บทที่ 3
วนิษศาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมอาการหนักในศีรษะ ปากก็แห้ง มือควานหาแว่นที่ตนมักถอดวางไว้หัวโต๊ะ แต่วันนี้ว่างเปล่า มือเธอจึงคลำเปะปะ บนเตียงนอนเพื่อหาแว่นที่อาจเผลอลืมวางไว้
“อย่าปลุกผมน่า ถ้าไม่อยากโดนทำอีกรอบ” เสียงทุ้มทำเอาหญิงสาวชะงัก
“คุณเป็นใครน่ะ” พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น “แว่นตาฉันอยู่ไหน”
เขาลุกขึ้น หยิบแว่นตาเธอที่ตกข้างเตียงมาสวมให้
“อยู่ด้วยกันทั้งคืน ยังถามอีกว่าฉันเป็นใครนะหนูแหวน”
ดวินยิ้มแกมหัวเราะ เธอหน้าซีดมองหน้าอกเปลือยเปล่าของเขา แล้วเปิดดูท่อนล่างของตัวเองที่ใต้ผ้าห่ม...ล่อนจ้อน ไม่มีอะไรปกปิด
ตาโตกวาดหาเสื้อผ้าตัวเองที่กระจัดกระจายบนพื้นห้อง บราเซียร์กับแพนตี้ตัวน้อยอยู่ใต้ตั่งหน้าเตียง เช่นนั้นแล้วเลยลุกพรวดขึ้นไปเก็บของส่วนตัวทุกชิ้น รีบเข้าห้องน้ำ ใส่มันบนตัวอย่างรวดเร็ว
กระจกห้องน้ำฉายภาพเธอ สภาพหัวฟู เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยดูดแดง ยุงตัวร้ายไม่ใช่ใครที่ไหน คงเป็นคนนอนอยู่บนเตียงนั่นแล
“บอกพี่เชษฐ์กับโอ่งด้วย ว่าผมจะขับรถกลับเอง ไม่ต้องรอ” ชายหนุ่มกลับไปหลับตานอนบนเตียงเหมือนเดิม
“อย่าลืมซื้อยาคุมฉุกเฉินกินด้วยล่ะ เมื่อคืนผมไม่ได้ใส่ถุงยาง” เขาบอกความจริงที่ทำให้เลือดในกายเธอกลายเป็นน้ำแข็ง “ผมยังไม่อยากมีลูก”
หนูแหวน...แขนอ่อน อันหลังนี้ดวินต่อเอง เธอเป็นเลขาแสนเนี้ยบของเชษฐ์ ตามติดเป็นเงาตามตัว เรียกเมื่อไรมาเมื่อนั้น พร้อมใบหน้านิ่ง ดวงตาเฉยเมยภายใต้แว่นทรงกลม ผมไม่เคยเปลี่ยน ม้วนเป็นมวยทรงป้าอย่างไรก็อย่างนั้น
เป็นหนึ่งในหมู่คนที่ชื่นชม ล้อมหน้าล้อมหลังพี่ชาย ดวินรักเชษฐ์ และรู้พี่ก็รักตน แต่เขาไม่ชอบการเปรียบเทียบ
เชษฐ์เก่งทำได้ทุกอย่าง เป็นที่เคารพของผู้คน ขณะเขาถูกมองว่าไม่เอาถ่าน ผลการเรียนกลาง ๆ ชอบสนุกเที่ยวเล่นไปเรื่อย
คนบางคนยิ้มให้เขาต่อหน้า แล้วแอบไปนินทาลับหลัง แต่บางคนแสดงออกเลยว่าไม่ชอบเขา อย่างยัยเลขาหนูแหวนแขนอ่อนคนนี้
ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสาวไหนไม่หลงเสน่ห์รอยยิ้มเขา แต่เลขาพี่มองเขาด้วยความเฉยชา ถามคำตอบคำ เธอสนใจคลิปลูกโอฬารมากกว่าเขาเสียอีก
แต่เมื่อคืนเลขาเฉิ่มเชยกลับแปลงร่างเป็นนางแมวยั่วสวาท เคล้าคลอ นัวเนียจนเขาเคลิ้ม ยอมให้เธอกินกลางตลอดตัว คึกจนถุงยางไม่ได้ใส่
วนิษศาไม่ใช่เด็กแล้ว เธออายุสามสิบ (ฟังจากที่เจ้าตัวบอก) เธอควรรู้ว่าต้องทำยังไงต่อ
