บทที่ 7 จูบที่ยากจะต้านทาน   1/    
已经是第一章了
บทที่ 7 จูบที่ยากจะต้านทาน
บทที่ 7 จูบที่ยากจะต้านทาน เขาถามจนเธอพูดไม่ออก ใช่ กลัวอะไร? คิดซะว่าเขาเป็นน้องชายก็ได้ น้องชายตัวเองก็อายุไล่เลี่ยเขาไม่ใช่หรือ? “ก็ได้ค่ะ งั้นรบกวนคุณไปเอาเสื้อผ้าคุณมาให้ฉันด้วยค่ะ” เธอพูดพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไป เขาช่างเป็นคนละเอียดอ่อน ปรับน้ำอุ่นให้เธออุ่นกำลังพอดี เขาค้นอยู่นาน ก็ไม่เจอกางเกงที่เธอพอจะใส่ได้ จึงหยิบเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายตัวใหญ่ของตนมาให้เธอ “ถอดให้หมด แล้วส่งมาให้ผม” เขายืนรอเธออยู่หน้าประตู เธอถอดทุกชิ้นบนกาย หลบอยู่หลังประตู แง้มประตูแล้วยื่นออกมา ดู้หยุนฮุยรับเสื้อผ้าเธอจากช่องประตูเล็กๆ เห็นมีแต่เสื้อผ้าตัวนอกไม่มีชุดชั้นใน “ชั้นในก็ส่งมาให้ผมด้วย เปียกขนาดนั้นจะใส่ยังไงครับ?” เธออายมาก อายจนหน้าแดง ยังดีที่เขามองไม่เห็น จับชั้นในพวกนั้นไว้ในมือ ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ยังรู้สึกว่าไม่เหมาะที่จะเอาให้เขาไป “คุณวางใจได้ครับ เดี๋ยวถ้าคุณออกมา ต่อให้ไม่ใส่อะไรเลย ผมก็จะไม่ดู เอามาให้ผมเร็วเข้าเถอะครับ” เขาพูดขนาดนี้แล้ว งั้นก็ให้เขาก็ได้ เธอเอาสองชิ้นนั้นล้างน้ำจากก๊อกน้ำก่อน แล้วส่งให้เขา ดู้หยุนฮุยหาถุงหิ้วมาใส่เสื้อผ้าเปียกที่เธอถอดออกมาให้ทั้งหมด แล้วนำไปยังร้านซัก อบ แห้ง อาบน้ำที่นี่ ยังไงก็รู้สึกไม่ค่อยดี ตักอาบสองสามขัน เมื่อรู้สึกไม่หนาวแล้ว ก็รีบเช็ดตัวให้แห้งแล้วสวมใส่เสื้อเชิ้ตตัวโตของเขาเดินออกมา ในเมื่อนั่งก็ทำได้แค่นั่งอยู่เฉยๆ เธอจึงช่วยเขาเก็บนิตยสารที่รกรุงรังอยู่บ้านโต๊ะ เมื่อดู้หยุนฮุยกลับมา เห็นเธอกำลังก้มจัดของอยู่พอดี เธอสวมใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตัวโตของเขา ข้างในว่างเปล่า เขามองจากมุมนี้ สามารถมองเห็นขาอ่อนของเธอที่ปรากฏตามที่เธอเคลื่อนไหว ถึงจะรู้สึกว่ามองเธอแบบนี้ไม่ค่อยดี แต่เขาก็ไม่อาจที่จะละสายตาได้ “คุณกลับมาแล้วหรอคะ?” เธอเงยหน้ายิ้ม เห็นเขาจ้องมองตนเองอยู่ ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองใส่ชุดแบบนี้แล้วโป๊ะมาก อายจนไม่รู้จะทำยังไง สถานการณ์ต่างก็เก้อเขิน ดู้หยุนฮุยยื่นมือไปรับของในมือเธอมา “คุณนั่งก่อนครับ ของพวกนี้ผมจัดการเก็บเองครับ” ด้วยความตื่นเต้น มือของเขาคว้าจับโดนมือเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ปล่อยมือ “โผ๊ะ” เสียงนิตยสารตกหล่นลงพื้น รู้สึกได้ถึงความตกใจของเธอ ที่จริงเขาเองก็รู้สึกใจเต้นผิดปกติหลังจากที่จับโดนมือเธอเหมือนกัน “คุณกลัวผม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงต่ำ เสียงนั้นดั่งแม่เหล็ก ฟังแล้วทำให้น่าหลงใหล “ฉัน....” เธอเงยหน้าขึ้น สบตากับเขาพอดี ดั่งมีใยแก้วนำไฟ ครอบงำคนทั้งสอง เขารู้สึกใจคึก ทนต่อไปอีกไม่ไหว ยื่นแขนโอบเอวเธอ ในขณะที่เธอกำลังตกใจ ริมฝีปากของเขาก็กดทับลงมา “อือ...ไม่ค่ะ” โดนเขาจูบกะทันหันแบบนี้ เธอตกใจจนแทบจะกลั้นหายใจ แต่เธอก็ยังมีสติ ใช้แรงผลักเขาให้ออกห่าง เขาไม่สามารถสนใจอะไรแล้ว ในตาเขา โลกทั้งใบจดจ่ออยู่ที่ปากน้อยๆของเธอ จับมือน้อยของเธอที่ตวัดไปมาอย่างอ่อนโยนแต่หนักแน่น เขายิ่งจูบลึกซึ้ง ริมฝีปากเขาจูบปากเธออย่างรุกเร้า ดื่มด่ำ เริ่มแรกเธอพยายามปฏิเสธ พอตอนหลังก็ค่อยๆอ่อนระทวย และก็ไม่รู้ว่าเธอตอบสนองเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินเสียงครางเคลิ้มของตัวเอง เธอสะดุ้ง ได้สติกลับมาทันที เธอรีบผละออกจากปากของเขา หายใจเข้าเต็มปอด “ไม่ค่ะ ไม่ทำแบบนี้” เสียงเธออ่อนระทวย เป็นเพราะความตื่นเต้นเมื่อกี้ทำให้เสียงเธอแหบแห้ง “ไม่ทำแบบนี้?” เขาหายใจหอบ ถามทั้งที่รู้ “ไม่...ไม่ต้องจูบฉันค่ะ” เธอพูดอย่างหมดเรี่ยวแรง เธอรู้ตัวเองดี หวังอยากที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งมารักและทะนุถนอมแบบนี้มาตลอด ตอนนี้สำหรับเธอ ที่จริงก็ยากที่จะปฏิเสธเขาเหมือนกัน บทที่ 8 โดนรังแกอย่างน่าสงสาร “แต่ผมชอบจูบ คุณก็ชอบให้ผมจูบ” เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ ไม่สนใจความต่อต้านของเธอ ก้มลงจูบปากเธออีกครั้ง เธอหันหัวหลบหนี ท่าทางจริงจัง “ไม่ค่ะ” “คนดี ให้ผมจูบนะ” เขาพูดอ้อนอย่างอ่อนหวาน พร้อมกับโอบเอวเธอมาแนบชิด ว่องไว กะทันหันจนเธอมึน ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ประทับริมฝีปากจูบอีกครั้ง “อย่าค่ะ....” เธออ้าปากปฏิเสธ ปลายลิ้นของเขายิ่งรุกเร้าเอาแต่ใจ ไม่ให้เธอได้มีโอกาสหายใจ ดูดดื่มเธออย่างดื่มด่ำ เขาตั้งใจที่จะดูดดื่มเธออย่างหมดสิ้น ไม่ให้เธอเหลือเรี่ยวแรงต่อต้าน เธอก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียความตั้งใจ แรงที่ต่อต้านค่อยๆอ่อนลง ร่างกายค่อยๆอ่อนระทวยดั่งปุยนุ่น รู้สึกเหมือนจะขาดใจอีกครั้ง โดนเขาจูบจนร้อนผ่าวไปทั้งร่าง เขาจูบเธอ พร้อมกับก้าวเท้าพาเธอไปยังห้องนอน เดินไปด้วย จูบไปด้วยแบบนี้ ทำให้เธอยิ่งมึนเมา ด้วยความกลัวหล่นตกลงมา แขนของเธอโอบรัดคอเขา