บทที่10 ท่องเที่ยว
1/
บทที่10 ท่องเที่ยว
ลิขิตรักในเพลิงทราย
(
)
已经是第一章了
บทที่10 ท่องเที่ยว
10. “น่าแปลกที่คานันยืนอยู่ตรงนั้น แทนที่จะตามเสด็จพี่” จัสมินเอียงคอถามอย่างน่ารัก “พระองค์สั่งให้หม่อมฉันดูแลองค์หญิงและคุณอารยา” “คนนั้นด้วยเหรอ” จัสมินชี้ไปที่ผู้ชายอีกคน พวกบอดี้การ์ดนี่ท่าทางจะออกมาจากโรงเรียนเดียวกันเพราะลักษณะท่าทางพิมพ์เดียวกัน “อ้อ! กีวอนเป็นคนของท่านคาร์ดัลมาดูแลคุณอารยาพระเจ้าขา” “โอเค! เท่านี้เราก็มีหนุ่มๆไปช่วยเราถือของช้อปปิ้งแล้ว” จัสมินยิ้มอย่างมีเลศนัย “ตั้งแต่กลับมานี่ฉันก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเหมือนกัน รู้สึกว่าจะมีถนนสายหนึ่งที่มีเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศเราและมีพวกสินค้าพื้นเมืองขายเยอะๆ ใช่มั๊ย” “ถนนนีล” กีวอนตอบพลางขมวดคิ้ว “พระองค์อยากไปเดินเที่ยวในตลาดอย่างนั้นหรือพระเจ้าขา” “ใช่! ถูกแล้ว ข้าวของบนถนนเส้นนี้ไปที่ไหนก็มีขาย แต่ข้าวของของท้องถิ่นเราต่างหากที่หาดูยาก คุณผู้ชายทั้งสองช่วยพาฉันกับอารยาไปหน่อยได้ไหม แต่ฉันคิดว่าคงไม่อยากขัดใจฉันใช่มั๊ย” คานันกับกีวอนหันมามองหน้ากันเหรอหรา คานันนั้นเคยต้องกลายเป็นคนหิ้วกระเป๋าไปช่วย ‘ผู้หญิงขององค์รัชทายาท’ชอปปิ้งมาแล้ว แต่กรณีที่จะไปเดินตลาดชมสินค้าพื้นเมืองอย่างนี้ยังไม่เคย “รีบไปกันเถอะ ถ้าช้ากว่านี้อีกนาทีเดียว ฉันอาจจะโทรไปฟ้องเสด็จพี่ว่านายทั้งสองคนดูแลฉันและอารยาไม่ดี!” จัสมินลุกขึ้นคว้ามือของอารยาให้เดินออกมาจากร้าน ทั้งคานันและกีวอนต้องรีบเคลียร์บิลค่าอาหารและวิ่งตามหญิงสาวร่างเพรียวบางทั้งสองคนออกมา “เอารถฉันไปเถอะ รถที่พี่ราเฟย์ให้ใช้มันคันใหญ่เกินไป ควรพวกนายก็ตกลงแล้วกันว่าใครจะเป็นคนขับรถ” “กระหม่อมขับรถให้ก็ได้พระเจ้าข้า” คานันรีบรับกุญแจจากมือของจัสมิน กีวอนรีบไปเปิดประตูให้หญิงสาวทั้งสองขึ้นรถ “อารยาเธอช่วยบอกฉันหน่อยซิระหว่างซื่อสัตย์กับซื่อบื้อนี่มันต่างกันตรงไหนนะ” จัสมินพึมพำออกมาพลางขมวดคิ้ว ความจริงเธอก็ไม่อยากใช้พวกเขาหรอก แต่ก็นั้นแหละ! มันอดแกล้งไม่ได้นี่นะ อารยาไม่ตอบคำถามแต่หัวเราะน้อยๆออกมา พี่น้องคู่นี้นิสัยเอาแต่ใจเหมือนกันผิดแต่ว่าจัสมินออกจะน่ารักและซุกซนเหมือนเด็กแรกรุ่นมากกว่า เอาเถอะ! ถึงยังไงก็ดีกว่าไปดูเครื่องเพชรเครื่องพลอยอะไรนั่นเป็นไหนๆ รถเก๋งคันเล็กบรรทุกผู้โดยสารสี่คนก็มุ่งหน้าไปถนนนีล จัสมินมองตึกรามบ้านช่องที่เปลี่ยนไปต่างจากตอนที่เธอเคยอยู่ในสมัยเด็ก พลางแนะนำให้อารยารู้ “เห็นโดมนั่นไหม นั่นเป็นมหาวิทยาลัยประจำชาติของเรา รูปแบบทางสถาปัตย์ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส ตึกรามบ้านช่องพวกนี้ก็เหมือนกันมีรูปแบบที่ผสมผสาน ฮืม...