บทที่ 1 (5)
ฝ่ายฟรานเชสโกนั้นได้แต่อึกอักเมื่อหล่อนมายืนตรงหน้า ทั้งที่เขาหันหน้าหนีแล้วแท้ๆ แต่เจ้าหล่อนก็ยังมาตามจองล้างจองผลาญอีก
ให้ตายเถอะแม่คุณ! ไม่รู้บ้างหรือไงว่าเสื้อผ้าของเธอนะ ถึงมันไม่โป๊ก็เหมือนโป๊จะแย่แล้ว
ชายหนุ่มนึกในใจแล้วยื่นมือออกไปจับมือกับหล่อนอย่างขอไปที แต่ทว่าแม่ตัวแสบกลับทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด วิลาสินีแกล้งก้าวเข้าไปใกล้อีกนิดพร้อมกับแกล้งสะดุดพื้นถลาเข้าไปหาเขา
“อุ้ย ขอโทษค่ะ”
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
คนไม่เจนมารยาหญิงถามพลางช่วยจับหล่อนเอาไว้ แต่ปฏิกิริยาของเขามีบางอย่างที่ทำให้วิลาสินีต้องรีบกลั้นยิ้ม เพราะหล่อนได้คำตอบในเบื้องต้นแล้วว่า ฟรานเชสโกเป็นผู้ชายที่น่าสนใจและน่าแกล้ง อย่างที่ภาคินพูดจริงๆ
ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้หล่อนคิดว่าการมาหาประสบการณ์ชีวิตอันแปลกใหม่ในครั้งนี้ ต้องมีแต่เรื่องราวสนุกๆ และไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน
เอาละฟรานเชสโก ฉันชักสนใจคุณขึ้นมาแล้วละสิ นานๆ จะมีผู้ชายที่ไม่เหมือนคุณมาให้ฉันได้รู้จัก แบบนี้ฉันจะปล่อยให้คุณมีชีวิตเงียบเหงาต่อไปได้อย่างไรกัน
ฉันสัญญากับภาคินแล้วว่าจะมาช่วยเติมชีวิตของคุณให้มีสีสัน ถึงแม้ว่าการมาในครั้งนี้ของฉันจะเป็นเพียงแค่พี่เลี้ยงเด็กหรือแม่บ้านก็ตามที แต่คุณเตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลยว่าชีวิตของคุณนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนครื้นเครงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ฟรานเชสโก ลิเวอร์โน!
วิลาสินีตั้งเป้าไว้อย่างหมายมาด แต่หล่อนคงไม่รู้หรอกว่าตัวเองโดนคนที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่เขยหลอกมาให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กกับแม่บ้าน โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วฟรานเชสโกไม่ได้ต้องการทั้งสองอย่าง แต่ต้องการมากกว่านั้น!
เขาบอกภาคินว่าต้องการภรรยาที่จะมาดูแลลูกๆ ลิงทโมนทั้งสาม ชายหนุ่มต้องการคนที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่นี้ แต่เขาไม่ได้ต้องการคนมาดูแลหัวใจ และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าภาคินไปหลอกวิลาสินีมาโดยไม่ยอมบอกความจริงให้หล่อนรู้
จนถึงตอนนี้ทั้งสองคนก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนภาคินหลอกทั้งคู่ และหนักข้อมากขึ้นก็ตรงที่เขาก็ยังคงคิดว่าหล่อนก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา เพราะพร้อมแล้วที่จะเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา รวมทั้งคิดว่าหล่อนเข้าใจกติกาที่เขาตั้งไว้และเคยบอกให้ภาคินฟังด้วยว่า
คนที่จะมาเป็นภรรยาของเขา จะได้ทุกอย่างฐานะที่ภรรยาควรได้ เสื้อผ้า ที่อยู่ เครื่องประดับและความสะดวกสบาย แต่สิ่งเดียวที่เขาให้ไม่ได้นั้นคือ หัวใจดวงนี้!
