สาวน้อยร้อยชั่งครึ่ง (1)   1/    
已经是第一章了
สาวน้อยร้อยชั่งครึ่ง (1)
สาวน้อยร้อยชั่ง(ครึ่ง) อาคาเซีย “อย่านอนตื่นสาย ตลาดจะวาย ผู้ชายหมด อนาคตขึ้นคาน!” เป็นข้อความแรกของเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ฉันซึ่งถูกปลุกให้ตื่นจากนิทราแสนหวานด้วยเสียงข้อความเรียกเข้าได้แต่ทำตาปริบ ๆ ในระหว่างเปิดอ่านข้อความอย่างงัวเงีย “เล่นอะไรแต่เช้าเนี่ย” ฉันงึมงำหน้ายุ่งด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ เพราะเพิ่งตื่นนอน พร้อมเสยเส้นผมที่ตกลงมาปิดหน้าออกไป ก่อนเหวี่ยงโทรศัพท์เจ้าปัญหาไปบนที่นอนแล้วทุ่มตัวตามลงมา เสียงโมบายโลหะคล้ายเสียงแท่งแก้วกระทบกันดังเข้ามาในห้อง แต่ไม่สามารถทำให้ฉันผ่อนคลายกับอารมณ์เซ็ง ๆ ที่ต้องเผชิญในเช้าวันใหม่ได้เลย แต่เมื่อปลงอนิจจัง ‘ชีวิตสาวโสด’ ในวันแห่งความรักได้ ฉันจึงผ่อนลมหายใจออกมายาว พร้อมดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง แล้วรีบเก็บที่นอนในทันที แต่พอตลบผ้าห่มขึ้น ฉันก็อดปรายตามองโทรศัพท์มือถือเหมือนมันเป็นสิ่งน่ารังเกียจไม่ได้ จะไม่ให้ฉันหัวเสียแต่เช้าได้อย่างไร ในเมื่อจุดประสงค์ของคนส่งข้อความ มีปรารถนาแรงกล้าที่ต้องการให้ฉันลงจากคานแบบมัดมือชก ขอย้ำนะคะว่า ‘มัดมือชก’ คนโดนฝืนใจอย่างฉันย่อมมีปฏิกิริยาตอบโต้บ้างเป็นธรรมดา บอกตามตรงนะ ถ้าข้อความนี้เป็นฝีมือของสาวโสดในก๊วน ‘ครองคาน’ ส่งมาให้ล่ะก็ ฉันจะไม่อะไรกับมันมากเลย แต่ที่หัวเสียเป็นหมีกินผึ้งแต่เช้าก็เพราะว่า คนส่งข้อความให้กับฉัน ก็คือ ‘คุณแม่’ ที่รักของฉันนั่นเอง เฮ้อ... ขอถอนใจหนึ่งเฮือกต้อนรับเช้าวันใหม่ เรื่องของเรื่องก็คือ คุณแม่ต้องการให้ฉัน ‘แต่งงาน’ กับลูกชายของเพื่อนซี้ซึ่งได้สามีเป็นชาวนอร์เวย์ พูดง่าย ๆ ก็คือจับลูกสาว ‘คลุมถุงชน’ นั่นแหละค่ะ ไอ้ฉันมันเป็นพวกดื้อหัวชนฝาเสียด้วยสิ เล่นมัดมือชกง่าย ๆ อย่างนี้ ยอมได้อย่างไร! สิ่งที่ทำได้ก็คือ คัดค้านเรื่องแต่งงานกับคุณแม่ที่รักแบบดื้อตาใสสิคะ ใครจะเอาด้วย หรือต่อให้สิ้นไร้ไม้ตอก หมดความสามารถในการแสวงหาสามียังไง ฉันก็ไม่มีวันคว้าผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้าสักครั้งมาเป็นสามีแบบฉุกเฉินแน่ แต่ถ้าดีกรีความสวยซึ่งได้รับการการันตีจากเวทีมิสศรีสยามหมดอายุ... มันก็ไม่แน่ (โฮะๆ) เอาเถอะ... เวลานั้นมาถึงค่อยคิดวิธีรับมืออีกทีละกัน ว่าจะจัดการกับคำว่าสาวค้างสต๊อกยังไง แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ให้ความสำคัญกับเรื่องแต่งงานแบบคลุมถุงชนอยู่ไม่น้อยนะ เพราะเรื่องนี้คุณแม่ท่านจริงจังมาก ท่านบอกวันเดทไลน์เรียบร้อยแล้วด้วย ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถ้าฉันยังหาว่าที่ลูกเขยให้ท่านไม่ได้ คุณแม่ที่รักจะจับฉันใส่กล่องปล่อยวัด อุ้ย! ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่ ท่านจะจับฉันใส่พานไปถวายพ่อครึ่งลูก (ลูกครึ่ง) ตาน้ำข้าวจากต่างแดนนั่น มีเรื่องปวดหมองคิดจนไมเกรนขึ้นปี๊ดแบบนี้ ฉันจึงต้องหาตัวช่วยโดยเร่งด่วนสิคะ พอเรื่องนี้ถึงหูเพื่อนร่วมก๊วนครองคานเท่านั้นล่ะ หล่อนๆ ทั้งหลายก็พากันฮากระจายน้ำตาเล็ดเลยทีเดียว ที่ฉันนำเรื่องนี้ไปขอคำปรึกษา “มามี๊ของแกคงอยากได้ลูกเขยเป็นของนำเข้ามั้ง ไม่ชอบหรือไงยัยแสนกล อย่างน้อยผู้ชายชาวนอร์เวย์ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคที่สุดในโลก ฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ นะ แต่มีหลักฐานยืนยันเป็นข้อมูลจากโพลสำรวจด้วยเว้ย” นี่คือเหตุผลของยัยขวัญข้าว ประธานที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่ง เจ้าของไอเดียผู้ก่อตั้งก๊วนครองคาน เอ่อ... เพื่อนฉันคนนี้จัดว่าเป็นสาวสวยเซ็กซี่ และมีเสน่ห์เย้ายวนต่อเพศตรงข้ามอย่างแรงนะคะ แต่ที่ยังนั่งห้อยขาอยู่บนคานรอผู้ชายมาสอยจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะคุณเธอใช้หลักการและเหตุผลทางวิชาการในการตัดสินใจในทุก ๆ เรื่องที่เผชิญหน้า อ้อ... แม้แต่การตัดสินใจเลือกคู่ครองก็ด้วยค่ะ “ใช่ ฉันเห็นด้วยกับยัยขวัญข้าวนะแสนกล แต่คนละเหตุผลกัน อาจเป็นโชคชะตากำหนดไว้ก็ได้ ไม่ลองออกเดทกับเขาดูหน่อยเหรอ เผื่อกามเทพแผลงศร แกจะได้ลงจากคานไง เอ๊ะ หรือว่าจะให้ฉันตรวจดวงชะตาเรื่องความรักในเดือนนี้ให้แกก่อนดี” ยัยเส้นไหมนี่อีกคน ชอบเชื่อมโยงเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ไว้กับคำว่า ‘โชคชะตา’ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเล๊ย ถ้าเจ้าหล่อนจะทำตัวเป็นแม่หมอพยากรณ์ คอยทำนายทายทักเรื่องความรักให้เพื่อน ๆ ในก๊วน
已经是最新一章了
加载中