บทที่12. จะให้ผมรับผิดชอบคุณเหรอ
1/
บทที่12. จะให้ผมรับผิดชอบคุณเหรอ
รักร้อนซีอีโอเจ้าเสน่ห์
(
)
已经是第一章了
บทที่12. จะให้ผมรับผิดชอบคุณเหรอ
“ดีค่ะ ถ้าอย่างนั้นความเข้าใจของเราตรงกัน ฉันจะได้เริ่มงานของฉันต่อ” เธอจดอะไรอีกนิดหน่อยแล้วปิดสมุดงานของตัวเอง ยอมรับว่าเสียงลมพายุด้านนอกทำให้เธอไม่กล้าใช้สมาร์ทโฟนของตัวเองเลย แต่การทำงานผ่านกระดาษและดินสอก็เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยมากกว่า “แล้วคุณล่ะ ชอบไวน์ขวดไหน” การ์เร็ตถามพลางหัวเราะในลำคอ ให้ตายซิ! ไหนละแม่คนคออ่อน นี่เขาเปิดไวน์สี่ขวดเพื่อชิม แต่มันก็พร่องไปมากกว่าครึ่งขวดแล้วทั้งนั้น จนเขาเริ่มจะมึนๆ เมาๆ เข้าให้แล้วซิ “จะให้พูดจริงๆหรืออยากให้โกหก” “ถึงขั้นนี้แล้วขอความจริงดีกว่า” “ขอโทษนะคะ ฉันแยกไม่ออกสักขวด” ลักษณ์ณาราทำหน้าจริงจัง ซึ่งก็เพราะเธอรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ “โอ๊ย!ไวน์แต่ละขวดนี่หลายพันเลยนะ แล้วขวดนั้นตั้งสองหมื่น” เขาชะโงกหน้าข้ามโต๊ะอาหารที่ตอนนี้เป็นโต๊ะทำงานไปแล้ว “ต่อให้ขวดละแสนฉันก็ไม่รู้ความแตกต่างจากขวดละร้อยหรอกค่ะ” เธอทำหน้าเหมือนจะขอโทษที่ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลยสักนิด “แล้วไหนคุณบอกว่าคุณคออ่อน ผมยังไม่เห็นคุณออกอาการเลยสักนิด” เขามีสีหน้าประหลาดใจที่เห็นอีกฝ่ายยังนั่งสนทนากับเขาด้วยสติเต็มร้อย “นี่ฉันก็เมาแล้วนะ” ลักษณ์ณาราหัวเราะแล้วยิ้มกว้าง “ฉันมันพวกเมาหน้านิ่ง เวลาเมาแล้วฉันพูดมาก คุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ คำพูดที่พูดออกไปแล้วมันดึงกลับมาไม่ได้ ฉันไม่อยากมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำไปตอนเมาอีก ก็เลยพยายามเลี่ยงๆค่ะ” “คุณมีประสบการณ์ที่ไม่ดี” “ค่ะ...ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย มันก็มีบ้างดื่มสนุกสนานกับเพื่อนๆ แต่อย่างที่บอก เวลาดื่มแล้วฉันพูดเยอะ พูดไม่รักษาน้ำใจใคร คนเกลียดขี้หน้าเยอะค่ะ ความจริงคนเกลียดนี่ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ปากฉันนี่มันชวนหาเรื่องเกือบหัวแตกมาแล้ว” คงไม่จำเป็นต้องบรรยายอะไรมาก เขาจะมองว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนก็ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องที่เธออยากสร้างภาพอยู่แล้ว “ผมดูไม่ออกเลยว่าคุณเมา” เขาพยักหน้าอย่างยอมรับ “แล้วปกติคุณก็พูดมาก เอ๊ย! พูดเก่งอยู่แล้ว” “คุณกำลังว่าฉันพูดมากงั้นซิ” ลักษณ์ณาราถลึงตาใส่ “เอาเถอะ ฉันว่าคืนนี้เราแยกกันพักผ่อนดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้เราจะได้เริ่มงานกันแต่เช้า” “คุณอยากพักแล้ว แต่คุณหลับไปเพิ่งตื่นนี่นะ” “คุณต่างหากที่ต้องพัก ขับรถมาตั้งไกลแถมมาติดเกาะกับฉันอีก” การ์เร็ตหลุดหัวเราะพรืดออกมา เขาเกือบสำลักไวน์ที่กำลังจิบอยู่ “ผมคิดว่าคุณติดเกาะอยู่กับผมนะ” ลักษณ์ณาราส่ายหน้าไปมา “ที่คุณต้องมาติดเกาะอยู่แบบนี้เพราะฉันหลับไปต่างหากล่ะ คุณนี่เมาจริงๆ ให้ฉันหิ้วเอ่อ...ประคองคุณไปส่งห้องนอนไหม?” “คุณอยากนอนห้องเดียวกับผมก็บอกมาเถอะ” “ไม่เอาแล้วฉันไม่อยากฝันร้ายอีก” “ไม่หรอก คืนนี้ผมจะนอนกอดคุณทั้งคืน” คราวนี้เป็นฝ่ายลักษณ์ณาราที่หลุดหัวเราะออกมา “คุณต้องหัดพัฒนามุขใหม่บ้างนะ ประโยคแบบเมื่อกี้ฉันได้ยินบ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว คุณอาจใช้ได้กับคนอื่นนะ เอ่อ...หรือคุณอยากให้ฉันช่วยเทรนให้ก็ได้นะ ฉันไม่คิดเงินค่าที่ปรึกษาหรอก” “คุณนี่ไม่น่ารักเอาเสียเลย ทำแบบนี้หมดอารมณ์เลยแฮะ” ‘ไม่น่ารัก’ ประโยคธรรมดาแต่เหมือน ใบหน้าที่แย้มยิ้มเมื่อครู่เลือนไปชั่วขณะ ลักษณ์ณาราแก้เก้อด้วยการหยิบแก้วไวน์ขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่ จะสะเทือนใจไปทำไม เธอควรชินชากับคำพูดประโยคนี้ แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้เสมอ เธอมักถูกเปรียบเทียบกับดารัณเพื่อนรักอยู่บ่อยๆ เพื่อนสาวของเธอเรียบร้อยอ่อนหวานสมกับเป็นกุลสตรีคุณหนูผู้รูปสวยรวยทรัพย์ตามตำราที่ชายใดก็หมายปอง เธอไม่เคยอิจฉาริษยาเพื่อนรัก เพราะรู้จักเข้าใจนิสัยใจคอของดารัณเป็นอย่างดีแต่หงุดหงิดกับการถูกสายตาคนอื่นเปรียบเทียบอยู่เสมอ และแน่นอนว่ามันเคยเป็นประเด็นให้เธอได้ลงมือลงไม้ชกต่อยกับผู้ชายปากร้ายมาแล้ว “ก็ไม่ได้อยากให้ใครมารักนี่” น้ำเสียงเหมือนประชดแล้ววางแก้วไวน์ เธอเม้มริมฝีปากเหมือนครุ่นคิดแล้วก็ตัดสินใจพูดออกมา “ว่ากันตามตรงเลยนะ ในฐานะที่คุณมีอำนาจในการซื้อสูง ฉันว่าคุณน่าจะลองพวกไวน์ชาวบ้านดูบ้างนะ รสชาติมันก็ไม่เลวร้ายนักหรอก” “คุณหมายถึงพวกไวน์สมุนไพร ไวน์กระเจี๊ยบอะไรนั้นนะหรือ?” เขาก็เคยได้ยินมาแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก “นั้นแหละๆ” เธอเริ่มรู้สึกลิ้นพันกันและยากที่เรียงประโยคคำพูดยาวๆ ให้คนฟังเข้าใจได้ “ยิ่งถ้าคนอย่างคุณได้ลองชิมเหล้าป่ายาดองแล้วล่ะก็...” “ไอ้เหล้าประเภทที่มีงูเป็นตัวๆ อยู่ในขวดนะเหรอ” เขาทำหน้าแหย่ “ผมไม่ฮาร์คคอขนาดนั้นนะ” “ไม่เอาไม่พูดเรื่องงู” ลักษณ์ณารายกมือโบกไปมา ใบหน้าหวานแดงจัดเพราะฤทธิ์ไวน์ คราวนี้เป็นการ์เร็ตที่หัวเราะออกมา เพียงแค่นึกถึงเรื่องที่เธอฝันร้ายเห็นงูตัวใหญ่จนละเมอได้อย่างน่าสงสารก็ทำให้เขารู้ว่าเธอมีจุดอ่อนให้เล่นงานตรงไหน เสียงกิ่งไม้กระแทกหน้าต่างทำให้เขาต้องย้ายสายตาไปมองที่ต้นเสียง เขาลุกขึ้นเดินมาสำรวจหน้าต่างในบ้านว่าลงกลอนปิดสนิทหรือยัง เห็นพายุกระหน่ำด้านนอกแล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ยังมีวาระแห่งการงานรออยู่ แต่หวังว่าพรุ่งนี้เช้าจะไม่มีรายงานความเสียหายอะไรนัก ชายหนุ่มเดินกลับมาได้เพียงสองก้าว ไฟฟ้าในบ้านก็ดับวูบลง มีเพียงแสงสว่างวาบเป็นระยะๆ จากฟ้าแลบด้านนอก เสียงเคร้งดังขึ้นการ์เร็ตได้ยินเสียงเหมือนมีของหล่นในครัว เขาเร่งเดินกลับมาที่โต๊ะและพบว่าลักษณ์ณารานั่งบนพื้นเหมือนจะคลำหาอะไรสักอย่าง “คุณทำอะไร” “ฉันคิดว่าตัวเองต้องทำอะไรสักอย่างหล่นแน่ๆ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร” การ์เร็ตเพ่งตามองในความมืดและอ้าปากร้องเตือนไม่ทันเมื่อเข่าของเธอที่คลานสี่ขาควานหา ‘อะไร’ อยู่นั้น กดทับไปที่โทรศัพท์ของเธอเอง “เฮ้ย! มือถือฉัน” “ดูเหมือนว่าจะเป็นมือถือคุณ” เขาหัวเราะแล้วทรุดตัวนั่งบนส้นเท้า “คุณจะหัวเราะทำไม” “คุณเมาแล้วรั่วจริงๆ” ลักษณ์ณาราที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นไวน์ตะคอกเขา แต่มันยิ่งทำให้เขาหัวเราะหนักขึ้น และไม่รู้ตัวว่าเขาหัวเราะบ่อยขึ้นเมื่ออยู่ใกล้เธอคนนี้ การ์เร็ตช้อนตัวเธอขึ้นอย่างง่ายดาย อุ้มเธอไว้ในวงแขน หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวรีบยกมือขึ้นคล้องคอเขาเพราะกลัวตก “คุณจะทำอะไร” “คุณเมาแล้ว ผมจะพาคุณไปนอน” เขาพูดแล้วพาเธอเดินกลับมาที่ห้องของเขา “ไม่เอาห้องคุณนะ”แม้จะเมาแต่ยังออกคำสั่ง “ไม่ทันแล้วล่ะ นอนห้องผมนั้นแหละ ไฟฟ้าดับแบบนี้กว่าไฟฟ้าจะมาคงเช้า คุณนอนกับผมปลอดภัยที่สุด” “ฉันนอนดิ้น เดี๋ยวนอนถีบคุณขึ้นมาจะทำยังไง” “ขู่ผมเหรอ” “ฉันเตือนคุณแล้วนะคุณการ์เร็ต” “ครับๆ ผมได้ยินหลายทีแล้ว” เขาบรรจงวางเธอลงบนที่นอน แต่สายตายังอ้อยอิ่งที่ริมฝีปากช่างขู่นั้น ลักษณ์ณาราปรือตามองเขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็นึกคำพูดของตัวเองไม่ออก จนเมื่อริมฝีปากของเธอถูกริมฝีปากอุ่นชื้นของเขาทาบทับลงมาอย่างดูดดื่ม เขาเม้มริมฝีปากเธอเหมือนจะลงโทษ ประคองศีรษะเธอให้รับกับจูบร้อนแรงและเรียวลิ้นที่รุกราน