บทที่15. ปล้น
“ลงมาจากรถให้หมด!!!”
ประตูรถถูกกระชากออกอย่างแรง บุรุษคลุมกายและใบหน้าด้วยผ้าสีดำสนิทใช้อาวุธปืนไรเฟิลจ่อมาทางคนทั้งคู่แววตาของสการ์เล็ตต์ตื่นตระหนกตกใจอย่างถึงขีดสุดแต่ก็ไร้เสียงหวีดร้องใดๆ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอในชีวิตมาก่อน มือเรียวของเธอจับแขนของชายหนุ่มแน่นอย่างหาที่พึ่ง
“ใจเย็นๆ เราคุยกันได้” ยามาทยังคงนิ่งสงบควบคุมอารมณ์ได้อย่างประหลาด เขาบีบมือของหญิงสาวก่อนจะจับจูงให้เธอเดินตามเขาลงมาจากรถ
คนขับรถถูกกระชากออกมาจากฝั่งคนขับและถูกจับกดให้คว่ำหน้าลงกับพื้น ยามาทใช้สายตาคมกริบมองฝ่าความมืดที่โรยตัวลงบางๆ อากาศเยียบเย็นขึ้น เขาควรจะเตรียมเสื้อกันหนาวมาให้เธอด้วย เพราะอากาศยามค่ำคืนนั้นเหน็บหนาวยิ่งนักแตกต่างจากกลางวันอย่างสุดขั้ว แต่ถ้าเขาไม่ทำงานจนลืมเวลาคงไม่เจอกับสภาพอย่างนี้ อ้อ! กับสถานการณ์นี้ด้วยเช่นกัน
ยามาทขยับแว่นสายตาให้ชิดใบหน้า ทว่ากลับทำให้หนึ่งในบุรุษชุดดำคนหนึ่งใช้ท้ายปืนกระแทกหลังเขาอย่างแรงจนร่างใหญ่ที่ไม่ทันตั้งตัวเซไปด้านหน้า
“ยามาท!” สการ์เล็ตต์หวีดร้องอย่างตกใจผวาเข้าไปช่วยแต่ถูกฉุกระชากแขนข้างหนึ่งไว้ก่อน “ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า!”
“ผมไม่เป็นไรสการ์เล็ตต์” ยามาทพยุงตัวเองขึ้น“พวกคุณต้องการอะไร”
“เงิน!” บุรุษคนหนึ่งตะโกนออกมา “ของมีค่าทั้งหมด”
‘ยังมีกองโจรหลงเหลืออยู่หรือนี่’ ยามาทครางในใจ ในรายงานก่อนการเดินทางพวกนี้ถูกปราบหมดแล้วนี้ แต่เขาก็ผิดอีกนั้นแหละที่ประมาทเกินไป แม้ว่ามีเพียงสี่คนแต่อาวุธปืนไรเฟิลเก่าๆ แต่ล่ะกระบอกก็จ่อมาที่พวกเขาไม่ใช่เรื่องดีนัก
“เชิญเลือกหยิบเอาที่รถไปได้เลย” เขาเผยมือเชิญไปทางรถของเขานึกแปลกใจว่ารถอีกคันที่นำมาก่อนนั้นจะเจอเหตุการณ์เดียวกันหรือไม่
“ผู้หญิง! สาวผมแดง! ขาย!”
