บทที่ 249 ข้าจะไปช่วยชีวิตผู้คน2   1/    
已经是第一章了
บทที่ 249 ข้าจะไปช่วยชีวิตผู้คน2
บทที่ 249 ข้าจะไปช่วยชีวิตผู้คน2 ทหารมรณะชุดดำทั้งหมดยี่สิบคนถูกซัดกระเด็นออกไป ร้องโหยหวนทรมานติดต่อกัน ซินเหยากล่าวอย่างจนปัญญา “มันช่างน่าละอาย แห่กันมาตายแท้ๆ แต่ว่าข้าไม่อาจฆ่าพวกเจ้าได้ แต่กระดูกซี่โครงของพวกเจ้าคงหักไปหลายชิ้นอยู่ เกรงว่าคงไม่มีกำลังไปฆ่าคนอื่นได้อีกแล้ว” ถางเปิ่นขุยเห็นชายร่างผอมที่น่าเกลียดคนนั้นปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ก่อนตวาดลั่น “เจ้าเป็นผู้ใดกัน” ซินเหยาสนใจเขาเสียที่ใดกัน ยื่นมือออกไปกดจุดฝังเข็มหลายจุดของโจว๋ก้องหรุง ช่วยเขาห้ามเลือด จากนั้นจึงเอ่ยคำ “รีบไปดูหลานชายของท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดูว่าตายหรือยัง เร็วเข้า!” โจว๋ก้องหรุงเอ่ย “หลานชายอีกคนของข้าเล่า?” ซินเหยาบอก “เขาท้องเสียไปห้องส้วมแล้ว ท่านดูแลสิ่งนี้ให้ดีก่อนเถิด” “ได้!” โจว๋ก้องหรุงเป็นคนหยาบๆ และเขาไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ซินเหยาพูดคือเรื่องติดตลก คิดว่าโจว๋หยุนถิงท้องเสียไปเข้าห้องส้วมอยู่จริงๆ จึงโฉบบินไปยังเบื้องหน้าของโจว๋หวูนเฟิงอย่างรวดเร็ว ทรวงอกของโจว๋หวูนเฟิงถูกกรีดเป็นแผลใหญ่เลือดไหลเป็นทางยาว โลหิตสดไหลไม่หยุด... บัดนี้ได้ทรุดตัวลงบนพื้นเป็นที่เรียบร้อย หอบหายใจรวยริน สูญเสียสติครองตัวแล้ว! โจว๋ก้องหรุงประคองโจว๋หวูนเฟิงขึ้น ช่วยเขากดจุดฝังเข็มใหญ่หลายแห่ง รักษาลมหายใจและชีพจรของเขาเอาไว้ จากนั้นก็ตรวจสอบการหายใจของเขา ลมหายใจรวยริน... “หวูนเฟิง! แม้นเจ้าตายไปท่านปู่ของเจ้าจะต้องเอาข้าตายเป็นแน่” โจว๋ก้องหรุงกระอักเลือดออกมาหนึ่งอึก จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิลงไป มือสองข้างทาบไว้บนแผ่นหลังของโจว๋หวูนเฟิง ถ่ายทอดกำลังภายในไปให้เขาเพื่อทำการรักษาอาการโลหิตไหลไม่หยุด! เพียงแต่ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส ถ้าหากไม่ใช่ว่าเขาเป็นเสมือนคนเหล็ก เกรงว่าคงจะล้มตึงไปตั้งนานแล้ว! กำลังภายในของเขาเองก็อ่อนล้าลงแทบทั้งหมด ร่างกายหยาบกร้านเกือบจะเหนื่อยล้า ไม่อาจรักษาร่างกายของตนเองได้... แต่ว่าบัดนี้กลับยังต้องถ่ายทอดกำลังภายในให้แก่หลานชายของตนเอง ตัวเขาเองแทบจะตายอยู่แล้ว แต่กลับกังวลแต่เรื่องหลานชาย? ซินเหยามองดู