บทที่ 1   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1
ตึกสูงสามสิบสองชั้นแห่งนี้เป็นที่ตั้งอาณาจักรธุรกิจของตระกูลเศวตอัครเดชกุญชร บริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อย่อว่า SAK ซึ่งกุมบังเหียนโดยสองพี่น้อง อย่างเชษฐ์และดวิน เศวตอัครเดชกุญชร คนในวงสังคมชื่นชมในความรัก สมัครสมานสามัคคีของพี่น้องตระกูลนี้เป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่เกิดคนละแม่ พ่อเดียวกัน แต่ทั้งสองกลับเข้ากันได้ดีราวกับพี่น้องที่คลานตามกันมา แม้มารดาทั้งสองจะเสียชีวิตด้วยอุบัติรถยนต์อันน่ากังขา มีหรือที่เมียหลวงกับเมียน้อยจะยอมนั่งรถไปคันเดียวกันได้ การเสียชีวิตของภรรยาทั้งสอง ทำให้ประมุขของตระกูลตรอมใจ โรคภัยที่มีมาตามวัยจึงกัดกินและทำลายชีวิตท่านลงเสียอีกคน เชษฐ์ในวัยยี่สิบต้น ๆ จึงขึ้นมาบริหารงานแทน เมื่อน้องชายที่จบปริญญาโทจากต่างประเทศก็มาช่วยอีกแรง สองพี่น้องแข็งขัน ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคจนบริษัทจัดอยู่ในแถวหน้าของวงการได้ในเวลาไม่กี่ปี โดยมีเชษฐ์ในวัยสามสิบสองรับหน้าที่นั่งโต๊ะบริหาร ตามสายวิชาที่จบมา ประกอบกับความสุขุม ใจเย็น จึงเป็นที่กริ่งเกรงของลูกค้าและคนในบริษัท ส่วนน้องชายวัยยี่สิบแปดรับหน้าที่ทำงานภาคสนาม คุมงานก่อสร้างต่าง ๆ ด้วยดวินเป็นคนคล่อง ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบพบปะผู้คน การออกไปตามที่ต่างๆ จึงเป็นงานที่เขาชอบและทำได้ดี วนิษศา เป็นเลขาเชษฐ์มาห้าปี เธอรู้ใจเจ้านายทุกอย่าง และทำงานแบบถวายชีวิต หากเจ้านายยังไม่กลับบ้าน เธอก็ไม่กลับ มีบ่อยครั้งที่ทั้งสองอยู่ทำงานด้วยกันจนดึกดื่น เชษฐ์เป็นคนยุติธรรม ให้โอทีเลขาตลอด จนบางเดือนเงินโอทีเกือบจะเท่าเงินเดือน แต่ต้องแลกกับการที่ชีวิตเงียบเหงา ไร้คู่ ไม่มีเวลาไปสังสรรค์กับเพื่อน เสาร์อาทิตย์ก็นอนชาร์จพลัง รู้ตัวอีกทีเธอก็อายุสามสิบแล้ว ส่วนโอฬารหรือโอ่งเป็นเลขาดวิน หนุ่มคุณพ่อลูกหนึ่ง ผู้รักครอบครัว เจอกันทีไรมักอวดคลิปลูกในมือถือบ่อย ๆ ผิดกับเจ้านายที่มองเธออย่างหมิ่นแคลน แอบเรียกเธอลับหลังว่ายัยป้าแหวน ด้วยเธอเผลอหักหน้าครั้งเดียว เขาผูกใจเจ็บมาจนถึงบัดนี้ นิสัยเด็ก...โตแต่ตัวจริง ๆ ชีวิตการทำงานและส่วนตัววนิษศาดำเนินไปอย่างราบรื่น...จนกระทั่งงานเอาท์ติ้งของบริษัท ทุกคนลงความเห็นกันว่าจะไปเที่ยวทะเล จองโรงแรมและห้องจัดเลี้ยงกันเสร็จสรรพ และเดินทางกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ งานนี้เชษฐ์อนุญาตให้ดื่มเหล้าแบบไม่อั้น ตอบแทนทุกคนที่ทำงานเหนื่อยยากกันมาหลายเดือน พนักงานทุกคนจึงปลดปล่อยและสนุกสนานครื้นเครงกันแบบไม่มีใครยอมใคร “ไปดื่มกับทุกคนเถอะ ไม่ต้องคอยดูแลผม” เชษฐ์บอกขณะเธอคอยรินเหล้าให้เขา “สนุกให้เต็มที่นะหนูแหวน” เจ้านายยิ้มจนตาหยี ในโต๊ะผู้บริหาร ขณะนี้มีเชษฐ์ เธอ โอฬาร กับผู้อำนวยการฝ่ายอยู่อีกสามคนนั่งกันอยู่ “พรุ่งนี้ไม่ต้องโทรปลุกผมก็ได้ เช็กเอาท์สายหน่อยคงไม่เป็นไร” เขาใจดีและเข้าใจพนักงานที่อยากดื่มเต็มที่ ไม่ทันไรผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่คุ้นกันดีก็มาชนแก้ว แล้วดึงมือเธอไปเต้นหน้าเวทีด้วยกัน วงดนตรีที่จ้างมาทำการบ้านมาดี เล่นเพลงยุคพวกเธอยังวัยรุ่น จึงได้ปลดปล่อยกันชนิดลืมอายุจริง วนิษศาดื่มเหล้าไปหลายแก้วแทบนับไม่ได้ เธอหัวเราะตลอดเวลาและโลกก็หมุนวิ้ง ๆ “ป้าแหวนจะกินเหล้าหรืออาบเนี่ย” ร่างแน่งน้อยชนใครบางคนจนเซปะทะอกแข็ง ๆ “เมาแล้ว...กลับห้องไป” เสียงทุ้มแสนคุ้นเคยดังเอ็ด “ฉันยังไม่เมา...เอิ้ก” แว่นเคลื่อนจนเกือบถึงปลายจมูก เธอจึงเห็นภาพเขาราง ๆ “ไม่เมาได้ยังไงป้า เห็นแล้วขัดลูกตาจริง มานี่!” เขาลากเธอออกมาจากงาน “อยู่ห้องไหนจะพาไปส่ง” เธอกับเขาอยู่กันหน้าลิฟต์ “ไม่เอา ฉันอยากสนุกต่อ” วนิษศาค้านเสียงอ้อแอ้ “นี่ป้ารู้สภาพตัวเองไหม” “ฉันไม่ใช่ป้านะ เพิ่งแค่เต็มสามสิบ ไม่มีหลานด้วย” คนเมาแต่ไม่ยอมรับแว้ด ระดมกำปั้นเท่าที่แรงมีทำโทษเขา “เอ้า! คิดว่าอายุมากกว่านั้น เห็นแต่งตัวเป็นป้ามาทำงานทุกวัน” เขาหัวเราะพร้อมประตูลิฟต์เปิดออก ด้วยเหตุที่สุราปลดปล่อยประสาทแห่งความยับยั้งช่างใจลง มือเล็กผลักคนตัวโตกว่าเข้าลิฟต์ ประกบปากจูบเขา ไม่คิดว่าริมฝีปากผู้ชายจะนิ่มขนาดนี้ ตัวเขาก็หอม กลิ่นกายสดชื่นเหมือนลมทะเลในยามเช้า วริษศาสูดดมผ่านผิวเนื้อหนุ่ม “ฉันไม่ใช่ป้า เข้าใจไหม” ดวงตาโตหลังแว่นวาบวับ หน้าซ่านแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
已经是最新一章了
加载中