บทที่19. มาเรื่องงาน   1/    
已经是第一章了
บทที่19. มาเรื่องงาน
ลักษณ์ณารารับประทานอาหารเช้าเพียงลำพัง แต่มันก็อาจจะดีกว่าการนั่งเห็นหน้ากันก็ได้ เธอเองก็อยากจะรักษาระยะห่างระหว่างเขากับเธอให้มากที่สุด ไม่ควรเผลอใจคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ เอาเถอะ…เขาพาเธอมาเพราะเรื่องงานก็ลุยงานให้เต็มที่ มีเงินเมื่อไหร่ค่อยมาเที่ยวก็ได้ เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น หญิงสาววางมือจากอาหารเช้าที่ทานจนเกือบหมดแล้ว เธอลุกขึ้นเดินมารับสายแล้วก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “ทานมื้อเช้าเสร็จหรือยัง” “เสร็จก็ได้ค่ะ มีอะไรคะ” “ถ้าเสร็จแล้วลงมาข้างล่างแล้วกัน ไม่ต้องรีบนะ เดี๋ยวฮ็อตด็อกจะติดคอเอา” “ชิ้นนั้นฉันกินมันเป็นรายการแรกแล้วล่ะ” ลักษณ์ณาราเบ้ปาก “ อีกสิบนาทีฉันลงไปค่ะ” การ์เร็ตวางโทรศัพท์แล้วเผลอหัวเราะออกมา แต่ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขาทำให้พนักงานที่ยืนรอรับคำสั่งนั้นต้องขมวดคิ้ว ก็แต่ละคนจะชินกับภาพ การ์เร็ต แบล็ค CEO มาดสุขุมที่แค่ปรายตาก็อาจสั่งฆ่าคนได้ เขาตื่นเช้าเป็นปกติแต่ไม่อยากกวนคนที่หลับใหลอยู่อีกห้อง เขาแวะเข้าไปดูเธอที่ยังหลับอย่างสบายแล้วก็ออกมาพาตัวเองออกมานั่งทำงานในล็อปบี้ของโรงแรม เขาชอบนั่งจิบกาแฟอ่านเอกสารต่างๆที่นี่ เพราะจะได้คอยดูคนที่เข้ามาพัก ดูว่าพนักงานตัวเองดูแลผู้เข้ามาพักอย่างไร พนักงานในโรงแรมเองก็ชินกับพฤติกรรมของเขา ทุกคนทำราวไม่มีเขานั่งอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะถูกเรียกใช้งาน เขาจัดการเรื่องงานที่ค้างอยู่อย่างเงียบๆ แล้วชายหนุ่มก็ละสายตาจากเอกสารตรงหน้าเมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ ร่างหญิงสาวในชุดรัดรูปเน้นทรวดทรงลายเสือดาวหยุดยืนตรง ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดแย้มยิ้ม ผมยาวหยักสวยสีทองเป็นประกายดุจแววตาของเธอที่จ้องมองเขา ผิดกันก็ตรงที่การ์เร็ตได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “เอริก้า” “จะไม่เชิญให้นั่งเลยรึคะ” การ์เร็ตพยักหน้ารับแต่ไม่ลุกขึ้นต้อนรับ เอริก้าเม้มปากอย่างไม่พอใจแต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นลักษณะนิสัยของผู้ชายยโสคนนี้ หญิงสาวจึงได้แต่ยิ้มแย้มและนั่งข้างชายหนุ่ม เสื้อคอปาดกว้างนั้นเผยเนิ่นอกที่เขาเคยลิ้มรสแต่เวลานี้ชายหนุ่มเพียงเบนสายตามาที่เอกสารตรงหน้าและเซ็นชื่อลงไปตามปกติ “ผมไม่ว่างนะเอริก้า” “เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะ” เอริก้าหัวเราะคิกคัก “ฉันแค่มารอใครบางคนเท่านั้น” ชายหนุ่มขมวดคิ้วกับประโยคที่ได้ยิน ยังไม่ทันเอ่ยปากถามอะไรเขาก็เห็นลักษณ์ณาราเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเขา เธออยู่ในชุดเสื้อสูทสีเข้มกับกระโปรงยาวคลุมเขาแลดูเรียบร้อยเป็นการเป็นงานจนเขาต้องแอบถอนหายใจ ร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วเรียกพนักงานที่อยู่ใกล้มารับเอกสารที่เขาลงชื่อเสร็จแล้วไป “ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะคะคุณลักษณ์ณารา” เอริก้าลุกขึ้นแล้วก้าวยาวๆ เดินไปคล้องแขนลักษณ์ณาราด้วยท่าทีสนิทสนม แต่ลักษณ์ณารากลับมองจ้องหน้าการ์เร็ตเขม็งแม้อีกฝ่ายจะมองกลับด้วยสายตาที่บอกว่าตัวเขาเองไม่รู้เรื่องด้วย “เอริก้ามารับค่ะ จะพาไปบ้านเอริก้าค่ะ เราจะได้คุยกันเรื่องสปาสยามกัน” “อ่อ...