ในใจพลันผุดพรายความอบอุ่นเสี้ยวหนึ่งขึ้นมา คนตระกูลโจว๋ เมื่อถึงเวลาคับขันจะแสดงออกถึงความผูกพันอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ระหว่างความเป็นความตายเช่นนี้ออกมา ทำให้นางสะเทือนกลางใจยิ่งนัก โจว๋หยุนถิงก็เป็นเยี่ยงนี้ โจว๋ก้องหรุงก็เป็นเยี่ยงนี้เช่นเดียวกัน แต่ว่า โจว๋หยุนถิงเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง โจว๋ก้องหรุงเป็นคนหยาบๆ ตำแหน่งของทั้งสองคนในจวนอ๋องโจว๋ล้วนต่ำมาก และไม่ได้มีความโดดเด่นด้านวรยุทธ์อะไรเลย โจว๋ก้องหรุงไม่เคยรับราชการมาก่อน ส่วนโจว๋หยุนถิงเมื่อก่อนเคยได้รับผิดชอบงานจิปาถะเล็กๆ ในจวนอ๋อง ต่อมาก็ถูกจวนอ๋องขับออกมา ทั้งสองคนที่เกิดมาอย่าง “ไร้ประโยชน์” เยี่ยงนี้ กลับเป็นผู้มีความธรรมสูงส่งและกล้าหาญชาญชัย! ซินเหยากลัวว่าท่านลุงสามจะควบคุมพลังกายของตนเองไม่ไหว จึงเดินเข้าไป วางฝ่ามือทาบลงบนไหล่ของโจว๋ก้องหรุง ร่องรอยของกำลังภายในที่อบอุ่นและยืดยาวส่งผ่านเข้ามาไม่รู้จบ... ไม่ช้า ลมปราณของโจว๋ก้องหรุงและโจว๋หวูนเฟิงต่างดีขึ้นหลายขนัดทั้งคู่ โจว๋หวูนเฟิงค่อยฟื้นขึ้นมาอย่างนวยนาด มองเห็นโจว๋ก้องหรุงที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด สีหน้าดุดัน จึงยิ้มอย่างละอาย “ลุงสาม ท่านยังไม่ตาย ดีเหลือเกิน!” โจว๋ก้องหรุงหัวเราะพลางดุกล่าว “เจ้าไม่ตายลุงสามจะกล้าตายได้เสียที่ไหนกัน เป็นพี่หยาวช่วยชีวิตพวกเราไว้” “ขอบคุณพี่หยาวมาก” โจว๋หวูนเฟิงแสดงความขอบคุณอย่างโรยแรง “พวกท่านพักผ่อนสักหน่อยเถิด เรื่องราวที่เหลือปล่อยให้ข้ารับมือเอง” ซินเหยาลุกขึ้นยืน มองเห็นร่างของทหารมรณะชุดดำนอนเกลื่อนบนพื้นในโถงหลักนี้ โลหิตไหลกลายเป็นบ่อ...ดูราวกับนรกบนโลกมนุษย์ชัดๆ! พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นสัตว์ร้าย! กลิ่นอายสังหารของซินเหยาสั่นระริก ท่ามกลางห้องโถงใหญ่นี้บรรจุคนกว่าห้าร้อยหกร้อยคน ส่วนใหญ่ต้องพิษสลบไสล ที่ยังไม่ได้หมดสติก็สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว ทำได้เพียงถูกเข่นฆ่ากะพริบตามองปริบๆ แต่มีคนจำนวนน้อยที่ต้องพิษและตายลงทันที มีสิบกว่าคนที่ถูกทหารมรณะชุดดำจับไปฆ่าตัดตอน ร่างกระดอนไปยังที่ต่างๆ... กลิ่นคาวเลือดรุนแรงคละคลุ้งกลางอากาศ... ฝ่ามือทั้งสองข้างของซินเหยาควบรวมกำลังภายในอันแข็งแกร่ง แต่ไรมานางไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดี! แต่ว่า ไม่สามารถทนต่อการสังหารอย่างปีศาจร้ายวิปริตเลือดเย็นและเข่นฆ่าผู้ไร้กำลังทางสู้ตั้งมากมายเยี่ยงนี้ การกระทำของพวกเขาเหล่านี้ เหนือกว่าความอดทนขีดจำกัดที่ซินเหยาสามารถกลั้นเอาไว้ได้ ท่วงท่าของนางดีมากเสมอมา ยามที่ไม่จำเป็น ก็จะใช้รอยยิ้มจัดการศัตรู ดังนั้นนางจึงสามารถอดทนต่อโจว๋หว่านได้ นางสามารถอดกลั้นต่อการหักหลังทางกายของฮ่องเต้อำมหิตได้! แต่ว่า นางกลับไม่สามารถทนต่อฆาตกรเลือดเย็นที่สังหารชีวิตคนเหมือนผักปลาได้เลย! นี่มันช่างไร้มนุษยธรรมจริงๆ ความโกรธแค้นและแววเข่นฆ่าของกำลังภายในของซินเหยายิ่งทวีความดุดันเท่าไหร่ การแสดงออกภายนอกกลับยิ่งเยือกเย็นอย่างน่าอัศจรรย์เท่านั้น! “พวกเจ้า...วันนี้อย่าได้คิดหนีแม้แต่คนเดียว” ซินเหยาก้าวเข้าใกล้อย่างสงบ ทีละก้าว ทีละก้าว... ถางเปิ่นขุยที่สวมหน้ากากรู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดชายผอมโซที่น่าเกลียดขนาดนี้จึงปรากฏกายขึ้นอย่างกะทันหัน เขาตะโกนลั่น “ฮัวโหล่หยูน! เจี้ยนหารยี ที่นี่ส่งต่อให้พวกเจ้าจัดการ” อา! ! ! ทันใดนั้น... มีเสียงร้องโหยหวนลอยมาจากชั้นสาม จากนั้นร่างของทหารมรณะชุดดำนายหนึ่งก็ร่วงดิ่งลงมาจากชั้นสาม ตกลงดังโครมต่อหน้าของถางเปิ่นขุย ถางเปิ่นขุยมีสีหน้าตกใจ เงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงว่ามีทหารมรณะชุดดำจำนวนมากปิดล้อมปากทางเข้าห้องปีกห้องหนึ่งบนชั้นสาม แต่ว่าด้านในดูเหมือนจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่แข็งแกร่งกำลังต้านทานอยู่ ทหารมรณะชุดดำเหล่านี้แทบจะไม่พุ่งทะยานเข้าไปเลย! ซินเหยาหัวเราะเย็นชา “ดูท่าปัญหาของเจ้ายังมีอีกไม่น้อย” ถางเปิ่นขุยตวาดลั่นสนั่นเสียง “เล๋ยถิงพีลี่! จัดการปัญหาบนชั้นสามเสีย!” “ขอรับ! เจ้านาย!” สองแม่ทัพใหญ่เล๋ยถิงพีลี่ลอยพุ่งไปยังชั้นสามในทันใด และเข้าร่วมประจันศึก... ในมือถางเปิ่นขุยหอบเอากล่องเซิ้นกล่องที่สองซึ่งห้อหุ้มดิบดีกล่องนั้นเอาไว้ ก่อนกล่าว “นักบอี้การ์ดทั้งสี่ เจ้าคนผอมโซน่าเกลียดคนนี้ปล่อยให้พวกเจ้าเป็นคนรับมือก็แล้วกัน ข้าจะรุดหน้าไปก่อนหนึ่งก้าว พวกเจ้ารู้ว่าจะต้องไปสมทบกับข้าได้ที่ไหน!” กล่าวจบ เขาก็ถือกล่องเซิ้นพลางหมุนกายจากไป “คิดหนีหรือ เฮอะ!”
已经是最新一章了
加载中