หลังจากจัดการขนเป็ดเรียบร้อย ฟรานเชสโกก็พาหล่อนขึ้นไปบนห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ชายหนุ่มเดินนำเข้าไปในห้องเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยกับตา รวมทั้งดูด้วยว่าลูกๆ ของเขาจะไม่เข้ามาวางระเบิดอะไรในห้องนี้อีก
“ฉันต้องขอโทษด้วยที่ลูกๆ ก่อความวุ่นวายให้เธอ พวกแกไม่เคยคิดว่าจะมีใครก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้มาก่อน” เขาหันมาบอกกับคนที่เดินตามเข้ามา แถมยังไม่เลิกทำตาจ้องแป๋วใส่เขาอีกต่างหาก
“ไม่เป็นไรค่ะ” หล่อนบอกแล้วถามต่อ “แต่ที่ฉันบอกว่าจะทำโทษพวกแกเมื่อครู่นี้ ฉันเอาจริงนะคะ แต่ว่าครั้งแรกนี่ฉันยกโทษให้เพราะเห็นแก่คุณ แล้วก็ถือว่าตัวเองเลินเล่อเองที่ไม่ทันคิดว่าจะเจอการต้อนรับแบบนี้ แต่งวดหน้าไม่มีแล้วนะคะ อ้อ จริงสิคะคุณบอกว่าพวกแกไม่ชินกับการที่มีคนก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ แสดงว่าก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่เคยมีพี่เลี้ยงเด็กหรือแม่บ้านเลยเหรอคะ”
“ไม่มีหรอก ที่นี่ไม่มีพี่เลี้ยงเด็กหรือแม่บ้าน มีก็แต่สาวใช้สองคน แต่ทำหน้าที่ดูแลทำความสะอาดบ้าน และทำอาหารเป็นหลักเท่านั้น เพราะที่นี่ทำเป็นฟาร์มเฮ้าส์เปิดไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว อย่างที่เธอเห็น บ้านสองหลังที่อยู่นั้นเป็นบ้านพัก”
“งั้นคุณก็ดูแลพวกเด็กๆ คนเดียวมาตลอดเหรอคะ?”
“ใช่ ก็ฉันถือว่าพวกเขาสามคนเป็นเหมือนลูกๆ ของฉันนี่ เอาละเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วฉันจะพาเธอไปรู้จักกับเด็กๆ อย่างเป็นทางการนะ...วี-ลา-สิ-นี่”
ท้ายเสียงนั้นเขาพยายามเรียกชื่อหล่อนให้ถูกต้อง แต่เขาไม่ได้มีเชื้อลูกครึ่งไทยเหมือนภาคิน เขาไม่รู้ภาษาไทยและพูดไม่ได้ การเรียกชื่อหล่อนจึงค่อนข้างเพี้ยน จนเจ้าของชื่อที่เพิ่งนึกออกว่ายังไม่ได้บอกว่าตนเองชื่อเล่นอะไรต้องรีบบอก
“ฉันชื่อเล่นน้ำฟ้าค่ะ”
“นาม ฟา...?”
“ไม่ใช่ค่ะ น้ำฟ้าค่ะ น้ำฟ้า ออกเสียงสั้นๆ ไม่ยาว” หล่อนพยายามทำเสียงให้ฟัง แต่ดูมันจะยากเกินไปสำหรับเขา เพราะเขาก็ยังคงเรียกว่า นามฟาอยู่ดี แถมๆ จะเพี้ยนเป็นนางฟ้าเสียด้วย
“นามฟ้า แปลว่าอะไร?”
“ถ้าจะเรียกตามตรงก็คือ น้ำจากฟ้าก็จะหมายถึงลูกเห็บ แต่ถ้าคุณเรียกไม่ชัด จากที่เป็นน้ำฟ้าจะกลายเป็นนางฟ้าค่ะ ซึ่งอันหลังก็แปลว่า ฟาต้าในภาษาของคุณ”
หล่อนบอกแล้วลุ้นอยู่เหมือนกันว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่า แล้วตกลงแล้วหล่อนจะเป็นแค่ลูกเห็บหรือเป็นนางฟ้ากันแน่ ส่วนเขาจะเรียกหล่อนว่าอะไรให้เข้าใจตรงกัน รวมทั้งง่ายต่อการจำด้วย
“ฟาต้า อืม...แองเจิล แองเจโล แองเจล่า ฉันว่าเธอเหมาะจะเป็นแองเจล่ามากกว่าจะเป็นลูกเห็บ งั้นฉันจะเรียกเธอว่าแองเจล่าก็แล้วกัน”
วิลาสินีนิ่วหน้าพลางลองเรียกชื่อใหม่ที่เพิ่งได้รับอยู่สองสามครั้ง แล้วก็เห็นว่ามันเพราะดี หล่อนก็หันมาพยักหน้าหงึกหงักตกลงให้เขาเรียกเช่นนั้น เพราะถ้าจะให้เขาเรียกว่าน้ำฟ้าเห็นทีจะไม่ได้เรื่องแน่
“ตกลงค่ะ แองเจล่าก็แองเจล่า”
“งั้นก็...ยินดีต้อนรับสู่บ้านลิเวอร์โนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แองเจล่าแห่งบ้านลิเวอร์โน”
ฟรานเชสโกบอกแล้วจึงโค้งกายให้อย่างสง่างาม แต่วิลาสินีกลับรู้สึกแปลกๆ กับคำสุดท้ายของเขา มันเหมือนกับว่ามีความหมายแฝงอยู่ในคำพูดสุดท้ายนั้น มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ทำไมแค่พี่เลี้ยงเด็กจึงกลายเป็นแองเจล่าแห่งบ้านลิเวอร์โนกันได้ มันฟังดูแปลกๆ เหลือเกิน
เอ๊ะ หรือว่าหล่อนจะคิดไปเองกันนะ...