อนผ่านมาหมด แต่คืนนี้มีผู้มาเยือนเพิ่ม
“วินอะ โทรหาแล้วทำไมไม่รับสาย” มาถึงเจ้าหล่อนก็โวยวายใส่คนที่เธอติดต่อไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้น...
เธอคนนี้เป็นสาวผิวขาว หุ่นบาง แต่อกชัด ก้นเด้ง แทรกกายระหว่างเขากับนางแบบสาว เป็นผลให้เจ้าหล่อนชักสีหน้าใส่ผู้มาใหม่ แต่เธอไม่สน
“จะมาที่นี่ทำไมไม่ชวน” เธอทำเสียงกระเง้ากระงอด
“ไม่ล่ะ ไม่อยากโดนปาปารัซซีแอบถ่าย เฮ้ย! มึงไปดูสิ มีใครตามลีน่ามาไหม” เขาสั่งเพื่อน
“ไม่มีใครตามมาหรอก” ดาราสาวส่งยิ้มเหมือนถ่ายโปสเตอร์โฆษณา “งอนเหรอ”
“ผมไม่ชอบโดนใครใช้ประโยชน์” ตาคมดังเหยี่ยวมองตาวิบวับของแม่เสือสาว
“แค่นิด ๆ หน่อย ๆ เอง ลีน่าจะมาขอบคุณวิน พอเป็นข่าวงานก็เข้ารัว ๆ มือถือพี่ท็อปแทบแตก” เธอเล่าถึงผู้จัดการส่วนตัว ศีรษะได้รูปเอนพิงไหล่กว้าง “ลีน่าทำให้วินมีความสุข ทุกอย่างมันก็น่าจะวินวินนะ”
นิ้วเคลือบสีแดงไต่ไล่บนอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเคร่งเครียด หวังปลุกไฟปรารถนาขึ้นอีกครา
“คุณต่างหากที่ได้ประโยชน์ แบบสองเด้ง” เขาจับข้อมือนั้นให้ห่างจากตัว งอนิ้วชี้เรียกบริกรที่อยู่มุมห้อง
“เช็กบิลที ฉันเบื่อที่นี่แล้ว”
“วินอะ ขี้น้อยใจไปได้”
ดวินลุกขึ้นเต็มความสูง มองลีน่าที่กำลังโวยวายด้วยสายตาเย็นเยียบ
“ต่อไปไม่ต้องติดต่อผมอีก”
“วิน...”
ดาราสาวคราง เขาก้าวออกจากห้องวีไอพีโดยไม่สนความรู้สึกเธอสักนิด บอกแล้วอย่างไรเล่าว่าเขาไม่ชอบโดนใช้ประโยชน์ มันเท่ากับถูกหักหลัง แต่คนทำก็ยังตีหน้าไม่รู้สึกรู้สา
...ผิดกับอีกคน
ดวินกลับไปนั่งในรถสปอร์ตหรูของตน คิดถึงหนูแหวนแขนอ่อน เลขาคนดีของพี่ชาย เธอหลบหน้าเขา เลี่ยงจะสบตาตลอด
ทีแรกคิดว่าเป็นความเขินอายเป็นปรกติ ผู้หญิงจะไม่อายได้อย่างไรเล่าเมื่ออยู่ต่อหน้าชายผู้ที่เธอเคยมีอะไรด้วย
ชายหนุ่มคิดจะแหย่วนิษศาอีกสักทีสองที เผื่อเธอจะแปลงร่างเป็นนางแมวสาวสุดร้อนแรงขึ้นเตียงกับเขา
แต่หน้าที่การงานสัปดาห์นี้ก็แสนหนัก มีเรื่องหน้างานให้แก้ปัญหาได้ตลอด ได้ข่าวอีกที วนิษศาก็ขอลาออกแล้ว เธอจะบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ลาออกเพราะเขากระนั้นหรือ แต่พอเชษฐ์เล่าให้ฟัง เหตุผลก็เข้าที
เธอมีความฝันเล็กจุ๋มจิ๋มกว่าที่คิด แต่ก็นั่นล่ะนะ ทุกคนต่างมีทางไปของตน ดวินก็เหมือนพี่ชาย เขาไม่ดูถูกความฝันใคร
ตงิด ๆ อยู่ในใจ เขาเป็นตัวเร่งให้เธอลาออกหรือเปล่าหนอ ถ้าเจอหญิงสาวอีกทีจะลองเรียกมาถาม...แบบสองต่อสอง
คิดแล้ว ก็เผลอหัวเราะออกมา เธอจะหน้าแดงเหมือนคืนนั้นหรือเปล่า อยากเห็นอีกสักที เก็บไว้ข่มพี่ชายว่าครั้งหนึ่งเคยเห็นอีกสีหน้าหนึ่งของเลขาคนขยัน ตนเชื่อแน่ว่าเชษฐ์ต้องไม่เคยเห็นแน่นอน
วนิษศาบรรจงเก็บของบนโต๊ะทำงานลงกล่อง มองหน้าจอคอมพิวเตอร์และเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งมานานอย่างใจหาย วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการทำงานที่นี่ หลังห้าโมงเย็นเป็นต้นไปเธอจะพ้นสภาพพนักงานเสียแล้วสิ
“ให้หนูลงไปส่งไหมคะพี่แหวน” โอปอล์อารี
“ไม่เป็นไรจ้ะ อยู่คอยดูหน้าห้องคุณเชษฐ์เถอะ”
เธอเข้าไปลาเจ้านายก่อนหน้านั้นแล้ว เขาอวยพรให้กิจการไปด้วยดีเจริญรุ่งเรือง
ร่างเพรียวบางยกกล่องเอกสารไปตามทางเดิม ใครบางคนออกมาจากลิฟต์ เขาเลิกคิ้ว ขณะเธอเม้มริมฝีปาก มือไม้เย็นแต่ยังจับกล่องไว้แน่น