บทที่ 3 เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
1/
บทที่ 3 เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
รักอันวุ่นวาย
(
)
已经是第一章了
บทที่ 3 เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
บทที่ 3 เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ “สวัสดี เชิญนั่ง” เธอยื่นมือออกมาและจับมือทักทายตามมารยาท ครั้งนี้ดู้หยุนฮุยตั้งใจเข้ามาทดสอบความสามารถของเธอ พ่อของเขาจะเข้ามารับช่วงต่อบริษัทนี้ ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายขายต้องการผู้เชี่ยวชาญมาทำตำแหน่งนี้ และผลการสำรวจก็พบว่าเหอมั้นซินน่าจะฝีมือดีที่สุด คราวนี้บริษัทดู้ซื่อซื้อกิจการบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่นี้ต้องรู้จักองค์กรภายใน ทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายขายต้องเป็นเขอเอ๋อคนเดียวเท่านั้น ไม่งั้นเขาคงไม่มาสืบด้วยตัวเอง จากการที่พูดคุยกับเขา ดู้หยุนฮุย ไม่ได้เห็นจุดเด่นอะไรของเขาเลย ในใจของเขายังมีความคิดที่ว่าผู้หญิงคนนี้ก็ได้ออเดอร์ลูกค้ามาเพราะความสวยแน่ๆ แต่ว่าเขาก็ยังไม่อยากจะตัดสินเร็วเกินไป ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ดังนั้นเขาเลยนั่งอยู่เงียบๆ ตรงหน้าเธอ โดยไม่แสดงอาการอะไรใดๆ ไม่ตื่นเต้น และก็ไม่ได้รังเกียจ สองสามปีผ่านมานี่เหอมั้นซินก็สัมภาษณ์พนักงานมาไม่น้อย คนส่วนใหญ่ถ้ามาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ถึงจะพยายามเก็บอาการยังไงก็จะดูออกว่าระวังตัว แต่เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ อย่ามองว่าเป็นแค่เด็กเพราะเขามีความสุขุมมาก ดูไม่ออกถึงความไม่สบายใจของเขาเลยสักนิด เขาต้องเป็นนักธุรกิจที่เก่งแน่ๆ เพราะระดับจิตใจของเขามีความสามารถพอที่จะทำงานนั้นได้ เพราะว่ามันออกมาจากความรัก เธอจึงปฏิบัติต่อเขาอย่างอ่อนโยน “คุณสามารถทำให้คนประทับใจได้ ฉันคิดว่าถ้าบริษัทไหนรับสมัครคุณเข้าทำงานได้ บริษัทนั้นต้องโชคดีมากแน่ๆ” เธอพูดอย่างจริงใจ คำชมใครๆ ก็ชอบฟัง รวมทั้งดู้หยุนฮุยด้วย แต่แค่เขายังไม่ได้ถูกเธอชมจนลอย ในใจของเขายังคงชัดเจนอยู่ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเธอจะสัมภาษณ์งานแบบนี้ เขาเคยเป็นHRอยู่ที่แผนกอื่น ยังไม่เคยเห็นการสัมภาษณ์ครั้งไหนที่ชมคนมาสมัครงานเลย นี้เป็นเรื่องที่เหอมั้นซินไม่เหมือนกับคนอื่น เวลาเธอสัมภาษณ์งานเธอจะยอก่อน แต่ไม่ได้ชื่นชม ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าทุกคนหวังว่าจะได้รับความสำคัญ หลังจากที่ได้รับคำชมพวกเขาจะมีความมั่นใจขึ้น ก็จะทำให้แสดงออกได้ดีกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน แบบนี้ก็จะทำให้คนสัมภาษณ์กับคนที่มาสัมภาษณ์มีความสัมพันธ์ที่สนิทกันมากขึ้น ก็จะทำให้บรรยากาศการสัมภาษณ์งานดีขึ้น “ขอบคุณครับ ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสทำงานให้กับบริษัทนี้” เขาตอบกลับความเมตตาของเธอ “งั้นพวกเรามาพูดถึงปัญหานี้กันดีมั้ย คุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นมนุษย์คืออะไร” ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะดูนุ่มนวล