บทที่ 3   1/    
已经是第一章了
บทที่ 3
“พ่อ” เสียงเรียกของนับดาวทำให้พวกที่กำลังเข้ามาในบ้านสนใจรีบเดินตามมาดูกลับพบว่าสองพ่อลูกกำลังวิ่งหนีออกจากบ้าน “เฮ้ย! มันออกข้างหลังบ้าน ตามไปเร็ว” นับดาววิ่งตามผู้เป็นพ่อมาติด ๆ แต่อยู่ ๆ พ่อของเธอก็หายไป หญิงสาวหันซ้ายมองขวาหาที่หลบก่อนจะเจอเข้ากับกองตะกร้าทิ้งขยะ ด้วยร่างที่บางผอมและอาศัยความมืดของท้องฟ้าช่วยอำพรางสายตาจากพวกนั้นเธอตัดสินใจนั่งแอบข้างถังขยะและตะกร้าที่มีท่วมหัวไม่อาจมองเห็นได้แน่ เสียงฝีเท้าวิ่งมาหยุดใกล้ ๆ ดวงตากลมโตปิดลงหากันแน่น เสียงหัวใจเต้นแรงเร็วจนหูอื้อ พร้อมกับไม่กล้าหายใจเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียง “พ่อมันหนีหนี้ไปแล้ว เอายังไงดีพี่” “พรุ่งนี้ไปดักที่ร้าน ลูกสาวมันต้องไปทำงานที่นั่นแน่” อีกคนสั่งแล้วเดินกลับไปทางเดิมขืนยังหาต่อคงไม่เจอง่าย ๆ เพราะมืดจนแทบจะมองไม่เห็น ต่อให้มีแสงไฟก็เสียแรงเปล่าสู้ไปดักลูกสาวมันที่ร้านพรุ่งนี้จะดีกว่าอีก นับดาวนั่งปิดปากตัวเองน้ำตาซึมด้วยความกลัว เธออยู่ตรงนั้นจนแน่ใจว่าลูกสมุนเจ้าหนี้ไม่กลับมาแล้วรีบเดินกลับบ้านเพื่อนทันที เส้นทางไกลกว่ากันเพราะต้องเดินจักรยานถูกทิ้งไว้ที่บ้านไม่กล้ากลับไปเอา ทุกย่างก้าวนับดาวระแวงไปหมดเพราะกลัวว่าจะมีใครตามมาหรือไม่ ครึ่งชั่วโมงต่อมา นับดาวเดินเข้ามาในบ้าน ผมเผ้ารุ่งรังพร้อมแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ทันทีที่ร่างบางก้าวพ้นประตูบ้าน เสียงทักทายจากลลิตาดังขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้ดึกมากแล้วแถมโทรหาไม่ติด “ดาว หายไปไหนมาทำไมโทรหาไม่ติด” ลลิตาเดินเข้ามาใกล้แต่ถูกอีกฝ่ายโผเข้าหาร้องไห้สะอื้นเสียงดัง นับดาวกอดเพื่อนร้องไห้เรี่ยวแรงไม่มีเหลือจนทรุดลงกับพื้น น้ำตาหลั่งไหลราวทำนบแตก ความกลัวทำเอาร่างบางสั่นเทาไปทั้งตัว หญิงสาวระบายมันออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลอาบตามร่องแก้ม “เป็นอะไร ใครทำอะไรแก บอกฉันมา” ลลิตานั่งกอดปลอบเพื่อน ไม่รู้ว่านับดาวไปเจออะไรเข้าถึงได้ร้องไห้เอาเป็นเอาตายแบบนี้ คนเข้มแข็งมาตลอดพอบทจะร้องก็ร้องปานจะขาดใจมันน่าเป็นห่วง เนิ่นนานกว่านับดาวจะสงบพร้อมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลลิตาและน้าฟัง ในตอนนี้เธอกลับไปทำงานที่เดิมไม่ได้แล้ว และไม่รู้จะนำความเดือดร้อนมาสู่ที่นี่หรือไม่ สิ่งเดียวที่เธอต้องทำคือหางานทำและหาเงินไปใช้หนี้ทุกคนจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ด้านลลิตานั้นไม่คิดเช่นนั้นเธอโกรธที่เพื่อนมีพ่อแบบนั้น แทนที่จะช่วยกันหาเงินกลับไปสร้างหนี้ให้ลูกตัวเองเดือดร้อน “แจ้งตำรวจเลยไหมฉันจะไปด้วย” ลลิตาเสนอ แต่เพื่อนส่ายหน้าไปมาเธอกลัวไม่อยากให้คนรอบกายต้องเจอปัญหา “ฉันจะหาเงินมาใช้หนี้แล้วหนีไปอยู่ที่ไกล ๆ” “น้าก็เห็นด้วย คนพวกนี้ถ้ากล้าปล่อยเงินกู้นอกระบบก็ต้องมีเส้นสายเป็นตำรวจด้วยกันด้วย ขืนทำอะไรไม่รอบคอบคนที่เดือดร้อนจะเป็นเรามากกว่า” แม่ลลิตาบอกคนเป็นลูกได้แต่สบถไม่สบอารมณ์เพราะทำอะไรคนพวกนั้นไม่ได้เลย “ลิตาเถ้าแก่ยังรับคนอยู่ไหมฉันจะไปทำงานด้วย” นับดาวถามเพื่อนเสียงสะอื้น “รับสิ ช่วงนี้เป็นไฮซีซั่นลูกค้าจะเยอะหน่อยแต่เวลาเปิดปิดร้านเท่าเดิม พรุ่งนี้ฉันจะพาไปนะ”ลลิตาถอนหายใจ ชื่นชมความใจเด็ดของนับดาวที่พยายามจะหาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อ หากเป็นหล่อนคงทิ้งวิ่งหน้าตั้งไปนานแล้ว “อือ ขอบใจมากนะถ้าไม่มีเธอกับคุณน้าฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง” “เราเป็นเพื่อนกันนี่นา แต่พวกนั้นไม่รู้ใช่ไหมว่าเธอพักที่นี่” “ไม่หรอกพวกนั้นยังเข้าใจว่าฉันพักอยู่ที่บ้านกับพ่อ” “ไปทานข้าวกันเถอะน้าทำอาหารอร่อยไว้เยอะเลย พรุ่งนี้ค่อยพยายามใหม่” มารดาลลิตาชวน เห็นใจหญิงสาวไม่น้อยที่ต้องเจอแบบนี้แต่มันคือชะตาชีวิตของแต่ละคนที่ต้องเจอนับดาวปาดน้ำตากอดเพื่อนอีกครั้งด้วยความขอบคุณก่อนจะเดินตามไปนั่งทานข้าว ซาบซึ้งที่ทุกคนไม่ไล่เธอไปเมื่อเจอปัญหาเช่นนี้ วันรุ่งขึ้น เวลาทำงานปกติคือห้าโมงเย็นถึงเที่ยงคืนแต่ต้องมาก่อนหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องเตรียมของ ช่วยกันทำความสะอาดร้าน สาวสวยสองคนในชุดเน้นสัดส่วนเดินโฉบเฉี่ยวเข้ามาในร้าน นับดาวและลลิตาไซส์ใกล้เคียงกันเธอจึงถูกเพื่อนบังคับให้ใส่ ด้วยรูปร่างเพรียวบางเพียงใช้การย่างก้าวให้ถูกจังหวะโปรยเสน่ห์ให้ถูกที่ เพียงเท่านี้ทุกคนต้องชายตามองแน่ เส้นผมดำขลับถูกปล่อยสยายตามแผ่นหลังพลิ้วไหวไปมาตามการย่างก้าว พอนับดาวได้แต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เน้นรูปกว่าเดิม นางงามจักรวาลก็เถอะยังน้อยหน้า ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มเน้นความขาวเนียนของผิวเธอ ลลิตาเคาะห้องทำงานของผู้จัดการร้านก่อนจะหันพยักหน้าให้เพื่อนตามเข้าไปข้างใน เธอพยายามทำตัวไม่มีปัญหาและมองข้ามสายตาหื่น ๆ ของเถ้าแก่และตั้งหน้าตั้งตาทำงาน
已经是最新一章了
加载中