ตอนที่82 จูบด้วยความริเริ่ม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่82 จูบด้วยความริเริ่ม
ตอนที่82 จูบด้วยความริเริ่ม นอกจากสามคำนี้แล้ว เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรอีก ไม่นานนัก เขาปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด เจ้าหน้าตำรวจเอ่ยขึ้นหลังจากอึ้งไปชั่วครู่ "เฮ้ ! คุณเป็นใครนะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คุณสามารถเข้าออกได้ตามใจชอบนะ คุณ" "ไอชนัต!" เมื่อพูดยังไม่จบคำ ก็มีเสียงเรียกดังและแหบห้าวมาจากข้างหลัง นายตำรวจชงัดไปขั่วครู่ มองไปยังชายผู้มาเยือนอย่างไม่น่าเชื่อ" ท่านตฤณมาทำไหมมาที่นี้ครับ? “ ถ้าผมไม่มา นายก็คงได้ขับไล่ประธานเตชิตออกไปแล้ว” ผู้กำกับตฤณดูเหมือนจะพูดทีเล่นที่จริง แต่จากน้ำเสียงดูแล้วจะออกตำหนิสะมากกว่า นายตำรวจชนัตเข้าใจในทันทีว่าชายคนนั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดาแน่ๆ“ ผมโทษครับ ผมไม่รู้จริงๆว่าท่านคือผู้จักการเตชิต ผมโทษจริงๆครับ!” เตชิตไม่ได้สนใจแต่อย่างไร เพียงจองมองไปที่ดวิษและปณิตา แววตาที่ถูกมองมานั่นทำให้พวกเขาทั้งสองคนได้สัมพันธของแรงกดดันมหาศาล ปณิตาตกตะลึงไปชั่วขนาด เธอมองไปที่ชายบุคคลที่ไม่ธรรมดาคนนี้ ที่เข้ามาและจองมองนัชชาด้วยสายตาความเป็นกังวลและกอดเธออย่างแน่นหนาเสมือนว่าธอคือของรักที่หายไปและได้คืนมา รวมทั้งความเคารพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีให้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เดี๋ยวก่อนนะ เขาเรียกเขาว่าอะไร? ประธานเตชิต! ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดวิษพูดถึง บุคคลที่มีสถานะเป็นเกียรติอย่างยิ่ง คุณเตชิต? ! ปณิตาตกตะลึงกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก ชายผู้นี้ไม่ได้เป็นชายชรา อย่างที่คิดไว้ แต่กลับยังหนุ่มอยู่เลย ทุกๆสัดส่วนของร่างกายสมส่วนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของเขา ถึงแม้ว่ามันจะเย็นชาและไม่แยแสก็ตาม แต่ก็ยังสามารถทำให้คนที่เจอเขาหวั่นไหวได้ง่ายๆ แต่ผู้ชายแบบนี้ทำไหมถึงได้คบกับนัชชานะ? ไม่รอให้เธอต้องประหลาดใจ เตชิตพูดขึ้น"ประธานดวิษ เราได้พบกันอีกแล้วนะครับ" เปลือกตาของดวิษกระตุ้กไปทีนึง เขาพยายามเก็บความรู้สึกที่วาวุ่นอยู่ในใจ “ใช่ครับ รู้สึกโชคดีจริงๆ” แต่ผิดคาด เตชิตพหัวเราะพร้อมพูดขึ้ร "ถ้าโชคดีมันก็ไม่จำเป็นหรอก ผมเป็นคนที่ไม่ชอบพบคนอื่นในสถานการ์ณแบบนี้" ทันไดก็ถูกตอกหน้ากลับด้วยคำพูด ยิ่งตอนอยู่ต่อหน้านัชชา และ ปณิตา ดวิษไม่สามารถกลืนลมหายใจนี้ได้ "ประธานเตชิตเป็นถึงทนายความ คุณน่าจะถนัดกับเรื่องพวกไม่ไช่หรอครับ" เตชิตคว้ามือนัชชามากุมแน่น และมืออีกข้างซุกในกระเป๋าของเขาไว้ "ผมเป็นคนห่วงคนของผมมาก ผมไม่ต้องการให้ผู้หญิงของผมได้รับผลกระทบแต่อย่างได ยกเว้นเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าผมเจอคุณอีกครั้งในครั้งหน้า ผมคงไม่พูดดีขนาดนี้แล้ว " ดวิษจุกจนไม่สามารถพูดอะไรได้ ทีนาร์พอใจกับการที่ดวิษหน้าเสีย พร้อมกับชูนิ้วกลางให้กับเขา