บทที่ 5
“งั้นพรุ่งนี้เช้าเจอกันได้ไหมคะ ดาวอยากคุยรายละเอียด” นับดาวเสนอเมื่อโอกาสยื่นมือมาหาไม่มีเหตุผลใดที่เธอยังไม่รับไว้พิจารณา
“ได้สิจ๊ะ ยังไงน้องมาคนเดียวกันก่อนถ้าตกลงจะพาเพื่อนไปพี่จะได้ล็อคคิวไว้ให้ โอเคนะคะ”เรวัตยกมือทำรูปตัวโอ
“ค่ะ” นับดาวส่งยิ้มก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ เรวัตยืนกอดอกมองรูปร่างที่ผู้หญิงคนไหนก็ต้องอิจฉาไม่เพียงเท่านั้นอีกฝ่ายยังมีใบหน้างดงามอีกด้วย แม้แสงสว่างจะน้อยแต่มองออกว่าเธอคนนี้สวยและมีเสน่ห์มาก
นับดาวเดินกลับมาส่งออร์เดอร์ให้ห้องครัวพร้อมกับถูกลลิตาถามเพราะเห็นยืนคุยกับลูกค้าอยู่นาน
“มีอะไรเหรอ”
“มีเอเจนซี่มาชวนฉันไปเป็นเด็กเสิร์ฟงานเลี้ยงเศรษฐีคืนหนึ่งได้ห้าหมื่นแกว่าฉันควรไปดีไหม” นับดาวลากลลิตาออกมาบริเวณไม่มีคนและมีแสงสว่างพอให้คุยกันได้ ก่อนส่งนามบัตรให้พร้อมบอกเพื่อนน้ำเสียงตื่นเต้น
“แล้วเขาว่าไง บอกรายละเอียดหรือยัง” ลลิตามองชื่อในนามบัตรแต่ยังแคลงใจเรื่องเงินที่มันโอเวอร์จนไม่น่าเชื่อว่าไปเป็นเพียงสาวเสิร์ฟธรรมดา
“นัดคุยกันพรุ่งนี้”
“เงินไม่ใช่เล่น ๆเลยนะ แค่ไปเดินเสิร์ฟทำไมได้เยอะแบบพริตตี้”
“ก็ใช่ หรือฉันควรปฏิเสธไป”
นับดาวครางเห็นด้วย เพราะแบบนี้เธอถึงอยากคุยให้ชัดเจนตอนนี้มันเวลางานคงไม่สะดวกเท่าไรอีกอย่างพรุ่งนี้ให้ลลิตาไปช่วยฟังด้วย
“เฮ้ย ไม่ได้ ลองไปคุยก่อนถ้ารู้สึกแปลก ๆ ค่อยปฏิเสธอีกอย่างแกต้องใช้เงินด้วยไม่ใช่เหรอ”
ลลิตาส่ายหน้าเร็ว ๆ ไม่อยากให้เพื่อนเลิกล้มความตั้งใจเพียงเพราะคำพูดของตนเอง แต่นับดาวคงรู้สึกได้โดยที่เธอไม่ต้องบอก ไม่อย่างนั้นคงไม่นัดคุยรายละเอียดก่อนตอบตกลงทันที
นับดาวพยักหน้ารับ สับสนเมื่อเจอคำพูดลลิตาสะกิดเข้าในใจ เงินไม่น้อยทำงานเพียงอย่างเดียวก็น่าสงสัย วันพรุ่งนี้ค่อยไปถามให้รู้เรื่องแล้วกัน แต่หากได้เงินก้อนนั้นมามันอาจเปลี่ยนชีวิตเธอได้เลย เพราะตอนนี้เธอมีราว ๆ ห้าหมื่นเหลืออีก ห้าหมื่นเพื่อใช้หนี้ของพ่อ หญิงสาวภาวนาขอทุกอย่างผ่านไปด้วยดีอย่าได้มีอะไรมาขวางและขอให้เรวัตเป็นคนดี วันนั้นนับดาวทำงานด้วยความสุขเมื่อมองเห็นความหวังของเธอ