ค่ะ” ลักษณ์ณารายิ้มปรับสีหน้าปกติ “ฉันพร้อมแล้วค่ะเราไปกันได้เลย” “คุณพูดเรื่องอะไร” การ์เร็ตสืบเท้าเข้าจะขวางแต่เอริก้ากลับกระชากแขนลักษณ์ณารามาไว้ก่อน “ให้คุณลักษณ์ณารามากับฉันดีกว่าค่ะ เรามีเรื่องคุยกันตามประสาผู้หญิงๆ ส่วนคุณก็ขับรถตามมาก็แล้วกันนะ เจอกันที่บ้านของฉันนะคะการ์เร็ต” เอริก้าไม่รอให้ใครปฎิเสธเธอรีบคล้องแขนลักษณ์ณาราแล้วกึ่งบังคับให้เดินไปพร้อมกัน ลักษณ์ณาราเพียงแค่ไหวไหล่เล็กน้อยแล้วเดินตามไปอย่างง่ายดายในขณะที่การ์เร็ตได้แต่ยืนหัวเสียจำเป็นต้องจำใจขับรถส่วนตัวตามทั้งสองไปที่บ้านของเอริก้า ชายหนุ่มได้แต่ก่นบ่นอยู่เพียงลำพัง เพราะเขาตั้งใจจะพาลักษณ์ณาราไปเที่ยวสถานที่ที่หญิงสาวร้องขอไว้ต่างหาก ไม่คิดว่าเอริก้าจะมาดักหักคอเขาแบบนี้ แถมยัยตัวดีจะไม่รู้ตัวอีกคงคิดว่าเขาเป็นคนวางแผนไว้แล้วซิ ลักษณ์ณาราไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังเอริก้าคุยอะไรนัก เพราะเรื่องที่เธอพูดส่วนใหญ่กลับเรื่องของตัวเองที่สนิทสนมกับการ์เร็ตมานานแค่ไหน และกลุ่มเพื่อนของเจ้าหลอนร่ำรวยมากเพียงใด ถึงปากจะบอกว่ามันเป็นข้อมูลที่เธอควรรู้ว่าเพราะนี่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่จะมาใช้บริการ ลักษณ์ณาราได้แต่ก้มหน้าก้มตาจดในส่วนที่คิดว่าเป็นข้อมูลจริง เธอชินแล้วกับการเจอลูกค้าประเภทที่อวดเงินในกระเป๋าตัวเอง ก็ดีแล้วที่เธอแต่งตัวมาพร้อมเจรจาเรื่องงาน ไม่ได้แอบหวังว่าเขาจะพาเธอเลยสักนิดเดียว ไม่ได้หวัง? หญิงสาวเงยหน้าจากสมุดจดงานของตัวเอง รู้สึกถึงรถเก๋งคันหรูหราใหญ่โตที่เธอกับเอริก้านั่งอยู่ด้านหลังนั้นชะลอลง แล้วเธอก็ซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่ได้เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถเห็นคฤหาสน์อลังการราวกับปราสาทในเทพนิยาย อาการตื่นตาตื่นใจของเธอทำให้เอริก้าแสยะยิ้ม ที่เธอลงทุนไปพาผู้หญิงคนนี้มาด้วยตัวเองก็เพราะอยากให้เห็นความแตกต่างชัดๆ จะได้เลิกเกาะแกะการ์เร็ตของเธอเสียที “บ้านคับแคบไปนิดนะคะ วันนี้มีนัดกับเพื่อนๆ ด้วย คุณจะได้รู้ว่ากลุ่มลูกค้าของฉันประมาณไหน” “ค่ะ” ลักษณ์ณารายิ้มหวานตามมารยาท แต่เมื่อก้าวลงจากรถก็อดมองคฤหาสน์ด้วยแววตาตื่นตะลึงไม่ได้ เธอมองด้วยความชื่นชมในความงามที่เจ้าของบ้านสามารถรักษาความทรงดั่งเดิมได้ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานรูปแบบทันสมัยไว้อย่างลงตัว แต่เธอไม่รู้หรอกว่าอาการหันซ้ายหันขวาสลับไปมาอย่างนี้ทำให้เอริก้ายิ้มในใจอย่างคนที่เหนือกว่า “เชิญทางนี้เลยค่ะ ฉันจะแนะนำคุณกับเพื่อนๆ ของฉัน รับรองว่าพวกเขาต้องชอบเธอมากแน่ๆ แต่ขอเตือนนิดนึงนะว่าเมื่อคืนเรามีปาร์ตี้กัน