บทที่ 9 เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น   1/    
已经是第一章了
บทที่ 9 เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น
บทที่ 9 เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น “คุณ...คุณทำอะไรคะ?” เธอพูดอย่างไม่เข้าใจ เป็นเพราะเขา ที่ทำให้เธอกระทำเรื่องน่าอายแบบนั้น “คนบ้าแบบนี้ คุณจะสนใจทำไม?” เขาโมโหอย่างที่สุด ช่างหมั่นไส้กับความไร้เดียงสาของเธอนัก คนดีพร้อมขนาดนี้แต่งเข้าบ้านเขาแล้ว ทำไมยายแก่บ้านั่นยังเอาเปรียบรังแกเธอแบบนี้ “คุณไม่เข้าใจ เอาโทรศัพท์คืนมา ฉันต้องรีบโทรกลับไปอธิบายให้เขาเข้าใจ” วัยรุ่นอย่างเขา จะมาเข้าใจความซับซ้อนของชีวิตครอบครัวได้ยังไง? ชีวิตหลังแต่งงานไม่ได้สวยหรู เรียบง่ายเหมือนคู่รัก คนตั้งหลายคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แล้วอยากอยู่อย่างสงบ ก็ต้องมีสักคนที่ต้องอดทนและเสียสละ “ไม่ให้ ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย แบตรถหมด เป็นความตั้งใจของคุณหรือไง? หรือคุณอยากให้ฝนตก? คุณฟังที่เค้าพูดสิ ไม่มีใครตายเพราะตากฝน แล้วทำไมฝนถึงไม่เปียกโดนตัวเค้า? เค้ายังเห็นคุณเป็นคนอยู่ไหม เค้าทำอย่างกับคุณเป็นทาส” คำพูดของเขาทำให้เธอเจ็บปวดใจมาก ใช่ เธอรู้ทุกอย่าง เขาพูดไม่ผิด เจ็ดปีแล้ว ดูเหมือนเขาจะเป็นคนแรกที่ช่วยพูดระบายความในใจของเธอ ทำให้เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองโดนกระทำยังมีคนรับรู้ ในใจรู้สึกซาบซึ้ง อบอุ่น เมื่อมองดูเขา ดวงตาก็แดงขึ้นมา เขานึกว่าเธอเอาโทรศัพท์คืนมาไม่ได้ก็เลยโกรธ รีบคว้ามือเธอมา แล้ววางมือถือบนมือเธอ “เอาล่ะ เอาล่ะ คืนให้คุณ ดูคุณสิ จะต้องโกรธขนาดนี้ทำไม?” น้ำเสียงเขาอ่อนโยน เหมือนกำลังพูดเอาใจเด็กน้อย เธอทั้งอยากขำทั้งอยากร้องไห้ ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอสนิทกันยิ่งขึ้น เขาดูเหมือนเป็นคนเอาใจเก่ง แต่ ความจริงก็คือความจริง เธอก็ยังต้องโทรกลับไปอธิบายอยู่ดี “เสื้อผ้าของฉันต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะแห้งคะ? ฉันต้องบอกเวลาที่แน่นอนให้กับแม่ยาย” “อืม คืนนี้คงไม่ทันแห้งแล้วครับ ถ้าต้องรีบกลับไป ก็กลับไปอย่างนี้แหละ ก็ไม่เลวนะ” เมื่อคิดว่าเธอจะต้องจากไป เขารู้สึกทำใจไม่ได้ จึงแกล้งพูดล้อเธอเล่น สายตาจ้องมองเธอ เมื่อสบตาเขา ตัวเธอเองก็ก้มหน้าต่ำลงอย่างเก้อเขิน เสื้อเชิ้ตเขาไม่มีกระดุมแล้ว เธอจับรัดไว้แน่น แต่ตรงต้นขาไม่ได้ถูกปกคลุม ใส่เสื้ออยู่ก็เหมือนไม่ได้ใส่ เฮ้อ ไม่น่าอาบน้ำเลย ยิ่งไม่น่าใส่เสื้อเชิ้ตของเขา เสียใจจริงๆ “อย่าล้อเล่นเลยค่ะ ถ้าฉันไม่กลับบ้าน พรุ่งนี้ฉันต้องโดนถลกหนังแน่ค่ะ” สีหน้าเธอจริงจัง “เดี๋ยวก็แห้งแล้วครับ อย่าคิดมาก ผมให้เค้ารีบอบแห้งให้คุณอย่างเร็วที่สุด เดี๋ยวคุณทานบะหมี่เสร็จ ผมก็น่าจะไปเอามาให้คุณได้แล้วครับ” เธอกดเปิดเครื่องอย่างตื่นเต้น รู้ดีว่าคราวนี้แม่ยายต้องไม่ปล่อยเธอแน่ หายใจเข้าลึกๆ แล้วกดโทรออกอย่างกล้าๆกลัวๆ “เธอรู้จักปิดเครื่องด้วยหรือ? เดี๋ยวนี้จะพูดนิดพูดหน่อยไม่ได้เลยใช่ไหม? เธออยู่ที่ไหนกันแน่? ดึกดื่นไม่ยอมกลับบ้านแบบนี้ คงไม่ใช่ว่าแอบไปทำอะไรลับหลังสามี.....” “คุณแม่พูดอะไรอย่างนั้นคะ? ฉันเคยออกมาตอนดึกดื่นที่ไหนกันคะ? ฉันอธิบายแล้ว แค่มาชาร์จแบตรถ เดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ” เธอกดวางสายแม่ยายอย่างโมโห เห็นเธอเป็นคนแบบไหนกัน แต่งงานมาเจ็ดปีแล้ว เธอเรียบร้อย เชื่อฟังอยู่ในกรอบที่ดีมาตลอด เคยคิดถึงชายอื่นที่ไหน? แม้เพียงนาทีก็ไม่เคย แม่ยายคิดไม่ถึงว่าลูกสะใภ้จะกลายเป็นคนสู้คนขึ้นมา อึ้งจนลืมตอบโต้ ตอบรับไปอย่างงุนงง เธอเองก็เพิ่งคิดได้ว่า เมื่อกี้ตอบแม่ยายไปอย่างรวดเร็วเกินไป จนลืมไปว่าคืนนี้เธอได้กระทำเรื่องที่ไม่ให้เกียรติสามีไปแล้ว หมดกัน ความดีไม่มีที่ติของเธอ หวนกลับไม่ได้อีกแล้ว ไม่เพียงรู้สึกเสียใจ ยังรู้สึกว่าตัวเองช่างต่ำทรามจริงๆ ดู้หยุนฮุยจ้องมองหน้าเธออยู่ตลอดเวลา พิจารณาดูสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงของเธอ เธอเสียใจ บนใบหน้าเธอปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน “ผมขอโทษ เป็นผมเองที่หุนหันพลันแล่น” เขาเพิ่งรู้ว่า ตัวเองเอาแต่ใจแค่ไหน เธอมีครอบครัวแล้ว เขากลับยั่วเย้าเธอ ดีที่มีสายนี้โทรเข้ามา ไม่อย่างนั้นทั้งสองคงทำลายเส้นกั้นนั้น อย่างไม่มีทางหวนคืน ดู้หยุนฮุย ดูสินายทำอะไรลงไปบ้าง เธอคงเป็นผู้หญิงที่ดีรักนวลสงวนตัว เป็นเพราะความหุนหันของเขาแท้ๆ ทำให้เธอต้องโทษแม้กระทั่งตัวเอง ทั้งที่อยากรักและทะนุถนอมเธอ กลับคิดไม่ถึงว่า ยิ่งทะนุถนอมเธอกลับยิ่งทำให้เธอยิ่งเจ็บปวด “ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ” ในใจเธอยิ่งรู้สึกผิด “ทำไมพูดแบบนี้ครับ? ผมต่างหาที่ตีสนิทคุณ” เขาถามเธออย่างข้องใจ “เพราะคุณอายุยังน้อย ยังเป็นเด็ก....ไง” เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเขากระชาก เธอไม่ทันได้ระวังจึงล้มลงนั่งบนตักเขาแล้วร้องขึ้นมาเสียงดังด้วยความตกใจ
已经是最新一章了
加载中