บทที่28. เป็นคนที่รักคุณ   1/    
已经是第一章了
บทที่28. เป็นคนที่รักคุณ
“ลักษณ์ณารา!” เจ้าของชื่อสะดุ้งทำให้การต้องหยุดการจูบแสนหวานนั่น เธอหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย หญิงสาวเบิกตาโตอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสาววิ่งเข้ามาหา “ดารัณ!” ลักษณ์ณาราผละจากร่างใหญ่ของการ์เร็ตแล้วโผเข้ากอดเพื่อนสาวที่แสนคิดถึง “มาได้ไงเนี้ย” “มากับพี่ธันวาจ๊ะ” ดารัณบอก เพื่อนสาวมองตามไปที่ด้านหลังเห็นคุณหมอหนุ่มมาดสุขุมกำลังก้าวเข้ามา “คุณป้ารดาบอกว่าเธอมาอังกฤษ พอดีฉันมากับพี่ธันวามาเยี่ยมครอบครัวพี่กรกฏกับพี่เบลล่า” ดารัณหมายถึงพี่ชายคนรองของสามีที่ได้แฟนสาวสวยอยู่ที่อังกฤษและเพิ่งจะมีข่าวดีว่าพี่สะโภ้ตั้งครรภ์อ่อนๆ แล้ว แต่จริงๆ แล้วเธอมาเพราะเป็นห่วงลักษณ์ณารามากกว่า “สวัสดีครับ” ธันวาเข้ามาทักทาย “คุณการ์เร็ต” “เช่นกันครับคุณธันวา” การ์เร็ตผงกศีรษะลงเล็กน้อย “จะว่าอะไรไหมครับ ถ้าเราจะปล่อยให้สาวๆ คุยกัน ส่วนคุณกับผมหาที่นั่งจิบกาแฟกันสักหน่อย” ธันวาเสนอแล้วดันแว่นตาชิดใบหน้า การ์เร็ตหันไปทางลักษณ์ณาราที่ดูดีอกดีใจที่ได้เจอดารัณ แอบเสียดายนิดหน่อยนึกว่าจะได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงคนช่างพูดแล้ว เขายิ้มนิดๆ แล้วหันไปตอบรับธันวา “ในฐานะ CEO ของโรงแรม ผมแนะนำมุมกาแฟดีๆ ที่เราจะนั่งคุยกันได้นานจนกว่าสาวๆ จะเบื่อครับ” ธันวาหัวเราะออกมา “ใช่ เวลาผู้หญิงอยู่ด้วยกันนี่เรามันกลายเป็นส่วนเกินจริงๆ” “พี่ธันวาก็พูดเกินไป” ดารัณทำหน้ามุย “เมื่อครู่เห็นมีร้านเค้กน่ากินมากเลย หนิงไปกินเป็นเพื่อนมิ้นต์ก่อนนะ” “เอาซิ การ์เร็ตไม่ชอบของหวาน ฉันเลยไม่มีใครไปนั่งกินเป็นเพื่อนเลย” ลักษณ์ณารายิ้มกว้างแล้วคล้องแขนดารัณ “ฉันไปกับเพื่อนเดี๋ยวนะคะ” การ์เร็ตได้แต่พยักหน้ารับ เห็นแบบนี้แล้วเขาคงขัดใจไม่ได้ ทำได้เพียงแค่มองสองสาวเดินออกไป ธันวาแตะไหล่การ์เร็ตเบาๆ อย่างเข้าใจ สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วได้แต่หัวเราะ “หรือว่าเราควรจะจากกาแฟเป็นไวน์ดีๆ ผมรับรองความนุ่มละมุนลิ้นได้นะครับ” การ์เร็ตเสนอ “ถ้าได้แบบนั้นจะเยี่ยมมากเลยครับ” ธันวารับข้อเสนอแล้วเดินตามการ์เร็ตไปห้องรับรอง ในฐานะรุ่นพี่ที่แต่งงานก่อน อาจจะได้สอนเทคนิกรับมือกับภรรยาเอาแต่ใจเข้าให้แล้ว เครปเค้กสีหวานสวยกับชาร้อนหอมกรุ่นสำหรับสองสาวเพื่อนรักถูกทำมาวางตรงหน้า ลักษณ์ณาราดูจะตื่นเต้นเพราะมันช่างสวยน่ากินและเธอก็เป็นประเภทมีความสุขกับการกินเสียด้วยซิ ขณะที่หยิบช้อนจะตัดเครปเค้กเข้าปาก ดารัณก็แกล้งเลือนจากเค้กออกห่างเสียก่อน “เดี๋ยว” ดารัณยิ้มหวาน “สารภาพมาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้น” “เอ่อ...” ลักษณ์ณารากรอกตาไปมา แต่ดูเหมือนจะปิดเพื่อนสนิทไม่มิดเสียแล้ว “ก็ไหนว่าเขาเป็นคนไม่ดีไม่ให้มิ้นต์เข้าใกล้ไง” ดารัณจ้องเขม็งเหมือนจับผิดแต่เธอรู้ดีว่าเพื่อนสาวคงไม่ถูกใครหลอกเอาง่ายๆ อยู่แล้ว “คุณป้ารดาบอกว่ามิ้นต์มาดูงาน” ดารัณซักต่อไม่ยอมให้เลี่ยงประเด็นโดยง่าย “ก็...มาดูงานจริงๆ” ลักษณ์ณารายิ้มเขินๆ “ก็เลยได้ดูใจแถมไปด้วยซิ” “เลิกดักคอฉันเสียทีเถอะน่า” ลักษณ์ณาราเอื้อมมือไปดึงจานเครปเค้กของตัวเองมาแล้วตักเค้กเข้าปากทันทีไม่รออะไรทั้งนั้น “ฉันจะเลิกถ้าเธอจะเล่า” “ก็...ไม่รู้จะเล่าตรงไหนก่อน” ลักษณ์ณาราก้มหน้างุด นานทีปีหนดารัณจะได้เห็นเพื่อนสาวเขินอายเป็นกับเขาเหมือนกัน หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ แล้วก็ตาโตเอื้อมมือไปขวาข้อมือซ้ายของเพื่อนมาดูใกล้ๆ “นี่ๆ แหวนๆ ตกลงแล้วใช่ไหม” ลักษณ์ณาราได้แต่พยักหน้า นั้นซินะ ความรักของเธอมันเริ่มต้นจากตรงไหน เขาออกจะชอบแกล้งเธอด้วยซ้ำและทุกครั้งที่เจอก็เพราะเธอต้องมาเป็นตัวแทนดารัณ หญิงสาวค่อยๆ เงยหน้ามองเพื่อนสาวที่ยิ้มให้ด้วยความจริงใจ “มิ้นต์ว่า...การ์เร็ตจริงจังกับหนิงมั้ย?” “มาถามอะไรเอาตอนนี้ เธอสวมแหวนของเขาไปแล้วนะ” ดารัณหัวเราะออกมาแล้วเอียงคอมองเพื่อนสาวที่มีแววหวั่นไหว “แต่มิ้นต์ไม่แปลกใจเลยที่ได้รู้ว่าการ์เร็ตตกหลุมรักหนิงแล้ว” “หนิงเคยคิดมาตลอดว่าการ์เร็ตชอบมิ้นต์นะ” ลักษณ์ณาราพูดตรงไปตรงมา “แต่มิ้นต์เข้าใจมาตลอดว่าการ์เร็ตชอบหนิงนะ” “ทำไมล่ะ” ลักษณ์ณาราขมวดคิ้ว “นี่หนิงไม่สังเกตเหรอว่าคุณการ์เร็ตพยายามที่จะติดต่อเธอผ่านฉัน แค่เอาฉันมาอ้าง เขาก็ได้เจอเธอแล้ว” “นี่มิ้นต์คิดแบบนั้นเหรอ” ลักษณ์ณาราไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเลย “มีแต่หนิงละซิที่ดูไม่ออก” ดารัณยกน้ำชาขึ้นจิบ “เหมือนไม่นานนี่เอง” ลักษณ์ณาราพึมพำ “มันเร็วไปหรือเปล่าที่เราจะแต่งงานกัน” “ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา แต่อยู่ที่หัวใจ” ดารัณแตะหลังมือของเพื่อน “มิ้นต์อาจใช้เวลากว่าสิบปีที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มิ้นต์รัก มิ้นต์ถนอมทุกนาทีที่ได้อยู่ด้วยกัน มิ้นต์อาจไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาใดๆกับใครได้ แต่มิ้นต์เชื่อในความรัก ถ้าหนิงได้เจอคนที่หนิงคิดว่ารักก็จับมือเขาไว้นะ จับให้แน่นๆ แล้วใช้หัวใจครอบครองความรัก ถ้าวันหนึ่งมันเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเรามองย้อนไปเราจะได้ไม่นึกเสียใจที่ไม่เคยทุ่มเทเพื่อความรักนั้นเลย” “มิ้นต์” ลักษณ์ณาราฟังด้วยความตื้นตันใจ “ไม่คิดว่ามิ้นต์จะคิดอะไรลึกซึ้งแบบนี้ เมื่อก่อนยังเคยคิดเลยว่าทำไมมิ้นต์ถึงรอพี่หมอธันวาตั้งเก้าปีสิบปี ทั้งที่มิ้นต์เองก็มีผู้ชายมาจีบเยอะแยะ ตอนนี้หนิงเข้าใจมิ้นต์แล้วล่ะ” “ก็มันคุ้มค่ากับการรอนี่นะ หนิงก็เหมือนกันมันคุ้มหรือเปล่าล่ะ” “หนิง...หนิงรักการ์เร็ต” ลักษณ์ณาราสารภาพ เวลานี้เธอมั่นใจเหลือเกินแล้วรักเขาจริงๆ “ดีใจด้วยนะ” ดารัณบีบมือเพื่อนรัก “เรื่องงานแต่งงานล่ะ คิดไว้หรือยัง” “ก็คิดแล้ว” ลักษณ์ณาราหัวเราะแฮะๆ ออกมา “เราสองคนไม่ชอบพิธีรีตอง คิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี กลัวคนอื่นจะมองไม่ดี” “คิดเหมือนกันก็ดีแล้วนี่” ดารัณหัวเราะน้อยๆ “จะแคร์ความคิดของคนอื่นทำไม มันงานแต่งของเธอสองคนนะ จะแค่จดทะเบียนกันก็ได้ หรือจะอยู่ด้วยกันเลยก็ได้ มันสำคัญที่หนิงกับการ์เร็ตต้องการตรงกันต่างหากล่ะ” “ขอบใจหนิงมากเลยนะ ถ้าวันนี้ไม่ได้เจอหนิง มิ้นต์คงแย่แน่” ดารัณกรอกตาไปมา “คือจริงๆ มิ้นต์ก็เป็นห่วงหนิงนั้นแหละ พอได้ยินจากคุณป้ารดาว่ามาอังกฤษกับการ์เร็ต มิ้นต์ก็เลยเอาเรื่องมาเยี่ยมพี่ชายของพี่ธันวามาอ้าง แต่พอเห็นตอนจูบกันก็โล่งใจ” ลักษณ์ณาราหน้าแดงจัด คงเพราะไม่ได้อยู่เมืองไทยก็เลยเผลอใจจูบกับเขาในที่สาธารณะได้ ดารัณอดหยิกแก้มเพื่อนสาวไม่ได้ “รีบๆกินได้แล้ว แล้วไปต่อเมื่อกี้ให้มันจบๆ” “ตายแล้วยัยมิ้นต์ เดี๋ยวนี้พูดจาทะลึ่งนะ” “มิ้นต์พูดอะไรที่ไหนล่ะ หนิงคิดไปไกลแล้วนะ” สองสาวหัวเราะเสียงหวานใส หลังจากรับประทานเค้กอร่อยและน้ำชาแสนหอมละมุนแล้วทั้งคู่ก็กลับมาที่โรงแรม ดารัณกับธันวาพักที่บ้านพี่ชายทั้งสองขอตัวและนัดเจออีกครั้งที่กรุงเทพฯ ลักษณ์ณาราเดินไปกอดแขนการ์เร็ตแล้วแนบหน้าลงซบกับต้นแขน ชายหนุ่มก้มมองอย่างแปลกใจ “เป็นอะไรหรือเปล่า” การ์เร็ตถามอย่างกังวล “เป็นค่ะ” หญิงสาวช้อนตามอง จ้องไปในแววตาชวนหลงใหลจนเห็นภาพตัวเองในนั้น เธอเขย่งปลายเท้าแล้วจูบปลายคางของเขาเบาๆ “เป็นคนที่รักคุณไงคะ การ์เร็ต”.
已经是最新一章了
加载中