บทที่23.เคียงข้างผมได้หรือเปล่า (จบ)   1/    
已经是第一章了
บทที่23.เคียงข้างผมได้หรือเปล่า (จบ)
ร้าน ‘Once’ ต้องปิดกิจการไปชั่วคราวเพราะเสียหายหนักจากที่อันธพาลมาทำลายข้าวของ สการ์เล็ตต์ อายะ และลุงคู้เป้นั่งกินพิซซ่าถาดใหญ่อยู่กลางร้านที่ข้าวของยังกระจัดกระจายอยู่พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ร้าน “แล้วเธอจะเอายังไงสการ์เล็ตต์” อายะถามพลางเช็ดมือกับกระดาษทิชชู่ “ครอบครัวใหม่ของเธอก็โอเคนี่” “ฉันก็อยากกลับไปดูแลท่านทั้งสองเหมือนกัน” เธอพยักหน้ารับเนื่องๆ “ความจริง ร้านเป็นแบบนี้อาจเป็นเรื่องดีก็ได้” ลุงคูเป้พูดขึ้นบ้าง “หนูสการ์เล็ตต์จะได้ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าอยากจะท่องเที่ยวเดินทางหรือว่าเรียนต่อก็ทำได้เต็มที่ ลุงเชื่อว่าแม่ของหนูเข้าใจ” “ไอ้เจ้าแบรดก็เข้าคุกเข้าตะรางไปแล้วที่นี่ก็ใช้ชีวิตได้สบายใจเสีย” “อายะ!” สการ์เล็ตต์ปราบเพื่อนทันที “ไม่เป็นไร สิ่งที่เจ้าหลานเลวนั่นเจอก็สมควรแล้วที่ทำให้ใครต่อใครเดือดร้อน “เป็นฉันนะจะกลับไปใช้ชีวิตแบบลูกสาวเศรษฐีแล้วก็มีแฟนหล่อๆ เป็นคุณหมอ! แค่นี้ก็มีความสุขสุดยอดแล้วละ” สการ์เล็ตต์หน้าแดงจนต้องยกมือขึ้นตีแขนเพื่อนสาวเบาๆ “โอ๊ย! เจ็บนะยะ! ฉันยังช้ำในอยู่เลย” อายะทำหน้าเจ็บจนสการ์เล็ตต์ตกใจ “เจ็บตรงไหน? มีตรงไหนที่ช้ำอยู่อีก” “ตรงนี้” นิ้วเรียวชี้ที่อกซ้ายของตนเอง “ช้ำในใจยะ” สการ์เล็ตต์หัวเราะร่าออกมา ทั้งสามหัวเราะอย่างสนุกสนานแต่เมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าประตูดังขึ้น ลุงคูเป้ก็ลุกขึ้น แต่อายะรีบวิ่งไปที่ประตูก่อน “หมอยามาทมาแล้วแน่ๆ” ประโยคของอายะทำให้สการ์เล็ตต์หน้าแดงขึ้นมาทันทีแต่เมื่อประตูเปิดออกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มก็หายไปทันที ชายอาหรับในชุดสูทสีเข้มกับภรรยาผู้รอยยิ้มอ่อนโยนก้าวเข้ามาในร้าน โดยมีหมอยามาทตามเข้ามาที่หลัง ทำเอาอายะพูดไม่ออกไม่รู้จะส่งภาษามือยังไง “คุณพ่อคาร์ดัลกับคุณแม่ฟาห์รา” เธอเอ่ยชื่อท่านทั้งสองน้ำเสียงไม่ได้ดังไปกว่าเสียงละเมอนัก “มาได้ไงคะ” “แม่กับพ่ออยากมาดูความเป็นอยู่ของลูกจ๊ะ” ฟาห์ราซึ่งปกติแทบไม่ย่างเท้าออกจากบ้านเลยแต่ครั้งนี้นางรบเร้าให้สามีพามาถึงลอนดอน “เราแค่เป็นห่วง” น้ำเสียงราบเรียบแต่เจือความอบอุ่น “ร้านพังหมดเลยนี่” “ค่ะ” เธอพยักหน้าแล้วหาเก้าอี้ที่พอจะนั่งได้ให้ฟาห์รากับคาร์ดัลนั่งเธอเหลือบตามองยามาทแต่ชายหนุ่มกลับหลบตาเธอ ‘เกิดอะไรขึ้น เราเข้าใจกันแล้วไม่ใช่เหรอ’ “คุณพ่อ คุณแม่มาเที่ยวหรือคะ” สการ์เล็ตต์เปลี่ยนเรื่อง “แม่เค้ามาเยี่ยมเพื่อนเก่าด้วยนะ” คาร์ดัลยิ้มที่มุมปากทำให้ใบหน้าเข้มดูอ่อนโยนลง “คุณแม่มีเพื่อนอยู่ลอนดอนด้วยเหรอคะ” สการ์เล็ตต์ตื่นเต้นไปด้วย “เธอเป็นเพื่อนแม่แต่มาแต่งงานกับหนุ่มอังกฤษก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่” ฟาห์รายิ้มกว้างแล้วดึงมือเล็กๆ ของสการ์เล็ตต์ไว้ “เพื่อนแม่คนนี้มีลูกชายด้วย อายุคงแก่กว่าลูกสักปีหรือสองปีนี่แหละ แม่ก็เลยอยากพาลูกไปเจอกับลูกชายของเพื่อนแม่ด้วยกันจ๊ะ” สการ์เล็ตต์ขมวดคิ้วเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบขนาดใหญ่ แต่เมื่อหันไปขอความช่วยเหลือจากยามาทเขาก็ได้แต่หลบไม่ยอมมองหน้าเธอ ‘หรือว่า...เธอจะถูกจับคลุมถุงชน’ “หนูไม่ไปนะคะ!” เธอปฏิเสธเสียงแข็งแล้วนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าฟาห์ราที่ตกใจกับการกระทำของลูกสาวของสามี “หนูมีคนรักแล้ว อย่าให้หนูไปเจอลูกชายของเพื่อนคุณแม่เลยนะคะ” “คนรัก?ลูกมีคนรักแล้วรึ” คราวนี้เป็นน้ำเสียงเคร่งเครียดจากผู้เป็นพ่อ “ทำไมยามาทไม่เคยรายงานว่าลูกมีคนรักแล้ว” ประโยคของสการ์เล็ตต์ทำให้ทั้งคู่หันมาสบตากันดวงตาสีเทาเข้มคู่นั้นมีทั้งความสับสน งุนงงไม่เข้าใจผสมปนเปเต็มเปี่ยม “ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยครับท่านคาร์ดัล” เขาเอ่ยเสียงเรียบแล้วขอตัวออกไปจากร้านที่เต็มไปด้วยข้าวของที่แตกหักกระจัดกระจาย “ไม่เป็นไรลูก...การเลือกคู่ครองเป็นเรื่องสำคัญแต่ถ้าเป็นคนที่ลูกรักแม่ก็พร้อมจะรักด้วย” ฟาห์รากอดสการ์เล็ตต์อย่างปลอบโยน “นั่นซิ” คาร์ดัลถอนหายใจหนักๆ “ยามาทเป็นคนเข้มแข็งต้องทำใจผ่านเรื่องราวแบบนี้ได้” “เอ๋?...อะไรนะคะ” อายะเอียงคอฟังอย่างงงๆ เธอก็ไม่ได้อยากแอบฟังหรอกแต่เธอถือว่าตนเองอยู่ในฐานะผู้ร่วมเหตุการณ์มากกว่า “ทำไมหมอยามาทต้องทำใจได้ด้วยละคะ” สิ่งที่อายะถามคือสิ่งเดียวกับสการ์เล็ตต์รู้สึก เธอผละจากอ้อมแขนของฟาห์ราแล้วมองใบหน้าคุณพ่อกับคุณแม่บุญธรรมสลับไปมาอย่างงุนงง “ก็...ยามาทมาโทรบอกพ่อกับแม่ว่ารักลูกมาก อยากแต่งงานกับลูกแม่กับพ่อก็เลยถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่าลูกก็รักยามาทเหมือนกัน แต่ก็เป็นความผิดแม่เองที่ใจร้อนอยากให้ทั้งยามาทและลูกสการ์เล็ตต์ได้แต่งงานกันเร็วๆ แม่รบเร้าให้พ่อพาแม่บินมานี่ไง แต่เราไม่รู้เลยว่าลูกมีคนรักอยู่ก่อนแล้ว” “อะไรนะคะ ยามาทอยากแต่งงานกับลูก” สการ์เล็ตต์เผลอเสียงดังออกมาแล้วก็ต้องปิดปากตัวเองไว้ “เข้าใจผิดแล้วคะ หนูคิดว่าแม่จะจับหนูแต่งงานกับคนอื่น” “ก็แม่อยากมีลูกสาวมาตั้งนานแล้วก็อยากพาลูกไปอวดใครต่อใครไม่เกี่ยวกับเรื่องจับแต่งงานกับใครก็ไม่รู้หรอกจ๊ะ” ฟาห์ราถามพร้อมรอยยิ้ม “แล้วคนที่ลูกรักคือใครละจ๊ะ” “ก็คนที่เดินออกประตูนั่นไปไงคะ” สการ์เล็ตต์หันซ้ายแลขวาอย่างสับสน “คนที่ลูกรักคือหมอยามาท!” หญิงสาวก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่งออกไปที่นอกร้าน ทิ้งให้คนที่เหลืออยู่มองหน้าสลับไปมาอย่างงุนงงก่อนที่จะประสานเสียงหัวเราะออกมา อายะลุกขึ้นแล้วหยิบจานกระดาษมาใส่พิซซ่าส่งให้สองสามีภรรยาชาวอาหรับ ลุงคูเป้เดินไปหยิบน้ำมาเสิร์ฟ “เรื่องของหัวใจก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะคะ”อายะยิ้มกว้าง “รับพิซซ่าเพิ่มอีกชิ้นไหมคะ” หญิงสาววิ่งไปตามถนนแต่สายตาก็สอดส่ายมองหาร่างสูงโปร่ง เธอเหนื่อยแทบขาดใจ แต่ในผู้คนมากมายอย่างนี้เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน “ยามาท! คุณอยู่ไหน” สการ์เล็ตต์ตะโกนสุดเสียงอย่างไม่อายสายตาใครต่อใครที่มองเธอมาที่จุดเดียว “ฉันรักคุณ! แต่งงานกับฉันนะ!” “ผมต้องเป็นคนพูดประโยคนั้น!” เสียงคุ้นเคยแกมดุของเขาทำให้เธอหันขวับไปตามต้นเสียง ร่างบางกระโขนใส่เขาทันที และเขาก็อ้าแขนรับอย่างเต็มใจปลายจมูกสูดดมกลิ่นเส้นผมหอมนุ่ม “เมื่อกี้ฉันเข้าใจผิด” เธอสารภาพ “คุณทำให้ผมทรมานปวดใจแทบคลั่ง” เขาสารภาพบ้าง “แค่การโทรศัพท์ไปสารภาพความจริงใจกับท่านคาร์ดัลก็ทำให้ผมเครียดจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่ประโยคเดียวของคุณเมื่อกี้ก็ทำให้ผมกำลังคิดว่าผมจะฉุดคุณดีไหม หรือจะลักพาตัวคุณดี ผมทำใจไม่ได้แน่ๆ ที่รู้ว่าคุณเป็นของใครอื่น” “ฉันเป็นของคุณค่ะยามาท” เธอจุมพิตที่ริมฝีปากเขาเร็วๆ “คุณรู้ดีว่าฉันไม่มีทางเป็นของคนอื่นได้ เพราะหัวใจฉันมีเพียงคุณเท่านั้น” “สการ์เล็ตต์” เขาจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลที่แสนสดใสร่าเริงของเธอ “คุณจะแต่งงานกับหมอคนหนึ่งที่เอาเวลาทุ่มเทกับการรักษาคนอย่างผมได้ไหม คุณจะเดินทางในทะเลทรายเคียงข้างผมได้หรือเปล่า” “ยามาท” สการ์เล็ตต์ยิ้มกว้าง “ฉันคงต้องมนตร์ทะเลทรายเข้าให้แล้ว คุณก็รู้อยู่แล้วว่าฉันเคียงข้างคุณได้ดีขนาดไหน เราเป็นคู่ที่ยอดเยี่ยมเพียงใด! และที่สำคัญฉันยังติดหนี้ตุ๊กตาทำมืออีกตั้ง 40 ตัวแหน่ะ” “ผมรักคุณสการ์เล็ตต์” “ฉันก็รักคุณคะ...คุณหมอยามาท” เขารวบร่างเธอมากอดแน่นไม่เกรงสายตาใครที่มองมา มันอาจไม่โรแมนติกอย่างที่เขาคิดไว้ว่าจะขอเธอแต่งงานยังไง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คนทั้งสองรู้สึกคือการได้รับการยอมรับตัวตนที่เป็น แม้หนทางที่พวกเขาเลือกเดิน จะผ่าวร้อนด้วยเปลวแดดแห่งทะเลทราย แต่ความรักที่มี จะเป็นเครื่องนำทางพวกเขาไปสู่หนทางแห่งความสุขที่เป็นนิรันดร์.
已经是最新一章了
加载中