บทที่14.เนื้อคู่?   1/    
已经是第一章了
บทที่14.เนื้อคู่?
เอล บาฮา เมืองหลวงแห่งบาฮาเนีย มักถูกเปรียบเป็นเช่นเพชรเม็ดงามบนทะเลแห่งนี้ โดยเฉพาะวันนี้ที่เป็นงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาขององค์หญิงจัสมิน พระราชธิดาของกษัตริย์ฮัสซัน ตั้งแต่มีข่าวพระประชวรในวังมีแต่ความเงียบเหงา นี่เป็นงานรื่นเริงงานแรกในรอบปีก็ว่าได้ ผู้คนที่ถูกเชิญมาร่วมงานล้วนแต่กายงดงาม ทั้งเครื่องประดับที่เป็นเพชรนิลจินดาก็ล้วนถูกนำมาใส่อวดกันอย่างสนุกสนาน แต่เจ้าของงานเลี้ยงกลับตรงข้าม ร่างเพรียวสวมชุดราตรียาวกรอมข้อเท้าสีชมพูอมส้มขับผิวสีแทนให้น่ามอง เรือนผมหยักสลวยถูกประดับตบแต่งอย่างงดงาม “จัสมินเจ้าจะยิ้มสักหน่อยมิได้หรือไร” “เสด็จพ่อ” จัสมินหันไปตามเสียงที่ได้ยิน วันนี้กษัตริย์ฮัสซันทรงเข้ารวมงานด้วยฉลองพระองค์ชุดประจำชาติผ้าเนื้อไหมเนื้อดียิ่งทำให้พระองค์งามสง่า หลายคนที่หวาดวิตกในข่าวลือในทางร้ายที่พระองค์ประชวรหนักนั้นก็ใจชื้นขึ้น แต่ข่าวลือที่กระพือหนักมาแทนที่คือข่าวว่ายาดีของพระองค์เป็น ‘ของฝาก’ ที่ได้รับจากคาร์ดัล ผู้ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีและพระสหายสนิทของพระองค์เอง “ก็” ด้วยความที่ถูกสอนมาให้เชื่อฟังคำสอนของพระบิดา จึงไม่กล้าพูดในสิ่งที่ตนเองรู้สึก แต่มิได้หมายความว่าสายพระเนตรขององค์ในฐานะที่เป็นบิดาจะไม่เข้าใจ “เจ้าไม่ได้เป็นแค่ลูกสาวเราเท่านั้นแต่เป็นถึงองค์หญิง” สุรเสียงเอ่ยขึ้นซ่อนรอยพระสลวยไว้ “พ่อหวังว่างานนี้เจ้าอาจจะได้เนื้อคู่ของเจ้าด้วย” ‘เนื้อคู่เหรอ? เจอเนื้องอกละซิไม่ว่า’ จัสมินยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ขนาดราเฟย์พี่ชายที่เป็นถึงองค์รัชทายาทยังไม่หาเนื้อคู่ไม่เจอ แล้วทำไมเธอต้องรีบหาคู่ครองด้วยเล่า ชีวิตของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น การงานในมหาวิทยาลัยกำลังสนุกสนานและท้าทาย เรื่องคู่ครองขอไว้เป็นเรื่องสุดท้ายของชีวิตเธอ ขณะที่จัสมินจำเป็นต้องยิ้มต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานและรับของขวัญของกำนัลต่างๆ แต่จู่ๆก็มีแก้วเครื่องดื่มยื่นให้ตรงหน้า จัสมินมองเครื่องดื่มสีชมพูหวานสวยนั่นแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นพี่ชายต่างมารดายืนอยู่ใกล้ๆ “พี่ราเฟย์มาเมื่อไหร่คะ” “ก็เจ้ามัวแต่ทำหน้าเหม็นเบื่อจะมีสายตามองเห็นพี่รึ” วันนี้ร่างสูงสง่าสวมสูทสีเข้ม ผมหยักศกน้อยๆ ระต้นคอไม่บ่อยนักที่ชายหนุ่มจะแต่งตัวเช่นนี้ เมื่อเขาอยู่ในบาฮาเนียเขามักสวมชุดประจำชาติ จะสวมชุดสากลแบบนี้ก็ต่อเมื่ออยู่ต่างประเทศ ใบหน้าบูดบึ้งเมื่อครู่คลี่ยิ้มออกมาอย่างน้อยก็มีพี่ชายที่ค่อยเข้าใจเธออยู่ข้างๆ “ก็น้องไม่คิดว่างานมันจะใหญ่ขนาดนี้นี่เพคะ” “เจ้าหลงลืมไปหรือไรว่าตนเองเป็นลูกสาวของชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินบาฮาเนีย” ราเฟย์จงใจพูดกระทบให้พระบิดาได้ยิน