บทที่ 10
พนมชัยไม่ขอเบอร์หรือการติดต่ออื่นจากวนิษศา เขารู้เธอต้องมาตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลทุกเดือน แอบใช้เส้นสายนิดหน่อยเขาต้องได้ประวัติเธอมาแน่
ค่อยเป็น...ค่อยไป หากจะคิดกลับมาคบกับหญิงสาวคนเดียวในดวงใจ ในบรรดาผู้หญิงที่คบมา เขารักวนิษศาที่สุด และเธอเป็นคนทำให้เขาเจ็บมากเช่นกัน คิดว่าชาติจะไม่ยอมเห็นหน้า ไม่อโหสิให้ แต่เมื่อพบเธอในโรงพยาบาล ใบหน้าเศร้าสร้อย ไหล่น้อย ๆ หลังบาง ๆ ก็ทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายตัวเอง
วนิษศากลับไปเป็นหนูแหวนผู้เปราะบาง เหมือนอยู่สมัยมหาวิทยาลัย
ช่างมัน! หากจะเจ็บอีก ครั้งนี้เขาไม่มีมารดาเป็นอุปสรรค พนมชัยจะตามตื๊อตามจีบเธอ...หากว่าวนิษศาท้องไม่มีพ่อจริง ๆ เขาพร้อมจะรับดูแลหนูแหวนพร้อมกับลูกอย่างยินดี
ดวินกลับไปใช้ชีวิตท่องราตรีกับเพื่อนฝูงเหมือนเดิม ที่แปลกไปคือเขาได้กลิ่นเหล้าแล้วรู้สึกพะอืดพะอมลองซดเข้าไปก็อาเจียน ร้อนให้เพื่อนหิ้วมาส่งที่บ้าน
“ไปหาหมอตรวจตับไตซะบ้างนะ ดื่มเหล้าหัวราน้ำกลับมาทุกคืน”
เชษฐ์บ่นกลางโต๊ะอาหาร ขณะเขาทั้งเมาค้างทั้งอยากอาเจียน
“อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว”
พี่ชายบ่นโดยใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ตอนวัยเท่าดวินเขามุ่งแต่งานอย่างเดียว ดื่มบ้างในงานสังคม การกระทำของน้องในปัจจุบัน จึงมองว่ามันกำลังทำลายสุขภาพไปเสียเปล่า ๆ
“คุณวินจะรับกาแฟเพิ่มแก้แฮงค์ไหมคะ” หนึ่งหรัด หัวหน้าแม่บ้านถาม
“ไม่เอาล่ะ ขอน้ำเย็น ๆ สักแก้วก็พอ”
หญิงสาวรินน้ำเติมให้เขาอีกค่อนแก้ว
“ฝากโทรหาโอ่งด้วย บอกขอนัดหมอ ฉันจะไปตรวจร่างกายหน่อย เอาสักวันจันทร์” เขาสั่งแม่บ้าน เธอทำตามอย่างที่บอกอย่างแข็งขัน
โรงพยาบาลที่ดวินมาตรวจคือโรงพยาบาลเดียวกับวนิษศามาฝากครรภ์ ด้วยเขามีเพื่อนเป็นแพทย์อยู่ที่นี่ แต่วันนี้เพื่อนลาป่วยเพราะเป็นหวัด
“คนไข้รอตรวจกับคุณหมอพนมชัยนะคะ”
พยาบาลหน้าเคาน์เตอร์บอก ดวินมากับโอฬาร แต่ตอนเข้าห้องตรวจเขาขอไปคนเดียว
“คนไข้เป็นอะไรมาครับ”
นายแพทย์พนมชัยไม่ได้เป็นชายสูงวัยแก่ ๆ อย่างที่คิด ยังหนุ่มและดูสุขุม
“ผมกินเหล้าแล้วรู้สึกได้กลิ่นแล้วมันพะอืดพะอมอยากจะอ้วก แฮงค์ก็นานกว่าปรกติ” ดวินเล่า
“แล้วปรกติคนไข้ดื่มหนักไหมครับ อาทิตย์ละกี่วัน”
เขาเม้มปาก ไม่กล้าตอบว่าดื่มทุกวัน แพทย์เลิกคิ้ว ดูทรงการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นหนุ่มสังคมจัด เดาว่าดื่มทุกวัน
“เพลา ๆ เรื่องดื่มบ้างนะครับ อาการอย่างนี้แสดงว่าร่างกายเราเริ่มเตือนแล้ว เท่าที่ดูผลเลือดกับผลปัสสาวะยังไม่มีปัญหา”
พนมชัยคลิกเมาท์คอมพิวเตอร์ เลื่อนเคเซอร์ไปสั่งยาบำรุง
“ลองหยุดดื่มเหล้าดูสักสองอาทิตย์ก่อนนะครับ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยมาหาหมอใหม่ ออกกำลังกาย พักผ่อนเยอะ ๆ”
“ผมไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมครับ” ดวินถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ตอนนี้น่ะยัง แต่ถ้าดื่มต่อไปล่ะก็ ไม่แน่”
พนมชัยส่งยิ้มเย็น ดวินกลอกตาขึ้นฟ้า เซ็งในคำสั่งห้ามดื่มของชอบ แล้วก็เดินตามพยาบาลออกไปจากห้องตรวจ
“หมอว่ายังไงบ้าง”
เชษฐ์ทัก ยามถึงมื้อค่ำ โต๊ะอาหารหรูยาวใหญ่โต ซึ่งแต่ก่อนมีสมาชิกในครอบครัวพร้อมพรั่ง แต่ตอนนี้มีเจ้านายนั่งอยู่เพียงสองคน
“ให้ยาบำรุงมา บอกให้งดเหล้า”
เขาจึงต้องเลื่อนนัดเพื่อนทั้งหมดแล้วมานั่งแหมะกินข้าวกับพี่ชาย
มื้อเย็นประกอบด้วยผัดคะน้าน้ำมันหอย กุ้งทอด ต้มจืดหมูใส่สาหร่าย ยำผักกระเฉด อาหารล้วนเป็นฝีมือนางทอง ป้าของหนึ่งหรัด แม่ครัวใหญ่ของที่นี่
“ยำจืดจัง ยายทองฝีมือตกเหรอเขียว”
เพราะอยู่ด้วยกันมานานเจ้านายในบ้านนี้จึงให้ความสนิทสนมกับคนรับใช้เก่าแก่เป็นพิเศษ
“ฉันว่ามันก็โอเคนะ เปรี้ยวดี” พี่ชายตักยำขึ้นชิมบ้าง
“จืดไปน่ะสิ” อีกคนยังยืนยันคำเดิม
“เหล้าทำลิ้นแกประสาทการรับรสเสียหรือเปล่า” คนร่วมโต๊ะเดา
“ไม่รู้ ผมต้องกินอาหารบ้านไปอีกนานแน่ พรุ่งนี้ให้ยายทองทำต้มโคล้งเปรี้ยว ๆ กับสะเดาน้ำปลาหวานหน่อย อยากกิน”
ชายหนุ่มสั่ง น้ำลายพุ่งปรี๊ดเมื่อนึกถึงรสชาติจัดจ้านและขมปี๋ของอาหาร หนึ่งหรัดพยักหน้ารับทราบ