บทที่ 1 (5)
“ไม่รู้...” หล่อนตอบเพราะไม่รู้จริงๆ
เกสตันมองหาบาดแผลบนหน้าผากของหล่อน พอไม่เห็นว่ามีรอยถลอกอะไรนอกจากรอยแดงที่คาดว่าจะกลายเป็นลูกมะนาวเร็วๆ นี้ เขาก็ค่อยเบาใจได้ว่าหล่อนไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ที่หนักใจก็คือ แม่ระเบิดเพลิงยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมและไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้นได้เลยสักนิด
“เดี๋ยวฉันเอายาทามาให้ แบบนี้ปูดแน่ๆ”
เพียงรุ้งทำหน้าน่าสงสารพลางมองเขาน้ำตาคลอนิดๆ ยามที่เขาใช้นิ้วคลึงลงไปบนหน้าผากของหล่อน แล้วจู่ๆ หล่อนก็นึกอยากให้เขาทำอย่างที่บิดาเคยทำให้เสมอมา แม้ว่าหล่อนจะโตแล้วท่านก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม มันคือการเป่าความเจ็บปวดให้จางหายไป
“เป่าให้หน่อยได้ไหมคะ”
เกสตันชะงักมองหน้าหล่อนอย่างไม่คาดคิด ก็ใครจะไปเชื่อได้ล่ะว่าแม่ระเบิดเพลิงตัวดีจะขอให้เขาทำอะไรแบบนี้ ซึ่งมันเป็นมุมที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน ตั้งแต่รู้จักหล่อนและครอบครัวเลอ บลองค์มาหลายปี หล่อนไม่เคยให้เขาเห็นมุมนี้มาก่อนเลย... มุมที่อ่อนแอ
“เจ็บมากเหรอ?” เขาถามเสียงอ่อนโยนลงมาก
“ไม่หรอกค่ะ แต่พ่อมักเป่าให้บ่อยๆ เวลาฉันได้แผล”
ชายหนุ่มยิ้มกับคำสารภาพที่ได้ยินแล้วจึงยอมทำตามใจหล่อนเป็นครั้งแรก เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อจะเป่ามนต์วิเศษอย่างที่คุณเลอ บลองค์คงทำให้ลูกสาวคนนี้ แต่การเข้าใกล้หล่อนในครั้งนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็นหล่อนแบบที่ผู้ชายกำลังมองผู้หญิง ไม่ใช่พี่ชายที่มองน้องสาวของเพื่อน ไม่ใช่เพียงแค่คนรู้จักที่มองกันธรรมดาๆ มันมีแรงดึงดูดที่มากกว่านั้นหลายเท่าที่เขาเองก็ตอบไม่ได้ว่ามันคืออะไร ยิ่งยามที่เขาสบกับนัยน์ตากลมโตที่สวยคมเหมือนคุณนายเลอ บลองค์ แล้วยังผิวแก้มเนียนที่ยิ่งพิศดูใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้เห็นความสวยที่เขาเคยมอง แต่ไม่เคยรู้สึกใจเต้นโครมครามเหมือนกับคราวนี้มาก่อน
เขาก้มหน้าลงไปใกล้หล่อนมากขึ้น แต่เป้าหมายกลับไม่ใช่ที่หน้าผากอย่างที่ควรเป็น ส่วนหล่อนก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในภวังค์ของความใกล้ชิดของเขา เพราะหล่อนเองก็เพิ่งสำนึกได้ว่าเกสตันเป็นผู้ชายและหล่อเหลามากเสียด้วย
ทั้งที่หล่อนมองเขาเป็นเหมือนเพื่อนของพี่ชายมาตลอด แต่มาวันนี้หล่อนกำลังมองเขาในฐานะของผู้หญิงที่กำลังมองผู้ชายคนหนึ่ง มันเป็นความรู้สึกที่หวิวไหวแปลกๆ จนหล่อนรู้สึกเขินอายขึ้นมาและเผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนเองครั้งหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว
แต่มันกลับกลายเป็นการเชิญชวนเขาอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจและเขาก็ไม่รู้ตัวด้วยเช่นกันว่าทำไม ความต้องการเจ้ากรรมมันถึงได้ผลักดันให้เขาทาบริมฝีปากลงไปบนเรียวปากของหล่อน เขาไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม รู้แต่เพียงว่าสตินึกคิดบอกให้ค้นหาคำตอบที่สงสัยอยู่ให้ได้ ว่าแม่ระเบิดเพลิงจะให้รสชาติหวานล้ำเพียงใด
“เกส...” เสียงร้องของหล่อนต้องกลืนหายเมื่อจุมพิตที่แสนอ่อนโยนถูกมอบให้อย่างเต็มใจ หล่อนยอมให้เขาจุมพิตด้วยความอยากรู้ว่าหมีโหดจะจูบเป็นเหมือนกับคนอื่นหรือเปล่า
เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมา หล่อนไม่เคยเห็นเขาควงผู้หญิงคนไหนมาเยี่ยมเยียนบ้านเลอ บลองค์เลยสักคน แถมพี่ชายของหล่อนยังบอกด้วยว่าเกสตันไม่เคยคบกับใคร จนหล่อนเคยคิดว่าเขาเป็นเกย์เสียด้วยซ้ำ หรือถ้าไม่ใช่เกย์ก็ต้องเป็นไก่อ่อนแน่ แต่ตอนนี้หล่อนรู้แล้วว่า หมีโหดเกสตันไม่ใช่ไก่อ่อนและเขากำลังทำให้หล่อนหลอมละลายไปกับจุมพิตของเขาแล้วเสียด้วยสิ!
เกสตันขบเม้มริมฝีปากล่างสลับกับริมฝีปากบนของหล่อนเบาๆ เหมือนจะย้ำให้หล่อนเตลิดไปกับความพิศวาสที่เขาอยากรู้ว่าหล่อนจะให้ได้มากแค่ไหน แต่พอหล่อนคล้อยตาม เขาก็ต้องการที่จะได้มัน...มากกว่านี้
เสียงครางเบาๆ ด้วยความพึงพอใจดังมาจากเรียวปากของหล่อน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหล่อนพึงพอใจจุมพิตของเขามากแค่ไหน จนเมื่อหล่อนเผยอเรียวปากให้ เขาก็สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของหล่อน หยอกเย้าซึ่งกันและกัน จนเขาได้รู้ความจริงอีกข้อหนึ่งว่าแม่ระเบิดเพลิงก็แอบร้อนแรงอยู่เหมือนกัน
ยิ่งยามที่หล่อนเลียนแบบการพลิ้วลิ้นไปมาตามจังหวะและวิธีเดียวกับที่เขาทำ มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนฉ่าเหมือนกับเปลวเพลิงที่ปะทุขึ้นมาและมันก็ยากที่จะดับลงไปได้ ยกเว้นแต่ว่าสติของเขายังดีอยู่มากเกินกว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้จบลงบนพื้นหรือบนเตียงข้างหลังหล่อน!
เกสตันถอนริมฝีปากออกอย่างรวดเร็วพลางยัดชุดสีขาวที่เขาถืออยู่ให้หล่อนก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเตรียมหมุนกายออกจากห้องไป แต่ก็ยังไม่วายหันมากำชับกับหญิงสาวที่ยังคงนั่งทำตาปริบๆ อยู่ด้วยอารมณ์ยังค้างคาอยู่กับจุมพิตของเขา
“เดี๋ยวเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วลงไปข้างล่าง เรามีงานต้องทำกันอีกมาก...”