บทที่ 1 (3)   1/    
已经是第一章了
บทที่ 1 (3)
พื้นไม้ขัดเงาวาววับอย่างที่ทำให้รู้ว่าเจ้าของคงรักความสะอาดอย่างสุดฤทธิ์ ผ้าม่านสีน้ำตาลถูกเปิดค้างไว้เหลือเพียงแค่ผ้าม่านสีขาวบางๆ ที่ใช้พรางสายตาจากตึกฝั่งตรงข้ามได้พอสมควร โต๊ะรับแขกทำจากกระจกใสมีแจกันดอกไม้ปักดอกลาเวนเดอร์สีม่วง โทรทัศน์ถูกตั้งไว้ด้านมุมห้องที่สามารถเดินทะลุผ่านไปยังห้องนั่งเล่นอีกห้องที่มีเตาผิงและมีชั้นหนังสือใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับอาหารจนแทบไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาได้ดีว่าเจ้าของที่นี่ทำอาชีพอะไร เพียงรุ้งมองด้วยความสนใจแต่อะไรก็ไม่สะดุดตาหล่อนเท่ากับห้องครัวขนาดใหญ่ที่อยู่ถัดจากห้องรับแขกที่หล่อนยืนอยู่ เพราะมันเรียกได้ว่ามีอุปกรณ์ครัวครบครันจนหล่อนนึกว่าตนเองอยู่ในพื้นที่เขตงานครัวของร้านของเขา ขนาดครัวของบ้านหล่อนเองยังไม่มีอุปกรณ์มากมายขนาดนี้เลย ตาหมีโหดนี่ ชีวิตคงหายใจเข้าออกเป็นอาหารอย่างเดียวจริงๆ หล่อนคิดแล้วหันมามองเจ้าของบ้านที่ดูจะทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะกระบวนความคิดที่ว่าจะเอาหล่อนไปเก็บไว้ตรงไหนของบ้านของเขา เพราะตึกแถวนี้เป็นทั้งร้านอาหารและบ้านของเขา แต่วันนี้กำลังจะถูกสาวน้อยตาคมตัวร้าย แม่ระเบิดเพลิงเข้ามายึดพื้นที่ร่วมกัน แม้จะไม่เต็มใจแต่เขาก็ต้องยอมให้หล่อนอยู่ด้วย เพียงแต่เขาไม่คิดว่าที่เฟรเดริกเขียนบอกมาในอีเมลจะเป็นเรื่องจริง ก็เลยยังไม่ได้เตรียมห้องไว้ให้ “รอตรงนี้ เดี๋ยวฉันจะไปดูห้องให้เธอ” เกสตันสั่งแล้วหิ้วกระเป๋าของหล่อนติดมือไปด้วย แล้วเดินกลับไปยังบันไดที่เพิ่งเดินขึ้นมา เขาก้าวขึ้นไปข้างบนโดยทิ้งแม่ระเบิดเพลิงไว้เพียงลำพัง เพียงรุ้งไม่ได้ว่าอะไร ตรงกันข้ามหล่อนกลับเดินผ่านห้องรับแขกเข้าไปยังห้องนั่งเล่นที่มีเตาผิง แล้วความสนใจของหล่อนก็พุ่งตรงไปที่หนังสือมากมายก่ายกองของเขา บนชั้นหนังสือติดผนังอัดแน่นไปด้วยหนังสือ บางส่วนก็อยู่บนโต๊ะด้วยก็มี ทั้งหนังสือทั้งนิตยสาร วารสารเกี่ยวกับอาหารมากมาย รวมทั้งตำราอาหารสัญชาติต่างๆ มากมายจนหล่อนรู้สึกลายตาไปหมด แล้วก็อดนึกเปรียบเทียบไปถึงพี่ชายคนโตของหล่อนไม่ได้ว่า โชคดีที่รายนั้นไม่บ้าอาหารขนาดนี้ เพียงรุ้งไล่ปลายนิ้วบนชั้นหนังสือแล้วก็ไปสะดุดกับหนังสืออาหารไทยที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ มันเป็นเล่มเดียวกับที่หล่อนมีอยู่ด้วยเหมือนกัน หญิงสาวนิ่วหน้าเล็กๆ ก่อนจะหยิบมันออกมาดูแล้วจึงเห็นว่ามีกระดาษถูกหนีบไว้กับหน้าปก แถมยังมีเทปติดคั่นหนังสือแปะคั่นไว้ในเมนูหนึ่งด้วย พอหล่อนพลิกดูก็ต้องแปลกใจที่มันเป็นเมนูอาหารว่างเดียวกับที่หล่อนชอบ แต่หล่อนยังไม่เคยทำมันสำเร็จเองเลยสักครั้งเดียว ทั้งรสชาติและหน้าตาของมันไม่เคยออกมาเหมือนกับที่มารดาทำเลยสักนิด หล่อนมองโน้ตหลายแผ่นที่ถูกหนีบไว้กับตัวปกหนังสือ มันถูกเขียนไว้ราวกับว่าคนเขียนได้เขียนมันไว้เพื่อช่วยเตือนและทำความเข้าใจกับเมนูนี้ให้ได้มากที่สุด แถมยังมีวันเดือนปีที่เขาได้ลงมือทำเมนูนี้เขียนกำกับไว้ด้วยว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างใดและมีอะไรที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางบ้าง ในครั้งสุดท้ายก็เป็นวันที่เมื่อเร็วๆ นี้เอง “จริงจังเหมือนเดิมแฮะ ตาหมีนี่” หล่อนพึมพำแล้วเก็บหนังสือตำราอาหารไทยเข้าที่ แล้วเดินดูหนังสือบนชั้นไปเรื่อยด้วยความสนใจ ความคิดของหล่อนเกี่ยวกับเกสตันกลับกลายเป็นความรู้สึกทึ่งกับการได้บุกรังหมีในวันนี้ แม้จะรู้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผู้ชายคนนี้เป็นคนจริงจังกับอาชีพของตนเองเพียงใด แต่ไม่คิดว่าเขาจะทุ่มเททำจนเรียกได้ว่าบ้าอาหารเข้าขั้นขนาดนี้ ในขณะที่พี่ชายของหล่อนดูจะทำอะไรสบายๆ ไปเสียทุกเรื่อง ผิดกับเกสตันที่จริงจังทุกอย่าง... ที่เกี่ยวกับอาหาร สมกับที่ต้องเรียกว่าบ้าทำอาหารอย่างแท้จริงเลยทีเดียว เพียงรุ้งคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจกับหมีโหดที่บ้าทำอาหารจนยากจะเยียวยา ในเมื่อก็เห็นอยู่ชัดๆ แล้วว่าเขาบ้าอาหารขนาดไหน หล่อนถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วเดินไปแนบใบหน้ามองวิวริมหน้าประตูระเบียง ไม่เคยสักครั้งที่จะได้มองปารีสในมุมนี้มาก่อน ชีวิตของหล่อนอยู่ที่ดีน็องหรือถ้าจะพูดให้ถูกแล้วก็คือหล่อนเป็นสาวบ้านนอกแห่งประเทศที่งดงามและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรักที่แสนโรแมนติก หล่อนเคยฝันว่าสักวันจะได้มีความรักที่โรแมนติกกับคนอื่นบ้าง แต่ดูเหมือนผู้ชายคนแล้วคนเล่าที่เข้ามาในชีวิตกลับไม่เคยใช่คนที่หล่อนรอคอยเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาเห็นหล่อนหน้าตาสวยก็เข้ามาจีบ แต่พอเจอความซุ่มซ่ามของหล่อนเข้าไปก็พากันหนีและบอกเลิกไปหมด จนทำให้หล่อนคิดว่าคงไม่มีใครที่ก้าวเข้ามาเพื่อรักหล่อนที่เป็นแบบนี้ได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายคนสุดท้ายที่ทำให้หล่อนเจ็บจี๊ดแบบสุดๆ ผู้ชายคนนั้นบอกเลิกหล่อน เพียงเพราะหล่อนทำอาหารไม่เก่งเท่ากับแฟนใหม่ของเขา แล้วยังบอกด้วยว่าหล่อนเป็นแค่ลูกแหง่ของบ้านเลอ บลองค์ที่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพึ่งพาพี่ชายไปวันๆ แล้วเขาก็ท้าทายหล่อนด้วยการบอกว่า ถ้าหล่อนมีปัญญาเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองได้เมื่อไหร่ เขาถึงจะยอมถอนคำพูดนี้! เพียงรุ้งเก็บความน้อยใจและความแค้นใจนี้ไว้ แล้วไปรบเร้ากับเฟรเดริกผู้เป็นพี่ชายให้สอนหล่อนทำอาหารแบบที่ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางมาดูถูกได้อีก แต่หล่อนไม่ได้บอกไปว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นเป็นเพราะหล่อนต้องการเอาชนะผู้ชายที่กล้าทิ้งหล่อนไปด้วยการสบประมาทต่างหาก แต่เฟรเดริกไม่เล่นด้วย หล่อนเลยต้องไปขอร้องบิดาแล้วแสร้งบอกท่านว่าหล่อนอยากเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองบ้าง มันจึงเป็นที่มาว่าทำไมบิดาและพี่ชายทั้งสองคนจึงเลือกส่งหล่อนมาให้หมีโหดแทน แต่ทุกคนยังไม่รู้ความจริงเบื้องหลังเรื่องนี้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะหล่อนแค่ต้องการเอาชนะการถูกผู้ชายคนหนึ่งหักอกมาต่างหากเล่า! “คอยดูนะ ฉันจะเหยียบจมูกผู้ชายทุกคนที่เคยว่าฉัน ก่อนอื่นก็หมีโหดนี่แหละ!” หล่อนเปรยอย่างหมายมาดแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อหมีโหดส่งเสียงมาจากด้านหลัง เสียงของเขาบอกชัดว่าได้ยินชัดเต็มสองรูหูว่าหล่อนคิดจะเหยียบจมูกหมีก่อน “ถ้าคิดจะเหยียบจมูกฉันให้ได้ ก่อนอื่นช่วยเอาชีวิตรอดกลับไปให้ได้ก่อนจะดีกว่ามั้งแม่คุณ!” เพียงรุ้งหันมองก็เห็นเขายืนจังก้าใบหน้าบึ้งตึงแบบสุดๆ ในมือของเขาถือกุญแจดอกหนึ่งเอาไว้ก่อนที่เขาจะโยนมาให้หล่อนด้วยอารมณ์แบบหมีๆ หญิงสาวรับมันไว้ได้ทันก่อนมันจะตกลงพื้น แต่กลับไม่กล้าสบตาของเขาที่กำลังมองมาอย่างตรวจสอบราวกับว่า หล่อนเป็นวัตถุอันตรายที่ไม่น่าไว้วางใจ แถมยังเป็นวัตถุที่ทำให้เขาอารมณ์พุ่งปรี๊ดขึ้นมาได้อย่างง่ายดายเสียด้วย “ตามฉันมา จะพาไปดูห้องของเธอ” เกสตันบอกทื่อๆ แล้วหมุนกายเดินนำไปด้วยความหงุดหงิดที่ได้ยินหล่อนพูดคำนั้นออกมา มันทำให้เขาคิดไปว่า หล่อนคงไม่ได้คิดจะมาเรียนทำอาหารจริงๆ หรอก แต่ที่อยากจะเรียนทำอาหารก็แค่อยากเหยียบจมูกเขา หล่อนแค่อยากเอาชนะเขาเท่านั้นเอง!
已经是最新一章了
加载中