เช้านี้พวกเขาอาจจะเมาค้างกันนิดหน่อย” “ค่ะ” ลักษณ์ณารายิ้มเหมือนที่เคยทำมา มันเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ เอริก้าพาเธอไปที่ด้านข้างของคฤหาสน์ซึ่งมีสระว่ายน้ำและเพื่อนของเธออยู่ราวๆ 8-9 คน บางคนเอนกายอาบแดดบนเตียงผ้าใบ บางคนว่ายน้ำพักผ่อนสบายใจ “ทุกคนค่ะ นี่ลักษณ์ณารา ที่ปรึกษาสปาที่ฉันจะทำค่ะ” เอริก้าแนะนำลักษณ์ณารากับเพื่อนๆ ซึ่ง ดูไม่ค่อยมีใครสนใจการมาถึงของเธอนัก และที่สำคัญไม่เห็นมันเกี่ยวอะไรกับงานของเธอเลยสักนิด หญิงสาวแอบส่ายหน้าไปมา สงสัยเธอจะโดนลองของซะแล้ว แต่เอาเถอะ เธอก็ไม่ได้เสียอะไรนี่ ค่าเดินทางก็ไม่ได้เสียเงินสักกะบาท แล้วใบหน้าสวยก็เผยอยิ้มที่มุมปาก ไม่มีทางหรอกที่เธอจะให้อีกฝ่ายได้สมใจ ไหนๆ ก็ได้มาอยู่ในวงโฮโซแล้วก็ขอใช้ชีวิตให้คุ้มหน่อยแล้วกัน “ทานอะไรก่อนไหมคะ หรือจะดื่มอะไรดี” “อะไรก็ได้ค่ะ” เอาที่อร่อยๆและแพงๆด้วยนะ เปล่าหรอก ลักษณ์ณาราเก็บประโยคหลังนั้นไว้ในใจ “ตามสบายเลยค่ะ คิดว่าเป็นบ้านของตัวเอง เดี๋ยวเราเจอกันที่ห้องโถงกลางก็ได้ค่ะ รอเพื่อนๆฉันขึ้นจากสระน้ำก่อนค่อยคุยกันอีกที” “ขอบคุณค่ะ” เมื่อเจ้าของบ้านเปิดไฟเขียวให้ลักษณ์ณาราก็ขอตัวเดินชมบริเวณบ้าน เธอไม่ค่อยรู้จักสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษนัก แต่ยอมรับว่าคฤหาสน์หลังงามนี้ให้ความรู้สึกเหมือนปราสาทของเจ้าหญิง-เจ้าชายในเทพนิยาย มันกว้างแสนกว้างจนเธอคิดว่าเธอต้องหลงทางเอาได้ง่ายๆ ในขณะที่เธอมองเห็นทิวทัศน์สวนหย่อมที่มีน้ำพุให้ความร่มรื่นและกุหลาบดอกโตส่งกลิ่นหอมฟุ้งนั้น เธอได้ยินเสียงทักจากด้านหลัง หญิงสาวหมุนตัวกลับทันทีแล้วยิ้มเก้อๆ ชายวัยห้าสิบเศษที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้า “ผมพูดเร็วไปรึ” เขาถามและพูดช้าลงกว่าเมื่อครู่ “คุณเป็นเพื่อนเอริก้าหรือครับ” “ก็ไม่เชิงค่ะ คือฉันมาเรื่องงาน” ลักษณ์ณาราหัวเราะเก้อๆ ตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงคนเอเชีย แต่อีกฝ่ายกลับพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “ผมชื่อวอลเรซครับ” “ดิฉันลักษณ์ณาราค่ะ” หญิงสาวยื่นมือไปสัมผัสตามมารยาท “ยินดีที่ได้รู้จักสาวไทยครับ” “เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ” ลักษณ์ณารายิ้มกว้าง ในบรรดาคนที่เธอเจอในบ้านของเอริก้าคงมีแค่ผู้ชายคนนี้คนเดียวที่เธอรู้สึกเป็นมิตรด้วย “ผมมารบกวนเวลาของคุณหรือเปล่า” วอลเรซยิ้มบางๆ แล้วไอออกมาสองสามครั้ง “ไม่เลยค่ะ ดิฉันเดินชมบ้านเพลินไปหน่อยค่ะ เอ๋ แบบนี้ต้องเรียกปราสาทใช่ไหมคะ สวยงามเหมือนในเทพนิยายเลยค่ะ” เธอเดินอ้อมไปด้านหลังรถเข็นของวอลเรซ “อย่าบอกใครนะคะ ฉันกำลังหลงทางเลยค่ะ” “ทางเดินเชื่อมกันทั้งตึกไม่น่ากลัวหรอกครับ” วอลเรซไออีกครั้ง “ขอโทษที ปอดผมไม่ค่อยดีนัก” “ตอนเดินมาดิฉันก็ไม่ได้สังเกต มองแต่รูปปั้นสวยๆ พวกนี้” ลักษณ์ณาราหัวเราะเบาๆ ขณะที่รถเข็นไฟฟ้าของวอลเรซเคลื่อนนำทาง “คุณไม่คิดว่ามันเก่าหรือน่ากลัวไปรึ” ลักษณ์ณาราส่ายหน้าไปมา “มันสวยมากค่ะ เหมือนสร้างมาให้อยู่กับปราสาทแห่งนี้”
已经是最新一章了
加载中