แล้วเริ่มตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อน เมื่อถึงปลายเตียง เขาวางเธอลงอย่างแผ่วเบา โดยที่ปากไม่ยอมละห่างจากเธอ แล้ว ร่างเขาก็ทับตามลงมา ทิ้งทั้งร่างทับอยู่บนร่างบางของเธอ สติบอกเธอว่า จะต้องผลักผู้ชายคนนี้ออก แต่ร่างกายกลับอยากที่จะแนบชิดกับเขาลึกซึ้งกว่านี้ เธอต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างหนัก จนเกือบที่จะคล้อยตาม “ไม่...ไม่​​.....ไม่ได้” เธอร้องเรียก ขยับตัว อยากที่จะสลัดออกจากเขา แต่อีกใจก็ทำใจไม่ได้ที่จะสลัดออก ในขณะที่เธอกำลังมีความสุขเคลิบเคลิ้มจนไม่อาจต้านทาน เสียงเพลงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เรียกสติเธอให้ตื่นขึ้นมา ดีที่โทรศัพท์สายนี้มาได้ทันจังหวะ ไม่อย่างนั้น... “ฉัน...ฉัน....รับโทรศัพท์” เขาสุดที่จะเสียอารมณ์ แต่ก็ยอมคลายมือ ให้เธอได้ยืนขึ้น เธอรัดเสื้อเชิ้ตแนบชิดตัว วิ่งไปเอาโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟา เป็นสายแม่ยายโทรมา เธอรู้สึกผิด จ้องมองโทรศัพท์อย่างไม่กล้ารับสาย กลัวว่าน้ำเสียงจะบ่งบอกถึงสิ่งที่เพิ่งกระทำไป ไม่รู้ว่าเขามานั่งบนโซฟาด้านข้าง จ้องมองเธออยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ “รับเถอะ ไม่ต้องกลัว ฟังไม่รู้หรอกครับ” เขามักที่จะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เสมอ เธอมองหน้าเขา แล้วกดรับสายอย่างกล้าๆกลัวๆ “เธอทำไมยังไม่กลับมา? ไม่กลับมาทำกับข้าวก็แล้วไป ลูกของตัวเองแท้ๆก็จะให้ฉันดูแลหรือไง?” เมื่อรับสาย ยังไม่ทันเรียกแม่ แม่ยายก็ด่าทอเธอมาเป็นชุด เสียงนั้นดังฟังชัด ดู้หยุนฮุยได้ยินอย่างชัดเจน เขาขมวดคิ้วมองดูท่าทางเธอที่เปลี่ยนเป็นเซื่องซึมนั้น เดาก็รู้ว่าเป็นแม่ยายโทรมา ผู้หญิงคนนี้ช่างดูน่าสงสารที่โดนเอาเปรียบ “ขอโทษค่ะคุณแม่ หนูหาที่ชาร์จแบตรถอยู่ค่ะ” เป็นเพราะเมื่อกี้เพิ่งกระทำเรื่องที่ไม่ให้เกียรติสามีไป เธอจึงรู้สึกผิด น้ำเสียงที่พูดกับแม่ยายจึงอ่อนลงกว่าปกติ “ยังมีเวลาชาร์จแบตอีกหรือ? อีกนานแค่ไหน เข็นกลับมาเลยก็ได้ไม่ใช่หรือ?” ยังไงแม่ยายก็ยังไม่ยอมลดลา “ข้างนอกฝนยังตกหนักด้วยค่ะ” เธออธิบายต่ออย่างอ่อนน้อม “ฝนตกแล้วยังไง? ตากฝนแค่นั้นจะเปียกตายไหม? ยิ่งอยู่ยิ่งทำเป็นบอบบาง เคยบอกเธอแต่แรกแล้วว่า เมื่อเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้ นิสัยคุณหนูผู้ดีให้สลัดทิ้งไป” ดู้หยุนฮุยทนฟังต่อไปไม่ไหว แย่งโทรศัพท์มา กดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที
已经是最新一章了
加载中