วันรุ่งขึ้น ร้านกาแฟ... สถานที่นัดหมายของเรวัต นับดาวในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้าสอดชายเสื้อเข้าในกางเกงยีนขาสั้นเหนือเข่าอวดความเรียวยาวของขาไร้ไขมัน เดินเข้ามาในร้านกาแฟตามเวลานัดหมายพอดี ใบหน้ารูปไข่ไร้การแต่งแต้มเครื่องสำอางมีเพียงประแป้งทาลิปสติกเน้นความเอิบอิ่มของริมฝีปากได้รูปคู่นั้นยามเจ้าตัวคลี่ยิ้มหยุดสายตาจากคนรอบกายได้ดีบวกกับพวงแก้มทั้งสองถูกปัดให้ซับเลือดฝาดอย่างน่ามองผิดกับผู้หญิงคนอื่นที่มักแต่งหน้าจัด
นับดาวทรุดกายนั่งอีกฝั่งเมื่อเห็นเรวัตนั่งอยู่ก่อนแล้ว จากที่จะชวนลลิตามาด้วยแต่ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นและใกล้เวลานัดแล้วด้วยเธอเลยตัดสินใจมาคนเดียว หญิงสาวยกมือไหว้ทักทายก่อนจะเข้าเรื่องกันทันที
“งานที่เจ๊จะให้ทำง่ายมากเลยค่ะ แค่เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มตามงานงานเริ่มตอนสามทุ่มถึงเที่ยงคืนรับเงินก่อนเริ่มงานพอครบเวลาก็กลับบ้านได้เลย” เรวัตบอกเพียงเท่านั้นไม่ได้ลงลึกรายละเอียดปลีกย่อยที่ผู้หญิงทุกคนต้องทำ
“ตกลงค่ะ ดาวรับงานนี้”เธอตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เมื่อคืนนอนคิดมาแล้วหากปล่อยเงินก้อนนี้ให้หลุดมือคงอีกนานกว่าจะได้เงินตามเป้าเพราะแบบนี้เธอต้องคว้ามันไว้
“ต้องแบบนี้สิจ๊ะ เจ๊ลืมบอกตอนนี้โควตาเต็มแล้วคุณน้องคงพาเพื่อนมาด้วยไม่ได้แล้ว จะเป็นอะไรไหมถ้าไปคนเดียว”เรวัตแสร้งตีหน้าเสียดายตามมารยาสาวประเภทสอง
“ได้ค่ะ” นับดาวตอบตกลงแม้เสียดายที่ลลิตาไม่ได้ไปด้วย
“ดีมากเลยอันนี้เงินครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งไปรับที่...ก่อนเริ่มงานวันพรุ่งนี้ เวลาสองทุ่มครึ่งให้ไปตามที่อยู่นี้ ส่วนชุดเจ๊เตรียมมาให้แล้ว”เรวัตส่งกระดาษระบุสถานที่เวลาเตรียมงานเวลาเริ่มงานเวลาปิดงานพร้อมส่งชุดทำงานให้หญิงสาวก่อนจะส่งยิ้มซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ภายใต้รอยยิ้มหวานปานน้ำผึ้งนั้น
“ขอบคุณมากค่ะ”
นับดาวไม่เอะใจสายตาแปลก ๆ ที่มองมาสักนิด หลังรับข้าวของเสร็จอีกฝ่ายก็ขอตัวกลับทันที หญิงสาวอ่านรายละเอียดสถานที่เวลาอีกครั้งก่อนจะเดินทางกลับบ้านโดยไม่ลืมนำเงินฝากธนาคารเท่านี้ก็เหลือไปรับที่งานก็พร้อมจ่ายหนี้ให้เสี่ยโต้ง ความหวังเห็นอยู่รำไรแต่ใครจะรู้ว่าคืนพรุ่งนี้อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตนับดาวตลอดกาล