บทที่10. คุณไม่ใช่เจ้าของฉันนะคะ   1/    
已经是第一章了
บทที่10. คุณไม่ใช่เจ้าของฉันนะคะ
“ขอโทษนะคะหมอยามาท” “เรื่องเล็กน้อยพระเจ้าข้า” “แต่ก็ทำให้ต้องรีบกลับมาด่วน ทั้งที่ยังไม่ครบกำหนดลาพักร้อน” “ขอแค่พระชายาแข็งแรงก็พอแล้วพระเจ้าข้า” ยามาทยิ้ม วางมือจากการตรวจรักษาพระชายาอารยา โดยมีองค์ราเฟย์ กษัตริย์แห่งบาฮาเนียประทับอยู่ใกล้ด้วยความกังวล “หม่อมฉันบอกแล้วแค่เป็นหวัดเฉยๆ พระองค์ก็ไม่ทรงเชื่อ” อารยาค้อนราเฟย์ผู้เป็นพระสวามี “เป็นไข้หวัดใหญ่ลงกระเพาะ” ราเฟย์ตรัสด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “รักษาแต่เนิ่นๆ ย่อมดีแล้วพระเจ้าข้า” “หมอยามาทค่ะ พูดกับฉันธรรมดาก็ได้เมื่อก่อนฉันก็เคยเป็นลูกมือหมอนะคะ” อารยาเอ่ยเบาๆ แม้จะรู้ดีว่าองค์ราเฟย์ได้ยินแต่ก็รู้ว่าพระองค์จะไม่ทรงกริ้วเป็นแน่ “มันเป็นเรื่องในอดีตแล้วนี่พระเจ้าข้า” ยามาทขยับแว่นตาชิดใบหน้า “กระหม่อมขอตัวก่อนพระเจ้าข้า” “ไม่อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันก่อนเหรอ” องค์ราเฟย์เอ่ยถามปนยิ้ม “วันนี้คงไม่สะดวกพระเจ้าข้า” ยามาทถวายการเคารพแล้วเดินออกมา เขาเผลอถอนหายใจหนักๆ แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ ความในใจของเขาซึ่งเป็นความลับที่เก็บไว้อย่างมิดชิดเรื่องหนึ่งก็คือเขาเคยเผลอใจหลงรักอารยา ซึ่งในตอนนั้นเธอเป็นหญิงสาวชาวไทยที่มาเป็นนักกายภาพบำบัดให้กษัตริย์พระองค์ก่อน ความน่ารักและสดใสไร้เดียงสาของพยาบาลพิเศษ ทำให้ใครๆ ก็ต่างตกหลุมรักเธอทั้งนั้นทว่าคนที่ได้หัวใจหญิงสาวไปครองคือองค์ราเฟย์ ซึ่งในเวลานั้นยังเป็นเพียงองค์รัชทายาทเท่านั้นมันเป็นความลับที่ต้องเก็บเป็นความลับอย่างยิ่ง ฝังลงดินให้จมลึกเท่าไหร่ได้ยิ่งดี เพราะองค์ราเฟย์ในขณะนี้เป็นถึงเจ้าผู้ปกครองแผ่นดินบาฮาเนีย ที่สำคัญที่สุดที่ใครต่อใครก็รู้ดีคือ...องค์ราเฟย์ ‘หวง’ พระชายาอารยามาก แม้ว่าบัดนี้จะมีโอรสน้อยๆ แต่ความหึงหวงมิได้ลดลงแม้แต่น้อย แล้วจู่ๆ หัวใจของเขาก็ปรากฏภาพรอยยิ้มไร้เดียงสาของหญิงสาวดวงตาสีน้ำตาลสดใสคู่นั้นเรือนผมสีน้ำตาลแดงหยักศกล้อมกรอบรูปหน้าแสนหวานชวนให้จิตใจหวั่นไหว เธอคงไม่เคยรู้ว่าตัวเองเป็นคนสวยขนาดไหนภายใต้เสื้อผ้าที่หลวมใหญ่กว่ารูปร่างนั้นซ่อนความอ่อนนุ่มของเนื้อเนียน “บ้าจริง!” ยามาทสบถว่าตัวเองที่เผลอคิดอะไรอกุศลอย่างนั้น ใบหน้าคมเข้มร้อนวูบขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็น แม้กระทั่งกับเรอิโกะเขาเองก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้เหมือนกัน “เป็นไรไปหมอยามาท” คานัน-องครักษ์อันดับหนึ่งเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ปกติเขาจะเห็นหมอยามาทนิ่งขรึมมากกว่าทำท่าควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่อย่างนี้ “ไม่มีอะไรครับ” “น่าจะชินกับการถูกเรียกตัวกลับกะทันหันแบบนี้แล้วนะ” คานันหัวเราะพลางตบไหล่หมอเบาๆ “ก็ใช่...