แต่อย่างไรก็ตามผู้กำกับอยู่ข้างพวกเขาแล้ว เรื่องอะไรเธอจะกลัวพวกเขาอีก เมื่อมองไปที่แผ่นหลังพวกเขาสามคนเดินออกจากสถานีตำรวจ ใบหน้าของดวิษนั้นดูไม่ดีพร้อมกับกำมัดแน่นมาก ปณิตาไม่ลังเลที่จะละสายตาของเธอจนกว่าเตชิตจะเดินหายไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อมองกลับไปที่ดวิษเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตลก คิดย้อนกลับก่อนหน้านี้ที่เธอไปหัวเราะเยาะเย้ยนัชชา ช่างน่าขำสะจริงๆ หลังจากเธอหย่าไปไม่นาน เธอก็มีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเข้ามา ซึ้งผู้ชายแบบดวิษไม่อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เมื่อก่อนตอนที่นัชชาอยู่กับดวิษ เธออิจฉามาก ครอบครัวของเธอมีฐานะที่ไม่ดีนัก เธอแค่อยากจะหาคนที่ซื่อสัตย์และสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอ แต่พอเธอเห็นว่า ดวิษขับรถสปอร์ต มีคฤหาสน์หลังใหญ่ เธอหวั่นไหวจนได้ ดังนั้นเธอจึงทรยศมิตรภาพระหว่างเธอกับนัชชา แต่เธอคิดว่าเธอไม่ผิดนะ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไข้วคว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ้งนัชชาเทียบกับเธอไม่ได้เลย? แต่วันนี้เมื่อเธอเห็นเตชิตเธอรู้ว่าเธอคิดผิดแล้ว ถึงแม้ไม่มีดวิษทั้งคน แต่ก็ยังมีผู้ชายที่ดีนั่นกว่าเข้าหานัชชา ทำไม? ทำไมผู้ชายทุกคนถึงชอบเธอนัก เธอมีอะไรดีตรงไหน ฉันเองก็ไม่ได้เลวไปกว่าเธอนิ! ดวงตาของปณิตาจากความอิจฉาริษยากลับกลายเป็นความเกลียดชัง ตอนนี้สมองเธอทั้งหมดมีแต่ใบหน้าเตชิต และ นัชชาก็ไม่คู่ควรที่จะได้เขา มีแต่เพียงเธอเท่านั่นทีสมควรได้รับความโปรดปรานจากผู้ชาย! ................... ในทางกลับกัน หลังจาก นัชชาและเตชิต ออกจากสถานีตำรวจ พวกเขากลับไปที่ ไวโรจน์วิลล่า พวกเขาไม่ได้คุยกันระหว่างทางและบรรยากาศค่อนอึดอัดและหดหู่ ในที่สุดก็เข้ามาในบ้าน ไม่รอนัชชาหายเหนื่อย เตชิตก็กั้นเธอไว้ติดกับแผงประตู มีเพียงแสงไฟเซ็นเซอร์เพียงดวงเดียวเท่านั่น พวกเขาสองคนนิ่งอยู่ได้สักพัก และแล้วแสงบนหัวก็ได้หายไปในไม่ช้า แสงจันทร์ส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เห็นนาฬิกาบนกำแพงชี้เวลาแปดโมงครึ่ง “ ไหนเธอบอกว่าออกไปช็อปปิ้งกับทีนาร์งัย ทำไหมถึงอยู่กับดวิษได้ อือ?” เขาบีบคางของเธอเพิ่มแรงหนักไปหน่อย นัชชากลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดเลยรีบอธิบายว่า "เราเจอกันโดยบังเอิญตอนกินข้าวเย็น แล้วต่อมาทีนาร์อดไม่ได้เลยออกเสียงแทนฉัน และทั้งสองเลยตบตีกัน ฉันกลัวทีนาร์เสียเปรียบก็เลย เข้าไปช่วยอีกแรงนะ " คำสามคำสุดท้ายโดนสายตาของเขาถูกกดขี่อย่างรุนแรงจนเสียงแผวเบา ใบหน้าของเตชิตไม่ได้ดีขึ้นเลยหลังจากเธอได้อธิบายไปหมด สายตาของเขากวาดมองลงมารอยเล็บที่คอเธอ ถึบมันจะไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ดูทำให้บาดตาเช่นกันเขาเลื่อนนิ้วโป้งขยับขึ้นมาแล้วกดตรงจุดนั่นอย่างแรง เธอเจ็บปวดมาก "เจ็บ!" เจชิตไม่คิดจะคลายมือออก "ไม่รู้จักเจ็บจะไม่สามารถจักจำได้ ผมบอกมากี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้เธอติดต่อกับดวิษมากเกินไป ทำไมไม่ฟังบาง" "ฉันบอกว่าฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่นั่นด้วย! เราแค่บังเอิญได้เจอกัน" และเรื่องที่หลังจากนั้นก็อยู่เหนือการควบคุมของเธอ จะให้เธอทำยังงัยได้ละ? นัชชาเริ่มรู้สึกน้อยใจ "คุณก็ได้แต่ว่าฉัน ฉันก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั่นสักหน่อย" "ถ้าเธอไม่อยาก เธอก็ควรจะหลีกเลี่ยงมัน" "ได้! ฉันผิดเอง ฉันสมควรแล้ว พอใจหรือยัง" เตชิตจ้องไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอและไม่ได้พูดอะไร ถูกจ้องด้วยแว่วตาสงสัย ซึ้งทำให้เธอรู้สึกอัดอั้นหน้าอกบาง สายตาของเขาหมายความว่าอะไร? ไม่เชื่อเธอเหรอ เธอก็ไม่รู้ว่าเส้นประสาทส่วนไหนที่ผิดปกติไป เธอยืนด้วยปลายนิ้วเท้าของเธอขึ้นมา ทันใดนั้นก็เอามือไปคล้องคอของเขาผู้นั้นโดยไม่คำนึงถึงอารมณ์ดุร้ายของเขา ดึงคอเขาลงพร้อมกับหลับตาแล้วจูบเขาไปทั่ว เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเตชิตแข็งไปชั่วครู่หนึ่ง แต่เขาก็ตั้งสติแล้วเริ่มเป็นคนลุกบาง ห้องนั่งเล่นที่เงียบสงบ เหลือเพียงแต่เสียงจูบของพวกเขา นัชชาโดนจูบหลายครั้งจนหายใจไม่ทัน ก่อนที่เธอจะหายใจไม่ออก เตชิตก็ได้ปล่อยเธอ เธอหายใจถี่มาก และเขาก็ไม่ต่างกับเธอเช่นกัน การหายใจของเขาเริ่มสับสน เมื่อเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของนัชชา เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบ "กี่ครั้งแล้ว เทคนิคการจูบเธอยังไม่ดีขึ้นเลยนะ" นัชชาเขินจนใจเต้นแรงขึ้น ทำได้เพียงแยกตัวออกจากเขาเพื่อที่จะขึ้นไปข้างบน แต่พอก้าวขาออกไปไท่ทันไร เขาก็คว้ามาจับข้อมือเธอไว้ "คิดไถ่โทษด้วยการจูบแค่นี้หรอ?" โดยปกติทั่วไปทำผิดแล้วตีเนียนแล้วหลบหนีพอพ่นโทษ แต่คราวนี้จะให้เธอแก้ตัวด้วยน้ำขุ่นๆแบบนี้ไม่ได้ มีรอบนี้รอบหน้าก็ต้องเป็นอีก ริมฝีปากของนัชชาบวมอย่างเห็นได้ชัด "ฉันไม่ผิด" "แล้วทำไมเธอถึงจูบผม" เป็นเพียงเพื่อเอาใจของเขาใช่ไหม นัชชาเรียนแบบท่าทางของเขาแล้วกระพริบตา "ฉันแค่ขอบคุณคุณที่มารับฉันที่สถานีตำรวจ" ในความเป็นจริงเขาไม่ทราบเลยเมื่อเธอทำผิดและยืนอยู่ที่นั่น เมื่อเธอเห็นเขามาและดึงเธอเข้าไปกอด เธอซาบซึ้งมากอย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะ ดวิษและปณิตายังอยู่ นัชชาคิดว่าเธอคงรู้สึกว่าเธออาจร้องไห้ เตชิตไม่พูด รอฟังให้เธอพูดต่อไป นัชชาสูดลมหายใจลึกและก้มศีรษะลงเล็กน้อยมองที่กระดุมบนเสื้อของเขา "ไม่มีไครมารับฉันแบบนี้เป็นเวลานานแล้ว เพราะฉะนั้น ขอบคุณนะ" สิ่งเล็กน้อยที่ไม่มีความหมายที่สุด คือสิ่งที่เธอปรารถนาและประทับใจที่สุด ความโกรธของเตชิตถูกสงยบลง แต่ใบหน้าของขาก็ยังเย็นชาเหมือนเดิม "ที่หลังโทรหาอย่าไม่รับสาย เวลาที่ติดต่อหาเธอไม่ได้ ผมเริ่มเป็นห่วง เมื่อเห็นตำแหน่งของเธออยู่ที่สถานีตำรวจ ผมยิ่งเป็นห่วงโดยเฉพาะเวลาเธออยู่กับดวิษ" "คุณเป็นห่วงด้วยเหรอ?"นัชชาถามอย่างไม่รู้ตัว เตชิตเลียริมฝีปากของเขาเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ไม่ ผมไม่พอใจเลยละ"
已经是最新一章了
加载中