และแน่นอนว่าเสียงที่ไม่เบานั้นทำให้กษัตริย์ฮัสซันแย้มพระสรวล คาร์ดัลและหมอยามาทผู้เป็นหลานชายเดินเข้ามาพร้อมกล่องของขวัญ เมื่อถวายการคำนับตามมารยาทแล้วจึงกล่องของขวัญส่งให้องค์หญิงจัสมิน หญิงสาวรับมาและกล่าวคำขอบคุณเบาๆ แต่กระซิบถามหมอยามาทถึงเพื่อนสาวชาวไทยของเธอ “เอ...ผมปล่อยตัวออกมาตั้งนานแล้วนี่ครับ” หมอยามาทขยับแว่นตากรอบเงินอมยิ้มน้อยๆ ไม่ว่าใครที่ได้อยู่ใกล้อารยาก็ดูเหมือนจะหลงรักเธอไปหมด ขนาดองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ยังเรียกหาอารยาอย่างสนิทสนมราวกับเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาเป็นแรมปี “คงจะแต่งตัวอยู่ละซิ!” จัสมินหันไปมองหน้าราเฟย์อย่างแปลกใจ เธอไม่คิดว่าพี่ชายต่างมารดาจะใช้น้ำเสียงประชดประชันแบบนั้น คนน่ารักใจดีอย่างอารยาไม่น่าจะไปทำอะไรให้ใครโกรธเคืองได้ แต่จัสมินหลงลืมไปว่าสำหรับคนไร้เหตุผลนั้นตรงข้าม “เจ้าช่างงดงามปานกุหลาบจริงๆ องค์หญิงจัสมิน” “เสด็จอานาวาท” จัสมินรู้สึกไม่ชอบหน้าเสด็จอานาวาทนักแต่ด้วยมารยาทเธอจึงต้องยิ้มแย้มและรับของขวัญซึ่งเป็นสร้อยคอประดับเพชรน้ำงาม “เชิญด้านในเถอะเพคะ” จัสมินเชื้อเชิญทั้งหมดเข้าไปในงาน ในขณะที่จัสมินยังจำเป็นต้องยืนต้องรับแขกอยู่ ราเฟย์ยังคงยืนเคียงข้าง ทว่าไม่เหมือนพี่ชายที่ยืนเป็นเพื่อนน้องสาว เพราะดวงตาสีฟ้าเข้มเหมือนกำลังเฝ้ารอใครคนหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ที่ทำให้องค์รัชทายาทชะเง้อคอยาวอย่างนี้! จัสมินต้องกะพริบตาถี่ๆ ที่เห็นร่างบอบบางคุ้นตายืนสั่งการอยู่บริเวณบุฟเฟ่ย์ของหวาน “อารยา! เธอไปทำอะไรตรงนั้นหนะ” “องค์หญิงจัสมิน” ใบหน้ารูปไข่ยิ้มกว้าง แต่เมื่อนึกได้ว่าเธอไม่ควรทำตีสนิทกับองค์หญิงจึงย่อตัว และเดินเข้ามาใกล้พยายามที่จะไม่ทำเป็นไม่เห็นดวงตาสีฟ้าเข้มเปล่งประกายวาวโรจน์ที่จ้องมองร่างบางในชุดราตรีสีฟ้าอ่อนเข้ารูปยาวเหนือเข่าเล็กน้อย แม้จะเป็นแบบเรียบๆ แต่เนื้อผ้าพลิ้วขับส่วนเว้าส่วนโค้งให้ชวนมอง ผมยาวสลวยเหยียดตรงจนน่าสัมผัสใบหน้าที่ไม่คอยแต้มแต่งเครื่องสำอางเวลานี้ถูกตบแต่งด้วยสีอ่อนๆ โดยเฉพาะริมฝีปากที่เคลือบลิปกลอสวาวใสคล้ายหยดน้ำที่เกาะกลีบกุหลาบสีแดงระเรื่อยิ่งทำให้น่าหลงใหล “อารยา” เป็นเสียงหมอนาวาทที่เอ่ยขึ้นเหมือนละเมอ เขาขยับแว่นตาแก้เขินไม่คิดว่าพยาบาลสาวที่ใส่ชุดพยาบาลจนคุ้นตาเวลานี้กลายเป็นหญิงสาวสวยดุจกุกลาบงามและชวนหลงใหลขนาดนี้ “เธอไปทำอะไรตรงนั้น” จัสมินถามพลางดึงมือของอารยาให้มายืนข้างๆ “หม่อมฉันไปช่วยนางกำนัลจัดถาดผลไม้เพคะ” อารยาเอ่ยเบาๆ “มันใช่หน้าที่เธอที่ไหนละ” จัสมินทำหน้ายุ่งแต่ก็อดหัวเราะตามออกมาไม่ได้ ‘นี่คงคิดว่าเธอชวนมาร่วมงานในฐานะเพื่อนคนหนึ่งไม่ใช่คนรับใช้’ กษัตริย์ฮัสซันพระสรวลออกมาเสียงดัง อารยาอึกอักอย่างทำอะไรไม่ถูกเพราะเธอไม่คิดว่าการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้จะกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา “นี่หรือ ‘ของฝาก’ ของท่านคาร์ดัล” นาวาทเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน อารยาเงยหน้ามองไปตามเสียงที่ได้ยิน เธอจำผู้ชายคนนี้ที่เคยเจอในภัตตาคารในเมืองได้ “คาร์ดัลช่างรู้ใจข้าทุกอย่าง” กษัตริย์ฮัสซันปรายพระเนตรไปทางนักกายภาพบำบัดสาวชาวไทย ราเฟย์รู้สึหงุดหงิดกับสถานการณ์นี้เป็นที่สุด “กระหม่อมกระหายน้ำขอตัวก่อนพระเจ้าข้า” ร่างสูงสง่าที่เป็นจุดสนใจของสาวๆ เดินเลี่ยงไปตรงมุมเครื่องดื่มพร้อมองค์รักษ์ประจำตัว อารยาถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อทุกคนต่างแยกย้ายเข้าไปในงาน แต่จัสมินคล้องแขนอารยาให้ยืนอยู่ด้วยกันก่อน “บอกแล้วว่าไม่ต้องเอาของขวัญอะไรมาก็ขนมากันตั้งมากมาย นี่ให้องครักษ์ขนไปเก็บเป็นรอบที่สองแล้วนะ” จัสมินบ่นพึมพำแต่อารยากลับยิ้มบางๆ ออกมา “ถ้าองค์หญิงไม่ต้องการ ก็นำไปให้คนที่ต้องการก็ได้นี่เพคะ” คำพูดของอารยาทำให้จัสมินหันมามองอย่างสนใจ “ชิ้นไหนที่ไหนที่พระองค์ไม่โปรดจะเก็บไว้ก็นำไปบริจาคก็ได้นี่เพคะ จำตอนที่เราไปเดินเที่ยวที่ถนนนีลได้มั๊ยเพคะ ถ้าจำไม่ผิดมีสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า…” “เออจริงซิ!” จัสมินยิ้มกว้างอย่างดีใจ “เอาข้าวของพวกนี้ไปประมูลหารายได้ให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือไม่ก็มอบให้เป็นทุนการศึกษาเด็กยากจนดีกว่า ขอบใจเธอมากเลยอารยา! ฉันนี่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ อย่างนี้ต่อให้ยืนรับของขวัญกองใหญ่แค่ไหนก็จะไม่บ่นว่าเมื่อยแล้วละ” “องค์หญิงคงเหนื่อยเดี๋ยวหม่อมฉันไปหาอะไรมาให้เสวยก่อนมั๊ยเพคะ” “ให้คนอื่นไปเอาให้ก็ได้” “ไม่เป็นไรหรอกเพคะ” ร่างบางหมุนตัวเดินไปตรงซุ้มบุฟเฟ่ย์ทันทีก่อนที่จัสมินจะเรียกนางกำนัลมา จัสมินได้แต่ถอนหายใจกับนิสัยของเพื่อนใหม่คนนี้ แต่วันนี้จัสมินก็ยอมรับว่าอารยาสวยมากกว่าที่เคย แม้เสื้อผ้าจะเป็นแบบเรียบๆ แต่กลับขับให้เรือนร่างสมสัดส่วนเกิดเส้นเว้าและเส้นโค้งอย่างน่ามอง ผิดกับผู้หญิงบางคนที่พยายามใส่ชุดที่เปิดเปลือยเนื้อหนังหรือรัดสัดส่วนแต่กลับไร้ความงามน่ามอง “ถ้าไม่ถูกแนะนำว่าเป็นองค์หญิงแห่งบาฮาเนีย กระหม่อมคงไม่มีทางเชื่อว่าท่านมีสายเลือดชาวทะเลทรายอยู่” “เอ๊ะ!” จัสมินหันขวับทันที่ได้ยินประโยคสบประมาทเธอ แม้น้ำเสียงจะทุ้มกังวานแต่คำพูดที่เสียงมารยาทเช่นนี้ทำให้หญิงสาวไม่พอใจอย่างยิ่ง “รูปกายเป็นแค่สิ่งภายนอก แต่เลือดในกายของเราไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกับความจงรักภักดีที่มีให้ต่อแผ่นดินเกิดนี้ด้วย”
已经是最新一章了
加载中