แค่...” ยามาทอ่ำอึ้ง “แสดงว่ามีภาระติดขัดทางหัวใจ” “เรื่องอื่น” ‘แต่ก็ใกล้เคียง’ หมอยามาทต่อประโยคท้ายในใจ “ใครจะไปอารมณ์ดีเหมือนเจ้าบ่าวหมาดๆ อย่างคุณคานันเล่า” คราวนี้คนถูกแซวหัวเราะเขินๆ ออกมาบ้าง คานันเพิ่งแต่งงานได้เดือนเศษแต่การคัดเลือกองครักษ์รุ่นใหม่ยังไม่เสร็จสิ้นจึงยังไม่ได้ไปฮันนีมูนดั่งใจต้องการ “แล้วคุณหมอจะครองโสดไปนานอีกเท่าไหร่ เจอหญิงถูกใจบ้างหรือ” “ผู้หญิงที่ถูกใจ...” ยามาทพึมพำ “คนที่เราถูกใจบางทีเขาก็ไม่ค่อยสนใจเรา” “เป็นไปได้ไง จะมีใครไม่รับรักหมอเหรอ” คานันทำตาโตไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ยามาทหัวเราะกลบเกลื่อน “ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ” “กลับบ้าน” คานันเลิกคิ้วอยากแปลกใจ “ปกติคุณหมอนอนในวังมิใช่หรือ” “วันนี้ขอกลับบ้านดีกว่า” “แปลว่ามีอะไรดีๆ รออยู่ที่บ้าน” ยามาทก้มศีรษะให้เล็กน้อยแล้วเดินจากมาหากอยู่นานต้องโดนซักไซ้ราวกับตนเองเป็นผู้ก่อการร้ายแน่ๆ ยามาทเปลี่ยนถอดเสื้อกราวนด์ออกแล้วสวมชุดอาหรับเพื่อเดินทางกลับบ้าน ชายหนุ่มอดหัวเราะเยาะโชคชะตาไม่ได้ ‘บ้าน’ เขาไม่เคยมีบ้านมานานแล้ว บ้านที่อยู่นั้นก็เป็นเพียงบ้านที่เขาอาศัยอยู่เท่านั้น ฐานะทางการเงินของเขาไม่ยากหรอกที่จะมีบ้านสักหลัง ทว่าความโดดเดี่ยวต่างหากที่ทำให้เขายังอาศัยอยู่ในบ้านของท่านลุงคาร์ดัลและท่านป้าฟาห์รา หน้าที่ของเขาทำให้แทบไม่ได้ย่างเท้าเข้าบ้านเลยด้วยซ้ำ เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็มีคนค่อยดูแลให้ ชีวิตของเขามีอยู่แค่สองที่เท่านั้นคือโรงพยาบาลของรัฐและที่พระราชวังแห่งนี้ ส่วนบ้านนะเหรอ....มันกลายเป็นอะไรที่เขาแทบไม่รู้จักด้วยซ้ำ “วันนี้ผมจะขับรถกลับเอง” “ขอรับคุณหมอยามาท” ยามาทเห็นแววตางุนงงของพลขับประจำกาย เขามักชอบเอนหลังหลับบนรถมากกว่านั่งคุมพวงมาลัยด้านหน้า ทว่าวันนี้เขามีสถานที่อื่นต้องแวะไปจัดการก่อนเข้าบ้าน ร้านเสื้อผ้าสุดหรูบนถนนสายหลักของนักท่องเที่ยวคือที่หมาย เขาขับรถปราดเข้าไปจอดก่อนถอนหายใจหนักและเข้าไปร้านด้วยความไม่คุ้นเคย กับเรอิโกะเขาก็ไม่เคยมาเลือกซื้อเสื้อผ้าให้อย่างนี้มีแต่เซ็นเช็คจ่ายเงินให้ การเลือกเสื้อผ้าให้หญิงสาวเป็นเรื่องชวนปวดหัวยิ่งกว่าการวินิจฉัยโรคเสียอีก “ให้ช่วยอะไรไหมคะ” พนักงานสาวเข้ามาช่วยทันทีที่ประเมินแล้วว่าลูกค้าคนนี้กระเป๋าหนัก “เสื้อผ้าผู้หญิงแบบชาวบาฮาเนียสักสามสี่ชุดก็พอ” เอาไว้ค่อยให้เจ้าหล่อนมาเลือกเอาเองแล้วกัน “รูปร่างหรือขนาดละคะ” พนักงานรีบทำการขายเป็นการใหญ่ “ตัวเล็กๆ ประมาณนี้...” เขาทำมือทำไม้ประกอบแต่แล้วก็นึกเขินเสียเอง “ได้ค่ะ ดิฉันจะจัดให้” ยามาทถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพนักงานไม่ซักไซ้อะไรมากมายนัก ใช่! ถ้าถามอะไรมากเขาจะไปร้านอื่นทันที ไม่นานนักเขาก็ได้เสื้อผ้ามาสองถุงใหญ่ หลังจากจ่ายเงินแล้วก็ขึ้นรถเพื่อกลับบ้านทันที แต่รถของเขายังไม่ทันถึงบ้านเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเสียก่อน “ทำไมคุณกลับไปไม่บอกเรอิโกะสักคำคะหมอ” เสียงตัดพ้อและน้อยใจดังทันทีที่เขารับสาย “คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้ว อาชีพของผมเป็นแบบนี้มาตลอดสองปี” “คุณไม่เคยทิ้งฉันไว้แบบนี้” “ผมไม่เคยทิ้งคุณ” เขาถอนหายใจยาว การต้องคอยเอาใจคนอื่นเป็นเรื่องเหนื่อยใจที่สุดสำหรับเขา “แต่ผมก็มีงานที่ผมต้องรับผิดชอบโดยเฉพาะเรื่องร้านจิวเวอรี่ของคุณ” “คุณหมอยามาท” เธอเรียกชื่อเขาอย่างตกใจ “คุณจะเอาร้านฉันคืนหรือคะ” “ตอนนี้ยังไม่ใช่ร้านของคุณ” เขายืนยันเสียงเครียด “คุณยังไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกับร้านนั่นจนกว่าจะมีการตรวจสอบเอกสารความถูกต้องอีกครั้งจากผม” “แต่เราตรวจสอบกันไปแล้ว” “ผมยังไม่ได้เซ็นอนุมัติโอนให้เป็นของคุณ” เขาจำใจต้องพูดเช่นนี้ “ผมต้องเข้าบ้านแล้วขอตัวก่อน” ยามาทถอนหายใจยาวแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือเข้าที่ เขานั่งนิ่งหลังพวงมาลัยรถราวกับจะปรับอารมณ์ของตนก่อนเปิดประตูรถลงไป “นึกว่าคืนนี้คุณหมอจะค้างในวัง” “ไม่อยากเห็นหน้าผมหรือครับป้าจันตรี” เขายิ้มบางๆ ให้แม่บ้านที่คอยดูบ้านและคอยดูแลเขาเมื่อครั้งยังเยาว์อีกด้วย “อยากเห็นซิคะ ขนาดอยู่ใกล้กันแค่นี้ยังไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตากันเลย” จันตรียิ้มกว้าง “ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ” “เอ่อ...” เขาอึกอักไม่รู้จะพูดยังไง “คุณป้าฟาห์ราอยู่ไหม” “ที่ห้องนั่งเล่นเจ้าคะ” “ผมขอไปหาคุณป้าก่อนนะครับ” เขาเดินเลี่ยงออกมาโดยไม่ทันรอยยิ้มกว้างของจันตรี เสียงหัวเราะต่อกระซิกและสนทนาด้วยภาษาอังกฤษแว่วดัง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเปิดประตูยามาทเลิกคิ้วอย่างแปลกใจซึ่งในบ้านมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สนทนาด้วยภาษาอังกฤษคล่องอย่างนี้ “คุยกับใครอยู่หรือครับคุณป้าฟาห์รา” “มาแล้วหรือลูก นึกว่าวันนี้จะค้างในวังเสียอีก” ฟาห์ราทักด้วยรอยยิ้ม “ทำไมใครๆ ก็แปลกใจที่ผมกลับบ้าน” เขาแสร้งทำหน้างอเป็นเด็ก “ก็เรามันบ้างานเป็นที่หนึ่ง” ฟาห์ราหัวเราะร่วน “นั่นถุงอะไรหรือจ๊ะ” “เอ่อ...เสื้อผ้าของสการ์เล็ตต์ครับ” “ของฉันหรือคะ” ยามาทเพิ่งรู้ตัวว่ามีหญิงสาวอีกคนนั่งอยู่ใกล้ๆ ป้าฟาห์รา แล้วดวงตาหลังแว่นกรอบเงินก็บิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา สการ์เล็ตต์อยู่ในชุดกระโปรงยาวแบบสาวอาหรับ ใบหน้าแต้มสีสันเล็กน้อยแต่สร้างเสน่ห์น่ามองยิ่งนัก ผมยาวหยักศกของเธอก็ถูกหวีจัดแต่งอย่างงดงามไม่แพ้กัน เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะงดงามในชุดสาวบาฮาเนียอย่างนี้ “ป้าจัดการให้แล้ว เห็นว่าหนูสการ์เล็ตต์ไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะกับประเทศของเราด้วย” ฟาห์รายิ้มอ่อนโยน “ป้าน่ะ...อยากได้ลูกสาวมาตั้งนานแล้ว พอได้เจอหนูสการ์เล็ตต์ป้าก็เลยจับแต่งตัวเป็นตุ๊กตาเสียเลย” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูชอบด้วย” สการ์เล็ตต์หัวเราะน้อยๆ “เคยแต่แต่งตัวให้ตุ๊กตาไม่เคยถูกจับแต่งตัวเสียที” “นี่คงได้เวลาอาหารเย็นแล้ว แม่จะไปดูก่อนว่าจันตรีทำอะไรให้พวกเรา พวกหนูอยู่คุยกันก่อนค่อยตามไปก็ได้จ๊ะ” ยามาทมองร่างของป้าฟาห์ราเดินออกจากห้องไปแล้วก็หันมาจ้องเขม็งที่สการ์เล็ตต์ทันที “ท่าทางคุณป้าฟาห์ราจะชอบคุณนะ” “คุณป้าฟาห์ราเป็นคนน่ารักและคุยสนุกค่ะ” เธอพยักหน้าน้อยๆ “ท่านเหมือนคุณแม่ของฉัน” “ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ยามาทยิ้มแล้วใช้สายตาไล่มองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สการ์เล็ตต์รู้สึกร้อนวูบ สายตาของเขาราวกับจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าหลายชั้นของเธอออก เขาเป็นหมอควรมีมารยาทมากกว่านี้ “อย่ามองฉันแบบนั้นซิคะ” “ผู้หญิงสวยใครก็ต้องมองเป็นธรรมดา” “ฉันไม่สวยหรอกคะ” เธอสั่นหน้าไปมาไม่เชื่อคำพูดของเขา “สวย...” เขาลากเสียงยานคางและก้าวเข้าไปยืนประชิดจนได้กลิ่นหอมจากกายหญิงสาวมือใหญ่ยกขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าเธอออกเบาๆ แต่ทำให้หญิงสาวหายใจติดขัดขึ้นมา “ผมไม่อยากให้ใครเห็นคุณเลย” “คุณไม่ใช่เจ้าของฉันนะคะ” ประโยคของเธอทำให้เขาชะงักมือ ดวงตาสีน้ำตาลกระจ่างใสคู่นั้นเปี่ยมด้วยพลังดึงดูดจนเขาไม่รู้ว่า ตนเองก้มหน้าลงชิดใบหน้าเธอใกล้ขนาดไหน ทว่าเขากลับถอยห่างแล้วยื่นถุงกระดาษที่อยู่ในมืออีกข้างส่งให้เธอ “ของคุณ...เอาไปเก็บเถอะแล้วมาเจอกันที่โต๊ะอาหาร” สการ์เล็ตต์งุนงงกับท่าทีของเขา ร่างสูงเดินออกไปแล้วทิ้งให้เพียงแต่ความสับสนในใจเธอ หญิงสาวมองถุงกระดาษที่ใส่เสื้อผ้าหลากสีสันอยู่ภายใน แล้วเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมา เธอคาดหวังอะไรเกินไปหรือเปล่า! เธอกำลังคิดอะไรที่ไม่ควรคิดอยู่ใช่ไหม...สการ์เล็ตต์.
已经是最新一章了
加载中