คำถามที่ถามก็เป็นคำถามทั่วไปเกี่ยวกับมนุษย์ แต่ว่าดู้หยุนฮุยไม่เห็นด้วยกับวิธีของเธอ เขาเป็นคนที่เลือดร้อนมาก คิดว่าบริษัทควรที่จะให้ความประทับใจแก่คนที่มาสัมภาษณ์ ทำหน้าที่คนสัมภาษณ์งาน ก็ควรที่จะมีความหยิ่งยโส ทำให้คนรู้สึกอยากเข้ามาทำงานแต่ก็ยากที่จะเข้ามา “ศีลธรรม คนไม่มีศีลธรรมก็จะดำรงชีวิตไม่ได้” เขาตอบอย่างง่ายๆ สั้นๆ เขามีความมั่นใจเต็มร้อย เธอยิ้มและมองเขา และหลังจากนั้นก็พูดคุยกับเขาอีกมากมาย ตลอดการสัมภาษณ์ของเธอก็สึกว่าสบายๆ การแสดงความคิดเห็นของเธอต่อเขาทุกอย่างดีมาก แต่ว่าเธอพบว่าเด็กคนนี้มีความหยิ่งผยอง ถึงแม้ว่าเขาไม่อยากแสดงมันออกมา แต่ว่าที่จริงแล้วเขาหยิ่งผยองมาก แต่ว่าเธอไม่ถือสาอะไร ทุกคนมีข้อดีของตัวเอง ลูกค้าบางคนก็ต้องการรับมือกับคนแบบนี้ “เอาละ ถ้าหากไม่มีปัญหาอะไร วันนี้คุณก็เริ่มงานได้” เพราะว่าเมื่อกี้เขาแสดงความคิดเห็นว่าอยากทำงานเร็วๆ เธอก็เลยทำตามความต้องการของเขา ตลอดช่วงเช้า เขาดูเอกสารแนะนำบริษัทและหนังสือแนะนำพนักงานอยู่ข้างๆ เธอ เธอแนะนำเขาเป็นบางที ถึงเวลาของมื้อเที่ยงแล้ว เหอมั้นซินหยุดทำงานทุกอย่างที่อยู่ในมือเธอ และลุกขึ้นมาอยู่ข้างๆ ดู้หยุนฮุย เธอแอบสำรวจเขาอยู่นาน เด็กคนนี้ไม่เลวจริงๆ ดูเอกสารอย่างจริงจัง วัยรุ่นสมัยนี้ที่ดีเลิศและตั้งใจมีน้อยมากจริงๆ “ดู้หยุนฮุย พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ แล้วเดี๋ยวฉันจะพานายไปเดินดูรอบๆ บริษัทด้วย” เขาไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเขาอยากจะทำความรู้จักกับผู้จัดการเหอคนนี้อยู่แล้ว “ที่นี่เป็นโรงอาหารของพนักงาน ฉันสามารถบอกเธอได้อย่างภาคภูมิใจว่าอาหารของเรามีชื่อเสียงมาก นายดูพนักงานพวกนั้นสิ หน้าตาดูมีสีสันมาก” พวกเขาเดินไปคู่กัน เหอมั้นซิน แนะนำเขาอย่างเป็นกันเอง เขาประทับใจเธอมากขึ้น ไม่ว่าจะโอกาสไหนเธอก็แนะนำลูกน้องของเธออย่างทุ่มเท เป็นพนักงานที่หาได้ยากจริงๆ “คุณเวอร์มากเกินไปละ ผมดูหน้าคุณมันดูออกจะซีด” เขาอ้าปากพูด “คุณว่าอะไรนะ” เธอหยุดและมองเขาอย่างประหลาดใจ และยิ้มอย่างเขินอาย “สีหน้าของฉันจะโทษโรงอาหารไม่ได้ ต้องโทษที่ตัวฉัน เหอะเหอะ” บรรยากาศดูผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น และหลังจากนั้นเธอก็พาเข้าไปตักข้าว พวกเขาเลือกนั่งที่ที่มีคนน้อย แบบนี้ก็คุยถนัดขึ้น ตะเกียบของเหอมั้นซินตักอยู่แค่ผักผักกาดขาวกับผักต่างๆ เท่านั้น แต่ดู้หยุนฮุยเป็นสัตว์กินเนื้อเขากินแค่อาหารที่มีเนื้อสัตว์อยู่ด้วย “ผู้จัดการเหอ คุณกำลังลดน้ำหนักอยู่หรอ” มีแค่เขาที่กินเนื้อกินปลาอยู่คนเดียว เขาเริ่มรู้สึกเกรงใจราวกับว่าเขากำลังเอาเปรียบเธอ “เหอะเหอะ ใช่แล้ว” เธอยิ้มและตอบกลับ เขาพึ่งจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มองไม่เบื่อเลย ตอนเธอยิ้มมันทำให้คนรู้สึกถึงสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้อยากอยู่ใกล้เธอโดยไม่รู้ตัว “คุณก็ไม่ได้อ้วนซะหน่อย หุ่นแบบนี้สวยจะตาย” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอยากชมเธอ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 3 เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A