มือเรียวเปะปะไปบนแผงอกเพื่อผลักเขาออก ทว่ามันกลับทำได้แต่ไต่อยู่บนแผงอก เพียงถอนริมฝีปากออกเขาก็รู้สึกได้ถึงการหอบหายใจแรงของฝีฝ่าย “ลักษณ์ณารา” ทำไมเขาชอบเรียกชื่อเธอนักนะ ริมฝีปากเธอช่างหวานละมุนและลมหายใจก็ผ่าวร้อนจนเขาแทบคลั่ง เขาโน้มหน้าลงหมายจะจูบให้อิ่มเอมแต่ใบหน้าหวานกลับเอียงหลบ เขามองด้วยความสับสนประสบการณ์บอกเขาได้ว่าเธอเองก็ปรารถนาเช่นเดียวกับเขา ทว่าทำไมกลับปฏิเสธ “ทำไม?” “เราจะไม่หยุดแค่จูบใช่ไหม” เธอถามอย่างที่รู้คำตอบของตัวเองดี “แล้วคุณต้องการอะไร” ลักษณ์ณาราหันมามองเขาอีกครั้ง ในความมืดสลัวกลับมองเห็นแววตางุนงงของเขาได้ชัดเจน เธอยกมือขึ้นประคองใบหน้าของเขาแล้วระบายยิ้มบางๆ “คุณเป็นยังไงฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่าถ้าเรามีอะไรกันแล้วทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไป ฉันคงมองหน้าคุณ พูดคุยกับคุณเหมือนเดิมไม่ได้” การ์เร็ตขมวดคิ้วยังไม่เข้าใจที่เธอพูด ก็แน่ล่ะ เขามีอะไรๆ กับผู้หญิงคนไหนแล้วมันก็จบ เจอกันที่อื่นก็เป็นปกติอย่างที่เคยเป็น มันจะมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมหรือ? “คุณหมายถึงอะไร? จะให้ผมรับผิดชอบคุณเหรอ?” “รับผิดชอบ...” ลักษณ์ณาราปล่อยมือจากใบหน้าของเขาแล้วหัวเราะเบาๆ เขาขยับตัวถอยห่างทำให้เธอลุกขึ้นนั่งได้ เธอยกมือขึ้นเสยผมแล้วยิ้มอ่อนให้เขาก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู “ลักษณ์ณารา” เขาเรียกเธอไว้ด้วยน้ำเสียงที่ยังเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย “คุณไม่เข้าใจอะไรเลย” เธอพูดได้เพียงแค่นั้น ลักษณ์ณาราเดินโซเซไปหยุดยืนพิงบานประตู แต่มือไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั้งจะบิดลูกบิดประตู ร่างบางค่อยทรุดลงไป การ์เร็ตแทบจะกระโจนเข้าไปประคองก่อนที่ร่างของเธอจะลงไปกองกับพื้นเธอหลับและคราวนี้ดูจะหลับสนิทแล้วจริงๆ เขายังต้องการคำตอบให้กระจ่างใจแต่ดูท่าเธอจะไม่ตื่นมาคุยกับเขาอีก การ์เร็ตได้แต่ถอนหายใจหนักๆ มองเสี้ยวหน้าที่หลับใหล ความแตกต่างของเธอทำให้เขาประทับใจ เขาอุ้มเธอมาวางไว้บนที่นอนและปล่อยให้เธอหลับไป วันนี้เขาอุ้มเธอไปกี่รอบแล้วนะชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอเบาๆ ไม่เป็นไร เขายังมีเวลาให้เธอเฉลยสิ่งที่ทำให้เขาสับสนในคืนนี้.
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่12. จะให้ผมรับผิดชอบคุณเหรอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A