“แล้วถ้าพลาดล่ะ”
เสียงในสมองถามยั่วล้อ...ถึงตอนนั้นค่อยคิดก็แล้วกัน เขาซุกกายหลับต่อไปในผ้าห่มอุ่น
วนิษศากลับมาห้องพักด้วยอาการโหวงในใจ เป็นใครก็ยากจะทำใจหากผู้ชายที่ได้ความบริสุทธิ์ของตนพูดใส่ต่อหน้าเช่นนี้
เธอไม่ได้หวังให้เขามารับผิดชอบ...แต่ไม่ใช่ออกคำสั่งย้ำสถานะว่าเธอเป็นเพียงเลขาของพี่ชายเขา
ชีวิตเธอเปลี่ยนไปในคืนเดียว นอกจากเสียความสาวแล้ว ยังสูญเสียความมั่นใจที่จะเจอดวินไปด้วย เลี่ยงก็แล้ว หลบก็แล้ว บริษัทมีอยู่แค่นี้ จะไม่ให้เจอกันได้ยังไง
เธอคิดระหว่างอยู่ในห้องน้ำ จะคิดมากไปทำไม ก็แค่เซ็กซ์กับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งบังเอิญเป็นคนที่เกี่ยวดองกับเจ้านายแค่นั้น
ดวินยังทำตัวไม่สนใจ ไม่พูดคุยอะไรกับเธอเลยนับตั้งแต่วันนั้น เธอควรทำเหมือนกับเขา ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบและเหมือนเดิมได้แล้วสิ
หญิงสาวยกมือขึ้นจัดทรงผม ขยับแว่นให้เข้าที่ หมุนตัวดูความเรียบร้อยตัวเอง เธอยังเป็นวนิษศาคนเดิม ภายนอกไม่มีอะไรบกพร่องเสียหาย ส่วนภายในใครเล่าจะสนใจ
ขาเรียวก้าวออกจากห้องน้ำ สายตาปะทะร่างสูงที่ออกมาจากห้องน้ำอีกฝั่งพอดี เกิดอาการเดดแอร์กันทั้งคู่
ใบหน้าคนออกมาจากฝั่งห้องน้ำหญิงมีริ้วสีเลือดขึ้นจาง ๆ รองผู้บริหารหนุ่มพยักหน้าเป็นทำนองให้เธอไปก่อน ร่างบางรีบสาวเท้ารัวเร็วกลับไปที่โต๊ะทำงาน
โอฬารยืนรอเจ้านายอยู่ข้างหน้าต่าง คุณพ่อลูกหนึ่งส่งยิ้มจริงใจให้
“พี่เชษฐ์ว่างไหมตอนนี้” ดวินตามมาหลังเธอ เขารอจนเลขาพี่นั่งเก้าอี้เสียก่อนถึงเอ่ยปากถาม
“ว่างแค่สามสิบนาทีค่ะ แล้วจะมีประชุมกับฝ่ายขาย” เธอหยิบไอแพดมาดูตารางนัดหมาย
“บอกเขาว่าฉันขอพบ” ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาใกล้เธอ เลขาสาวได้แต่เม้มริมฝีปาก จมูกได้กลิ่นน้ำหอมที่สดชื่นเหมือนลมทะเลจากเขา
“ค่ะ”
เธอกดโทรศัพท์หาเชษฐ์ เลี่ยงหลบสายตาคมนั้นเสีย ในห้องตอบอนุญาต จึงเชิญร่างโปร่งขึ้นเข้าห้องไป
วนิษศาไม่อยากทำตัวเป็นสาวน้อยแรกแย้ม แต่สมองเธอกลับทำเช่นนั้น ดูเหมือนการมีอะไรกับดวินจะส่งอิทธิพลต่อเธอมากกว่าที่คิด หากมีชื่อเขามาเกี่ยวข้อง ทั้งยามที่เชษฐ์เอ่ยถึง ยามต้องพิมพ์รายงานการประชุมที่มีชื่อ ในใจเธอสั่น ต้องบังคับร่างกายไม่ให้ก่อพิรุธ
ชายหนุ่มก็เหมือนแกล้ง มีชื่อเข้ามาในสมองเธอตลอดแทบทั้งวัน จนศีรษะปวดหนึบ ต้องพึ่งยาพาราช่วยให้หลับอยู่หลายคืน