นี่คงพยายามอนุรักษ์คงแบบเดิมซินะ คานัน” “ใช่แล้วพระเจ้าข้า เป็นพระประสงค์ขององค์รัชทายาทที่ต้องการอนุรักษ์ไว้” คานันเอ่ยตอบด้วยความภูมิใจในเจ้านายของตน “ได้ข่าวว่าช่วงนี้มีกบฏแบ่งแยกดินแดนเหรอ” จัสมินถามถ้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่คนที่อึกอักกลับเป็นคานันและกีวอน “เป็นเพียงข่าวลือพระเจ้าข้า” คานันพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติ “เหรอ” จัสมินรู้ว่าทั้งคู่คงไม่อยากพูดถึงและอีกอย่างก็มีเพื่อนสาวชาวไทยนั่งอยู่ข้างๆ เธอเองก็กลัวว่าจะทำให้เพื่อนใหม่เสียขวัญ “ถ้าวันไหนอารยาว่างก็แวะไปหาฉันที่มหา’ลัยก็ได้นะ เผื่อว่าเธออยากจะเยี่ยมชมตึกโบราณที่พี่ชายฉันอนุรักษ์ไว้” “ค่ะ ขอบคุณมาก ยังไงฉันต้องไปเยี่ยมชมให้ได้แน่นอน” ‘ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยจากองค์รัชทายาทปากร้ายนั่นนะ’ อารยาได้แต่ยิ้มรับคำเชิญล่วงหน้าของจัสมิน เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมใครต่อใครถึงชื่นชมผู้ชายอารมณ์ร้ายคนนั้นนัก บางทีเขาอาจไม่เลวร้ายนักหรือไม่เขาก็ร้ายกากับเธอคนเดียว! ริมฝีปากสีกุหลาบเผลอยิ้มออกมาออกเธอไม่คิดว่าจะได้ออกมาเที่ยวตลาดพื้นเมืองแบบนี้ ถนนเส้นเล็กๆ ที่เธออดคิดว่ามันอาจจะยาวกว่า ‘ตรอกข้าวสาร’ ในเมืองไทยนิดหน่อย แต่ทั้งสองข้างทางร้านรวงต่างๆ มีแต่สินค้าพื้นเมืองมาขาย รวมทั้งอาหารท้องถิ่นหน้าตาหน้ากิน มีเกสเฮาท์ราคาถูก เธอได้สร้อยข้อมือและสร้อยคอทำจากลูกปัดไม้สวยราคาถูกมาหลายเส้น และผ้าทอมือหลายชิ้น เมื่อเดินไปสุดถนนเป็นตลาดสด เธออดใจไม่ไหวจึงซื้อและผลไม้ดีๆ ทั้งสองสาวสนุกสนานกับการเดินเข้าออกร้านต่างๆ จนทั้งองค์รักษ์และบอร์ดี้การ์ดแทบเดินตามไม่ทัน จัสมินรู้สึกเมื่อยน่องจึงหาที่นั่งพักเท้าที่ร้านกาแฟริมถนน องค์หญิงจัสมินส่งสร้อยข้อมือที่ทำจากลูกปัดไม้ให้คานันและกีวอนคนละเส้น “ทำไม มันราคาถูกไปหรือไงถึงไม่กล้ารับ” จัสมินดุคนทั้งคู่ที่ทำหน้าเหวอ ถึงแม้เธอจะไม่ชอบทำตัวเป็นองค์หญิง แต่นิสัยชอบสั่งนี่มันคงถ่ายทอดมาทาง DNA เหมือนเสด็จพี่ของตน “มิได้พระเจ้าข้า” ทั้งกีวอนและคานันตอบพร้อมกันและรีบยื่นมือไปรับ “ใส่ซะด้วย” “พระเจ้าขา” ทั้งคู่รีบสวมใส่ข้อมือของตนเอง ทำให้จัสมินหัวเราะออกมา “เถียงฉันบ้างก็ได้ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืนใจ” “มิได้พระเจ้าข้า เพียงแต่กระหม่อมไม่เคยได้รับของเช่นนี้จากใคร” คานันรีบกล่าวออกมา “ต่อให้พวกเธอองครักษ์หรือจะเป็นบอร์ดี้การ์ด แต่ก็เป็นคนมีเลือดเนื้อมีหัวใจ มีความรู้สึก ไม่จำเป็นต้องเก็บอารมณ์เกิดความจำเป็นหรอก เดี๋ยวจะพาลให้ร่างกายทรุดโทรม ใช่ไหมอารยา” จัสมินหันมาขอความเห็น “ใช่แล้วค่ะ ร่างกายสะสมความเครียดมากๆ ก็จะทำให้การทำงานภายในย่ำแย่เหมือนกัน” อารยายิ้มรับ “เธอซื้อไอ้นี่ไปทำอะไรตั้งเยอะตั้งแยะ” จัสมินถามพลางหยิบเอาขิงที่อยู่ในถุงของอารยาออกมาดูด้วยความแปลกใจ “อ้อ! ขิงคะ จะเอาไปทำน้ำสมุนไพร ดีต่อร่างกายนะค่ะ ช่วยขับสารพิษและปรับสมดุลในร่างกายด้วย” “จริงเหรอ? ของหน้าตาแปลกๆ นี่มีคุณค่ามากขนาดนี้เชียว” จัสมินทำตาโต “เธอนี่ต้องเป็นนักโภชนาการแน่ ๆ” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” อารยาหัวเราะ แล้วสายตาก็เหลือบมองไปในร้าน เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่าในนี้เป็นร้านหนังสือด้วย “ชอบอ่านหนังสือหรือคะ” จัสมินถามเมื่อเห็นสายตาของอารยาที่จ้องมองหนังสือบนชั้นราวกับเด็กที่เห็นขนมหวาน “ค่ะ ชอบมาก ทั้งแม่แท้ๆและแม่บุญธรรมชอบอ่านหนังสือ ฉันก็เลยหลงรักการอ่านหนังสือมาอย่างไม่รู้ตัว” “เอาซิอยากได้เล่มไหนซื้อเลย ถ้าเงินไม่พอเดี๋ยวฉันจัดการให้ก่อนก็ได้” “ขอบคุณมากค่ะ” อารยาจำได้ว่าเธอลุกขึ้นไปเลือกหนังสือเล่มหนาได้มาหลายเล่ม เล่นเอาคานันและกีวอนต้องแอบเช็ดเหงื่อเพราะต้องรับภาระแบกหนังสือพวกนี้กลับที่พัก “ฉันทำให้พวกคุณลำบากหรือเปล่าคะ” อารยาถามอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรครับ แค่ผิดคาดจากที่คิดไว้นิดหน่อย” กีวอนยิ้มขรึมๆ ออกมา “ยังไงคะ” อารยาถามอย่างแปลกใจ “ผมรู้ว่าต้องมาช่วยคุณผู้หญิงถือของชอปปิ้ง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นสถานที่แบบนี้” กีวอนตอบด้วยความจริงใจ ความจริงเขาเองก็ชอบนิสัยของหญิงสาวคนนี้เหมือนกัน “มันไม่มีแอร์เย็นๆ แถมร้อนอีกต่างหาก” จัสมินอดแขวะไม่ได้ “ร้อนจริงดังที่องค์หญิงกล่าว แต่กระหม่อนก็มีความสุขมากพระเจ้าข้า” น้ำเสียงและแววตาที่จริงใจของกีวอนทำให้จัสมินไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงอะไรออกมาอีก “คุณอารยาอยากไปไหนอีกหรือเปล่าครับ” คานันถามขึ้นบ้าง “อยากเห็นทะเลทรายนะคะ” เธอหัวเราะออกมา “คงต้องเป็นคราวหน้าแล้วละ” จัสมินดื่มชามะนาวจนหมดแล้ว “แต่จะไปเที่ยวทะเลทรายต้องมีคนนำทางที่ชำนาญ ใช่ไหมคานัน” “ถูกต้องแล้วพระเจ้าข้า แต่ไกด์ที่เชียวชาญทะเลทรายที่สุดก็คือองค์รัชทายาทแห่งบาฮาเนียพระเจ้าข้า” “โอ้ว! ถ้ารอพี่ราเฟย์พาไปเที่ยว ชาติหน้าจะได้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้” จัสมินเบ้ปาก แล้วดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “สงสัยวันนี้เราต้องกลับกันแล้ว ขอบใจพวกคุณทั้งสองมากนะค่ะ คราวหน้าคงได้ใช้บริการอีก” “ตามพระประสงค์ขององค์หญิงพระเจ้าข้า” คานันเอ่ยแล้วเดินนำทั้งสองสาวกลับมาที่รถโดยมีกีวอนคุมท้าย แต่ก็เป็นบอร์ดี้การ์ดที่ดูน่าสงสารที่สุดเพราะมือทั้งสองข้างหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง ถ้ามีเหตุร้ายขึ้นมาก็ไม่รู้จะคว้าปืนได้ทันหรือเปล่า!.
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่10 ท่องเที่ยว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A