“ไม่!” ยามาทตวาดลั่น! น้ำเสียงเกรียวกราดของเขาทำให้บุรุษทั้งสี่สะดุ้งอย่างตกใจ เขาอาศัยจังหวะเผลอคนคนเป็นหัวหน้าใช้เท้ายาวเตะเข้าให้ที่ชายโครงแล้วแย่งปืนมาได้อย่างรวดเร็วและใช้ปืนนั่นจอขมับอีกฝ่าย
รวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด แค่ชั่วกะพริบตาสถานการณ์แปรเปลี่ยนเหมือนลมทะเลทรายที่ร้ายกาจ สการ์เล็ตต์ตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ เมื่อหันไปทางคนขับรถก็เห็นเขาสามารถสลัดพ้นการจับกุมแย่งปืนไว้ในมือได้สำเร็จ
“ความโลภมากทำให้เจ้าพบจุดจบเช่นนี้” น้ำเสียงดุดันช่างน่าเกรงขาม ยามาทดึงแขนของสการ์เล็ตต์แล้วรั้งร่างบางไว้ในวงแขนของเขา “คุณจะทำอะไรคะ” แม้จะตื่นตระหนกแต่เธอก็อดห่วงไม่ได้ “คุณคงไม่ฆ่าพวกเขานะ”
ยามาทเลิกคิ้วอย่างฉงน “มิสดูหนังเยอะเกินไปหรือเปล่า”
“คุณหมอยามาท!”
สการ์เล็ตต์เค้นเสียงรอดไรฟัน แต่แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนมีการเคลื่อนไหวที่หางตา เมื่อหญิงสาวตวัดสายตามองก็เห็นแสงไฟวาบขึ้นจากจุดหนึ่งแล้วตามมาด้วยเสียงลั่นเปรี้ยง! แหวกอากาศ ฉับพลัน!เธอพลิกตัวใช้ตัวเองบังร่างสูงใหญ่ สองแขนเรียวกอดเขาแน่น! เธอสะดุ้งเฮือกและโดยที่เสียงหวีดร้องไม่ทันหลุดออกจากปาก ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโพลงเพราะความเจ็บปวดที่เสียดแทงเข้าที่ไหล่ขวา เธอมองเห็นดวงตาสีเทาเข้มและเครียดจัดเมื่อก้มมองเธอ มือเรียวยกมือขึ้นประคองใบหน้าที่มีคราบเลือดกระเซ็นติดเปื้อนแก้ม
“ยามาท...” เสียงเธอแหบพร่าและสองขาของเธอไร้เรี่ยวแรงทรงตัว
“สการ์เล็ตต์!”
ยามาทรีบรับร่างที่ทรุดฮวบลงทันที เขาประคองร่างเธอไว้แล้วมองไปทิศทางที่กระสุนพุ่งเข้าทำร้าย คนขับรถของเขายิงปืนสวนทันทีและเข้ามาปกป้องผู้เป็นนาย ชายหนุ่มพาร่างที่เสียเลือดไปหลบที่หลังรถจี๊ป เขาเคยอยู่ในสถานการณ์นี้นับครั้งไม่ได้ถ้วน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะหวาดวิตกเช่นนี้
“ไม่เป็นไร! คุณจะไม่เป็นไรสการ์เล็ตต์” เขาพูดเหมือนสั่ง! ทั้งที่ไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับผู้หญิง เขาฉีกชายเสื้อออกเพื่อห้ามเลือดที่ไหล่ขวาของหญิงสาว เขารู้ดีว่าแผลนี้ไม่ร้ายแรงนักทว่าหากเสียเลือดมากเกินไปก็เป็นอันตรายและในสถานที่ห่างไกลโรงพยาบาลยังไม่มีคำว่าปลอดภัย!
“ยามาท...” เธอเรียกชื่อเขาราวกับว่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำได้
“สการ์เล็ตต์! คุณจะปลอดภัย! คุณจะต้องไม่เป็นไร” เขาอยากให้คำพูดของเขาศักดิ์สิทธิ์ เขาควบคุมสติจัดการห้ามเลือด เสียงปืนยังดังอยู่อีกสามสี่นัด เขารู้ว่าตนเองตกเป็นรอง คนขับรถหน้าตาซื่อแต่ฝีมือดีปกป้องเขาในขณะที่มือใหญ่จัดการบาดแผลของสการ์เล็ตต์อย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้ากระบอกปืนที่ชิงมาได้ยิงส่วนเพื่อป้องกันตัว
“โทรศัพท์อยู่ไหน!”
