บทที่ 6   1/    
已经是第一章了
บทที่ 6
“ทำไมไปห้องน้ำนานจัง แล้วนี่กลิ่นอะไรติดตัวมาด้วยเนี่ย” ปรียานุชถามหลานสาว “กลิ่นบุหรี่ค่ะคุณย่า” พลอยไพลินตอบ ก่อนจะรีบแก้ตัวเมื่อเห็นสายตาไม่พอใจของผู้เป็นย่า “ตอนที่พลอยออกมาจากห้องน้ำ พอดีเจอเพื่อนก็เลยเดินไปคุยกันตรงระเบียง แล้วบังเอิญมีคนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้น ตัวของพลอยจึงมีกลิ่นบุหรี่ไงคะคุณย่า” “คนสมัยนี้แย่จริงๆ เลยนะ ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย แต่ช่างเถอะถึงเวลาประมูลพอดี” ปรียานุชละความสนใจจากหลานสาว ไปสนใจงานประมูลที่เริ่มขึ้นพอดี งานประมูลการกุศลในวันนี้คึกคักเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งของที่นำมาประมูลจะเป็นของคนมีชื่อเสียง ของหายาก รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ก็ยังนำมาประมูลกัน เนื่องจากผู้ที่มาร่วมงานเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมไฮโซ การประมูลเกทับจำนวนเงินเพื่อให้ได้หน้าได้ตานั้นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ “คุณพี่ไม่สนใจจะประมูลของร่วมบริจาคหน่อยเหรอคะ” นารถยาถามปรียานุชที่นั่งนิ่งเฉย ไม่ยกมือประมูลสิ่งของเหมือนกับบุคคลอื่นๆ “คุณพี่คิดว่าให้คนอื่นทำบุญบ้างดีกว่าค่ะ คุณพี่บริจาคผ่านคุณน้องก็ได้ค่ะ ไม่ต้องให้ใครได้รับรู้ว่าคุณพี่บริจาคเท่าไหร่ คุณพี่มาด้วยใจค่ะไม่ใช่มารักษาหน้าตา” ปรียานุชพูดแก้ตัว จะให้นางไปประมูลแข่งกับคนอื่นได้อย่างไร ในเมื่อนางไม่มีเงินถุงเงินถังเหมือนแต่ก่อน ลำพังแค่ใส่ซองร่วมบริจาคสมทบทุนปรียานุชก็เต็มกลืนแล้ว จะให้น้อยก็ไม่ได้กลัวจะเสียหน้า จะให้มากมายเหมือนแต่ก่อนครั้งละเป็นแสนก็ไม่ไหว แต่งานในวันนี้ปรียานุชเตรียมรับมือเอาไว้แล้ว “ได้ค่ะคุณพี่ ว่าแต่งานคืนนี้คุณพี่จะบริจาคกี่แสนดีคะ” นารถยาถาม ปรียานุชยิ้มหน้าระรื่นทว่าในใจห่อเหี่ยว “คุณพี่เขียนเช็คใส่ซองไว้ให้แล้วค่ะ สองแสนบาทค่ะคุณน้อง” เจ้าของงานยิ้มหน้าบานเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่ปรียานุชร่วมบริจาค ผู้พูดทำทีเป็นเปิดกระเป๋าถือของตัวเองออก เพื่อจะหยิบซองใส่เช็คให้นารถยา จากนั้นก็ทำสีหน้าและน้ำเสียงตกใจเมื่อไม่เห็นซองใส่เช็คอยู่ในกระเป๋า “ตายจริงคุณน้อง คุณพี่ท่าทางจะแก่แล้วนะคะเนี่ย ลืมหยิบเช็คมาเสียอย่างนั้น แย่จริงๆ เลย เดี๋ยวคุณพี่จะให้โชคขับรถไปเอาที่บ้านนะคะ” ปรียานุชทำตามแผนทันที “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณพี่ วันหลังค่อยเอามาให้ก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็นัดเจอกัน ยังไงเราสองคนก็ต้องเจอกันไปอีกนาน” นารถยาไม่สงสัยในพฤติกรรมของปรียานุชเลย คิดว่าอีกฝ่ายลืมจริงๆ เพราะนางเองก็เคยลืมเช็คที่จะนำไปร่วมบริจาคให้การกุศลเหมือนกัน “คุณพี่ขอโทษนะคะ เสียดายจังที่ไม่ได้ให้วันนี้” สีหน้าของปรียานุชห่อเหี่ยว แสดงละครได้สมบทบาท “บอกแล้วไงคะว่าไม่เป็นไร คนกันเองให้เมื่อไหร่ก็ได้ค่ะ” “ขอบคุณคุณน้องมากค่ะที่เข้าใจพี่” ระหว่างที่คุณหญิงทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องบริจาคเงินอยู่นั้น ปรียานุชไม่รู้เลยว่า ตนตกเป็นเป้าสายตาของใคร แล้วเจ้าของสายตาคู่นั้นก็กำลังเดินมาหานาง ทว่าสายตาของเขาคนนั้นเปลี่ยนทิศทางการมองไปอีกทางหนึ่ง เมื่อเห็นสตรีสาวสวยที่ที่ถูกใจกำลังสนทนากับชายอีกคนหนึ่งในโต๊ะ พอเห็นว่านั่งอยู่ใกล้ลูกหนี้รายใหญ่ เขาไม่รั้งรอที่จะเดินเข้าไปทักทาย เพราะมั่นใจว่า เธอต้องรู้จักกับปรียานุชไม่มากก็น้อย “สวัสดีครับคุณหญิงปรียานุช” น้ำเสียงคุ้นหูทำให้ปรียานุชหันไปมองผู้เรียก ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อรู้ว่าคนที่ทักทายนางนั้นคือใคร พลอยไพลินเองก็ตกใจไม่แพ้ผู้เป็นย่า ไม่คิดว่าชายหนุ่มไร้มารยาทคนนี้จะรู้จักกับย่าของตน “สะ...สวัสดีค่ะคุณโรเบิร์ต ไม่คิดว่าคุณโรเบิร์ตจะมางานนี้ด้วย” ปรียานุชพูดเสียงตะกุกตะกัก นางไม่คิดว่าโรเบิร์ตจะมาร่วมงานในคืนนี้ หากรู้นางไม่มีวันมาเด็ดขาด นารถยาหันมาสนใจผู้ชายที่ชื่อโรเบิร์ตทันที อยากรู้เหลือเกินว่าชายหนุ่มภูมิฐานคนนี้คือใคร ลักษณะท่าทางคงจะร่ำรวยไม่เบา เค้าโครงหน้าคลับคล้ายคลับคลายิ่งนัก เหมือนกับใครคนหนึ่งที่นางรู้จัก แต่นึกไม่ออกว่าเหมือนใคร “ผมมาแทนมัมกับแด๊ดครับ” โรเบิร์ตเอ่ยตอบ ก่อนจะเบนสายตาไปมองสาวสวยที่นั่งข้างปรียานุช สายตาที่มองไปยังพลอยไพลินเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างเปิดเผยจนคนที่ถูกมองรู้สึกได้ เธอไม่ชอบสายตาของเขาเลย มันดูจาบจ้วงและร้อนแรงอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวจึงเบือนหน้าหนีสายตาคู่นั้น “ขอโทษนะคะคุณโรเบิร์ต ดิฉันชื่อคุณหญิงนารถยาเป็นเจ้าของงานการกุศลคืนนี้ค่ะ อยากทราบว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณโรเบิร์ตเป็นใครคะ” ความอยากรู้ทำให้นารถยาถามออกไปพร้อมกับแนะนำตัว “คุณแม่ของผมชื่อนวลประไพ คุณพ่อผมชื่อ ไมเคิล วูฟส์ ครับ” “อ๋อ...มิน่าล่ะ ดิฉันมีความรู้สึกว่าเค้าโครงหน้าของคุณเหมือนใคร ที่แท้เป็นลูกชายของคุณนวลประไพกับคุณไมเคิลนี่เอง ตอนแรกก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมคุณโรเบิร์ตพูดภาษาไทยชัดมากขนาดนี้ สงสัยคุณแม่คงจะสอนให้พูดตั้งแต่เกิด ดิฉันไม่ได้เจอคุณแม่ของคุณโรเบิร์ตตั้งนาน คุณนวลประไพสบายดีนะคะ” นารถยานึกขึ้นได้ทันทีที่ได้ยินชื่อบุพการีของหนุ่มลูกครึ่ง ความสงสัยทุกอย่างหายไปจนสิ้น ในวงสังคมใครบ้างจะไม่รู้จักมหาเศรษฐีติดอันดับโลกอย่างไมเคิล วูฟส์ เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อเมเปิ้ล รถยนต์ตระกูลสูง