บทที่ 2 ผมชื่อ ดู้หยุนฮุย   1/    
已经是第一章了
บทที่ 2 ผมชื่อ ดู้หยุนฮุย
บทที่ 2 ผมชื่อ ดู้หยุนฮุย หลังตื่นจากความฝัน เธอก็รู้สึกละอายใจมาก เธอหดหู่ใจและโทษตัวเองจนไม่ได้นอนทั้งคืน ท้องฟ้าสว่างแล้ว วันเวลายังคงเดินต่อไป เธอยังต้องรวบรวมสติเพื่อที่จะดูแลคนในครอบครัวนี้ ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ส่งสามีเสร็จแล้ว และยังต้องรีบไปส่งลูกที่โรงเรียน เธอถึงจะขี่รถมอเตอร์ไซค์รีบไปทำงาน ท้องฟ้าที่นี่แปรปรวนเร็วเหลือเกิน เมื่อวานหิมะยังตกราวกับขนนก วันนี้อุณหภูมิกลับสูงขึ้น บรรยากาศก็อึมครึมเหมือนฝนจะตก เธอนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เอาเสื้อกันฝนและร่มมาด้วย ถ้าฝนตกขึ้นมาก็ต้องเปียกงั้นหรอ อยากจะกลับไปเอา แต่เพราะเมื่อวานนอนไม่ค่อยหลับ เลยไม่ค่อยอยากจะขยับเท่าไหร่ งั้นก็เลยไปบริษัทเลยละกัน ได้ยินมาว่าช่วงนี้บริษัทกำลังพูดถึงเรื่องจะซื้อกิจการ เพื่อทำให้เจ้านายใหม่ประทับใจ ทุกคนเลยทำงานอย่างขยันขันแข็ง “ผู้จัดการเหอ ผมมีลูกค้าเก่าคนนึงกลับกลอกเก่งมาก ตอนแรกบอกว่าจะรับสินค้า ตอนนี้มาเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ผมไม่รู้จะทำยังไงกับเขาแล้วจริงๆ” อย่ามองว่าเหอมั้นซินจะเป็นคนที่ดูอ่อนแอเหมือนตอนอยู่ที่บ้าน เธอมีความสามารถในการทำธุรกิจมากๆ อยู่ที่บริษัทเธอเปรียบเหมือนดังมีดที่เฉียบคม ไม่ว่าลูกค้าจะเล่ห์เหลี่ยมเรื่องมากเยอะแค่ไหน ถ้ามาอยู่ในมือเธอ เธอสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย น่าเสียดายที่เจ้านายบริษัทนี้ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งตามความสามารถ เธอเลยได้เป็นแค่ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจที่มีลูกน้องจำนวนน้อย และความสามารถน้อย เธอเป็นเสาหลักของลูกน้องพวกนี้ ถ้ามีลูกค้าคนไหนที่รับมือไม่ไหว พวกเขาก็จะให้เธอออกหน้า แต่เธอก็ไม่เคยไม่มีเคสไหนที่จัดการไม่ได้เลยสักครั้ง “ลูกค้าที่พูดถึงใช่หลิวโจเฮ่าหรือเปล่า” เธอยิ้มเล็กน้อย และมองไปที่ส้งฮัวหย่าที่อายุน้อยกว่าเธอสองปี “ใช่ใช่ใช่ ผู้จัดการรู้เห็นอย่างกับมีตาทิพย์ งั้นคุณคิดว่าจะจัดการกับเขายังไงดี” “ลูบก่อนแล้วค่อยตี ตีเสร็จแล้วลูบอีก ลูบเสร็จค่อยตีอีก ทำแบบนี้สามรอบก็โอเคละ” จะจัดการกับคนประเภทนี้ก็ต้องแบบนี้แหละ รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง “แต่ว่าจะลูบยังไง จะตียังไงหรอพี่ พี่สาวที่แสนดีของผม เอางี้พี่ช่วยโทรให้ผมนะ” ส้งฮัวหย่าทำหน้าออดอ้อน เธอเคยสงสัยว่าเธอไม่ได้มาทำงานเกี่ยวกับธุรกิจ แต่ทำกับดักการขายต่างหาก ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอที่แก่กว่าเธอสามปีก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ทำไมเธอถึงได้เก่งขนาดนั้น ทั้งผู้หญิงผู้ชายก็ดูเหมือนว่าจะเคารพเธอเป็นพิเศษ อิจฉาจริงๆ “เหอะเหอะ ไม่ได้สิ แต่ว่าพี่เชื่อเธอ ถ้าเธอจัดการได้เธอจะเก่งกว่าฉันแน่นอน” นี่คือหลักการของเธอ ชี้นำได้ แต่จะไม่ทำให้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นลูกน้องเธอก็จะไม่มีการพัฒนาความสามารถเลย สองสามปีที่ผ่านมานี้ เธอฝึกสอนลูกน้องของเธอจนกลายเป็นผู้มีฝีมือ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นเพราะเธอค่อยๆ บ่มสอนมาล้วนๆ มองดูเธอทำปากแบน เหอมั้นซินก็ทนใจแข็งต่อไปไม่ไหว ช่างเถอะ จะชำนาญได้มันก็ใช่ว่าจะทำกันได้ในวันสองวัน งั้นจะแนะนำอย่างละเอียดอีกนิดละกัน “ลูกค้าของเธอคนนี้เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสีย ลูบเขา ก็คือชมเขาว่าเขาน่าสนใจมาก พูดเรื่องศีลธรรม ตีเขาก็คือจุดเด่นของนักธุรกิจทุกคนคืออยากจะหาเงิน เขาคิดว่าของเราขายไม่ออกเลยอยากจะยัดของให้กับเขา เธอสามารถพูดเป็นนัยๆ ให้เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของคู่แข่งของเขา สร้างแรงกดดันให้กับเขา แน่นอนว่าวิธีการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน จุดแข็งของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เธอสามารถดึงข้อดีของเธอและข้อเสียของเขาออกมาพูด” “อื้ม พี่ สุดยอดมาก ครั้งนี้ฉันเข้าใจแล้ว” หลังจากส้งฮัวหย่าได้รับคำแนะนำที่ดี ก็ขอบคุณและเดินออกไปด้วยความมั่นใจที่เต็มล้น ในขณะนั้นเสียงคนเคาะประตูก็ดังขึ้น เหอมั้นซิน ยังคงก้มหน้าก้มตาจัดเอกสารของลูกค้าและพูดขึ้นว่า “เชิญ” พอประตูเปิดออก เธอก็เงยหน้าขึ้นตามมารยาท มีผู้ชายคนนึงหน้าตาแจ่มใสปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ เด็กผู้ชายคนนั้นน่าจะอายุราวๆ 25ปี ใส่ชุดสูทเสื้อเชิ้ตสีขาว “สวัสดีค่ะ คุณคือ” เหอมั้นซินมองดูเขาและถามถึงที่มาของเขา “สวัสดีครับ ผมมาสมัครงานครับ ผมชื่อดู้หยุนฮุย ยินดีที่ได้เจอครับ” เขาเดินขึ้นมาข้างหน้าสองสามก้าว และยื่นมือออกมาอย่างเป็นมิตร ไม่คิดเลยว่าคนที่มีฉายาคมเหมือนมีดจะสวยขนาดนี้ ผิวขาวผ่อง ดวงตาที่สวยคม ไม่แปลกใจที่ความสามารถในการทำธุรกิจของเธอนั้นดี คงไม่เกี่ยวกับที่เธอหน้าตาดีใช่มั้ย
已经是最新一章了
加载中