“ในรถขอรับ!” คนขับรถตะโกนตอบ “ผมโทรแล้วตั้งแต่รถถูกปล้น!”
“สามสิบนาที” ยามาทพึมพำประเมินสถานการณ์ มือที่จับปืนกำแน่นจนชื้นเหงื่อ เขาเลือกที่จะใช้มือทั้งสองข้างเพื่อรักษาชีวิตผู้คนมากกว่าจะใช้มันเพื่อคร่าชีวิตใคร
‘เจ็บ...เจ็บจัง! โดนยิงมันเจ็บอย่างนี้เหรอ’
สการ์เล็ตต์พยายามเรียกสติตนเอง ไม่อยากเป็นภาระให้ใครโดยเฉพาะคุณหมอหนุ่มที่เหงื่อชุ่มหน้าอย่างนี้
“หนาว...” ริมฝีปากซีดแทบไร้เลือดสั่นระริก
“สการ์เล็ตต์...คุณเสียเลือดมาก” ยามาทเอ่ยเหมือนปลอบโยนเขาถอดเสื้อตัวนอกคลุมร่างบาง” คุณจะปลอดภัย ยังมีอาหารอร่อยๆ ที่รอให้คุณชิมอีกเยอะ”
สการ์เล็ตต์อยากหัวเราะแต่ทำไม่ไหว ได้แต่ยิ้มบางๆ ‘ในสถานการณ์อย่างนี้ เขายังเห็นเธอเป็นเด็กเล็กๆ อยู่อีกเหรอ’ อยากจะหัวเราะนักแต่ไม่มีแรงเอาเสียเลย
“ฝ่ายตรงข้ามมีมากกว่าที่เราคิด...กลุ่มนี้อาจเป็นเพียงตัวล่อเป้าเท่านั้น”
ยามาทประมวลผล กระสุนมีไม่มากนักและเขาต้องแม่นยำพอที่จะจัดการฝ่ายตรงข้าม ‘ขึ้นรถและฝ่าวงล้อมออกไปให้เร็วที่สุด’ ชายหนุ่มสรุปแล้วส่งสัญญาณกับคนขับรถ เขายิงคุ้มกันให้คนขับวิ่งตรงมาที่เขา
“ยิงคุ้มกันให้ผม ผมต้องพาผู้หญิงขึ้นรถ”
“เราจะฝ่าวงล้อมพวกนี้หรือขอรับ”
“ตอนนี้สมองผมคิดได้แค่นั้น” เขาสารภาพ
“รับคำสั่ง”
“สการ์เล็ตต์! คุณห้ามหลับนะ เราจะหนีแล้ว”
ยามาทพูดที่ข้างหูแต่เสียงของเขาไม่ช่วยให้เปลือกตาที่หนักอึ้งของเธอเปิดขึ้น เขากัดฟันช้อนร่างเธอขึ้นเพื่อพาเอเข้าไปในรถแต่รู้สึกเหมือนมีของแข็งจ่อที่ศีรษะของเขา ความเย็นของปากกระบอกทำให้เขาชะงักมือแต่ไม่ยอมปล่อยร่างบางลง
“ความโลภมากทำให้เจ้าพบจุดจบ” น้ำเสียงเยียบเย็นเลี่ยนแบบประโยคของยามาท
หมอหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแม้จะมีร่างบอบบางบาดเจ็บในอ้อมแขนเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอให้ห่างกาย
“ปล่อยผู้หญิงไป” ยามาทต่อรอง “แล้วพวกเจ้าจะได้เหรียญทองจะกองสูงเท่าหัวของพวกเจ้า”
“ฮะฮ่าจริงเรอะ” หัวหน้ากองโจรหัวเราะร่า “พวกเจ้าจะล้อข้าเล่นหรือไง!”
“ทำตามที่คุณหมอยามาทสั่งจะดีกว่า” น้ำเสียงทรงอำนาจดังจากด้านหลัง
“ไม่อยากนั้นแล้วเจ้าก็ไม่มีโอกาสที่จะหายใจอีก”.