ราคาต่ำสุดของรถอยู่ที่ยี่สิบล้านบาท หากคิดเป็นเงินไทย ยังไม่รวมกิจการอีกหลายอย่างที่ตระกูลนี่ครอบครอง อาทิเช่น บ่อนกาสิโน เรือเดินสมุทร คอนโดหรู ฯ รวมๆ แล้วมีมูลค่าหลายพันล้านบาท ร่ำรวยกว่านางด้วยซ้ำไป หากแต่ไม่ได้เป็นผู้ดีเก่าแบบนางก็เท่านั้น “มัมสบายดีครับ ตอนที่มัมได้รับบัตรเชิญมาร่วมการประมูลในวันนี้ มัมเดินทางกลับอังกฤษพอดีครับ จึงให้ผมมางานนี้แทน และยังฝากเงินมาร่วมบริจาคด้วยนะครับ นี่ครับ” นวลประไพเดินทางกลับอังกฤษในวันที่ผลตรวจเลือดของเขากับจีโน่ออกมา เนื่องจากได้รับข่าวว่าบิดาป่วยและเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนเขาจำเป็นต้องอยู่ที่นี่เพื่อจัดการเรื่องลูกชายให้เรียบร้อย โรเบิร์ตหยิบซองที่ใส่เช็คเงินสดให้กับคุณหญิงนารถยา นางรับไว้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถามคำถามต่อไปในลักษณะชวนคุย “คุณโรเบิร์ตกลับมาอยู่เมืองไทยเลยหรือเปล่าคะ หรือว่าไปๆ มาๆ” “ผมอยู่อังกฤษครับ แต่ที่มาเมืองไทยเพราะมีเรื่องบางอย่างต้องจัดการครับ อยู่จนกว่าธุระจะเรียบร้อยถึงจะกลับอังกฤษครับ” ช่วงที่พูดว่า อยู่จนกว่าธุระจะเรียบร้อย เขาปรายตามองไปทางปรียานุชที่นั่งหน้าซีด นางกำลังกลัวว่าโรเบิร์ตจะทวงเงินกลางวง หากเป็นเช่นนั้นนางคงเสียหน้าเป็นอย่างมาก เรื่องที่หมายมั่นว่าจะได้ก็คงมลายหายในพริบตา นารถยาคงไม่อยากเกี่ยวดองกับคนถังแตกแน่นอน “อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” นารถยาหายสงสัย แต่ก็ไม่วายสงสัยอีกเรื่อง “แต่ดิฉันก็ยังสงสัยอยู่นะคะว่า ศรีประภาแจกการ์ดเชิญคุณนวลประไพได้ยังไง” “ตอนที่มัมได้การ์ดเชิญ บังเอิญเจอกับคุณศรีประภาน่ะครับ พอคุณศรีประภารู้ว่าช่วงนี้มัมอยู่เมืองไทย จึงแจกการ์ดเชิญให้มัม บอกมัมว่าถ้ายังไม่กลับอังกฤษก็ขอเชิญมาร่วมงานกุศล มัมตั้งใจจะมางานในวันนี้ครับ แต่เผอิญแด๊ดไม่สบายเลยต้องกลับอังกฤษด่วน ผมจึงมางานนี้แทนมัมครับ” โรเบิร์ตตอบ “ว่าแต่คุณพี่รู้จักคุณโรเบิร์ตด้วยหรือคะ คุณน้องไม่ยักรู้” นารถยาจอมสงสัยยังถามไม่หยุด แต่ข้อนี้ก็น่าสงสัยไม่น้อย นางสนิทกับปรียานุชมาก แต่ทำไมนางไม่รู้มาก่อนเลยว่าปรียานุชรู้จักโรเบิร์ตด้วย ในเมื่อเขาบอกเองว่าไม่ได้อยู่เมืองไทย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แล้วทั้งสองไปรู้จักกันตอนไหน จะว่ารู้จักผ่านนวลประไพก็ไม่น่าจะใช่ เนื่องจากปรียานุชไม่รู้จักนวลประไพเป็นการส่วนตัว ไม่เหมือนนางกับศรีประภาที่พบปะพูดคุยกับนวลประไพหลายครั้งหลายหน มีความสนิทสนมกันระดับหนึ่ง ขนาดตัวนารถยาเองที่คุ้นเคยกับนวลประไพยังไม่รู้จักโรเบิร์ต ทำให้นารถยาอดที่จะสงสัยไม่ได้ “เอ่อ คือว่า” ปรียานุชพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ เท่านั้น “คืออย่างนี้ครับ ผมรู้จักคุณหญิงปรียานุชตอนที่คุณหญิงไปเที่ยวลาสเวกัสครับ คุณหญิงได้เข้าพักที่โรงแรมของผมครับ เราเลยรู้จักกันที่นั่นครับ” โรเบิร์ตช่วยแก้สถานการณ์ให้ปรียานุช “ใช่ค่ะ คุณน้อง เมื่อปีที่แล้วคุณพี่ไปเที่ยวลาสเวกัสมาค่ะ เข้าพักโรงแรมของคุณโรเบิร์ต เราเลยรู้จักกันที่นั่น” “แหม อย่างนี้นี่เอง” นารถยาหายสงสัย “เชิญคุณโรเบิร์ตนั่งก่อนค่ะ จะได้คุยกันสะดวกๆ” นารถยาเชื้อเชิญแขกผู้ร่ำรวยให้นั่งร่วมโต๊ะ ทว่าชายหนุ่มกลับยืนเฉยไม่นั่งตามคำเชิญ ปรียานุชลุ้นอยู่ในใจไม่ให้เจ้าหนี้นั่งตามคำเชื้อเชิญของนารถยา เพราะหากนั่งนางคงอึดอัดถึงขั้นความดันขึ้นได้ “อย่าดีกว่าครับ ผมไม่รู้จักใครเลยที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย” เขาพูดความจริง “ตายจริง ดิฉันลืมแนะนำให้คุณโรเบิร์ตรู้จักกับหลานชายดิฉันเลย คุณโรเบิร์ตคะ หลานชายของดิฉันเองค่ะ ชื่อศรัณย์หรือเรียกว่าหนึ่งก็ได้นะคะ ส่วนผู้หญิงสวยๆ คนนี้ก็คือ หนูพลอยค่ะ พลอยไพลินเป็นหลานสาวของคุณพี่นุชค่ะ แล้วก็เป็นว่าที่หลานสะใภ้ของดิฉันด้วยค่ะ หนึ่ง หนูพลอย คุณคนนี้คือคุณโรเบิร์ต วูฟส์ จ้ะ” นารถยาแนะนำให้โรเบิร์ตรู้จักกับสองหนุ่มสาวที่นั่งร่วมโต๊ะ ศรัณย์ลุกขึ้นยืนส่งมือให้อีกฝ่ายหนึ่งจับตามธรรมเนียมของชาวต่างชาติ พร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร พลอยไพลินทำตามประเพณีไทย เธอพนมมือ ไหว้อย่างสวยงาม แต่ไม่มีรอยยิ้มให้กับโรเบิร์ต แถมสะบัดหน้าหนีอีกต่างหาก “ผมขอตัวนะครับ เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วน สวัสดีครับ” โรเบิร์ตปลีกตัวเอาดื้อๆ พนมมือไหว้คุณหญิงทั้งสองคน ก่อนจะเดินออกห่างโต๊ะไปทันที สาเหตุที่เขาเดินมาที่โต๊ะนี้ไม่ใช่เพราะเขาอยากมานั่งร่วมสนทนาด้วย แต่เป็นเพราะอยากรู้ว่าหญิงสาวแสนสวยที่นั่งร่วมโต๊ะนั้นคือใครต่างหาก แล้วเขาก็ได้รู้แล้วว่าเธอคือใคร จุดไต้ตำตอเหลือเกิน ...พลอยไพลินเป็นหลานสาวของปรียานุช ลูกหนี้ของเขา โรเบิร์ตนึกขึ้นมาได้ว่า ปรียานุชบอกเขาว่า หากหลานสาวแต่งงาน นางจะได้สินสอดทองหมั้นจำนวนมาก อาจจะไม่มากเท่าจำนวนหนี้สิน แต่ก็สามารถทำให้ลดลงไปครึ่งหนึ่ง ตอนนั้นเขายังคิดว่า มันจะเป็นไปได้หรือ ทว่าตอนนี้เขารู้แล้วว่ามันเป็นไปได้ ฐานะของนารถยาไม่ใช่หยอก มีเงินจ่ายค่าสินสอดตามที่ปรียานุชขอไปแน่นอน ฉับพลันความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในสมอง เขาอยากรู้เหลือเกินว่า หากนารถยารู้ว่าปรียานุชติดหนี้ติดสินเขามากมายหลายร้อยล้านบาท การยกหลานสาวให้เป็นสะใภ้มีบางอย่างแอบแฝงอยู่ นารถยาจะยังยินดีรับพลอยไพลินเป็นหลานสะใภ้หรือไม่ แล้วถ้าหากไม่ยอมรับ ปรียานุชจะนำเงินที่ไหนมาใช้เขาตามกำหนด ถึงเวลานั้นพลอยไพลินคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือของเขาแน่นอน ...แค่คิดโรเบิร์ตก็สนุกแล้ว...
已经是最新一章了
加载中