ตอนที่ 6 ปักหลัก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 6 ปักหลัก
ตอนที่ 6 ปักหลัก เฉียวอวี่ถงพบว่า เป็นเรื่องดีที่พ่อของลูกอย่างฉินลี่เยี่ยอยู่ที่บ้านคอยเตรียมอาหารให้วันละสามมื้อและทำความสะอาดห้องให้ด้วย เทียบกับที่ถูกเรียกว่าแม่แค่ไม่กี่ครั้งแล้ว ถือว่าไม่ได้มีอะไรเสียหายเลย ฉินลี่เยี่ยจัดการทุกอย่างได้เป็นอย่างดี จนทำให้เฉียวอวี่ถงที่เป็นผู้หญิงจริงๆถึงกับละอายใจ "โป๋เหวินเหรอ เป็นไงบ้าง?" เฉียวอวี่ถงได้รับโทรศัพท์จากตู้โป๋เหวิน ในขณะที่กำลังเดินเบียดเสียดกับผู้คนอยู่ในรถไฟใต้ดิน "จะโทรชวนฉันไปกินข้าวเย็นเหรอ?" ตู้โป๋เหวินกับเฉียวอวี่ถงนั้นค่อนข้างสนิทกัน "เธอเปลี่ยนงานเหรอ?" เพียงแค่ฟังคำไม่กี่คำนั่น ก็สามารถรู้สึกได้ถึงใบหน้าของตู้โป๋เหวินผ่านทางสายโทรศัพท์ว่ามืดแค่ไหน "ทำไมไม่บอกฉัน!" "ฉะ ฉัน...เฮ้อ เรื่องมันเกิดขึ้นกะทันหันไปหน่อบย บอกนายตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่นา แล้วอีกอย่าง ฉันก็ไม่สามารถรบกวนนายได้ทุกเรื่อง แค่นายช่วยฉันหนีฉันก็ซึ้งใจมากแล้ว" เขาดูเหมือนว่าจะโกรธน้อยลงไปบ้าง เฉียวอวี่ถงต้องระวังที่จะไม่ราดน้ำมันลงในกองไฟ ใบหน้าของตู้โป๋เหวินผ่อนคลายลงเล็กน้อย "แล้วตอนนี้เธอทำงานที่ไหน? ฉันเดินทางไปดูงานต่างประเทศมา เลยซื้อของมาฝาก" "ตอนนี้ฉันเกือบจะถึงบ้านแล้ว วันนี้ฉันเข้ากะเช้า" เธอแสร้งทำเป็นผ่อนคลาย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอมีชีวิตที่ดี ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง "เอางี้สิ มานั่งเล่นที่บ้านฉันแป๊บนึง?" หลังจากพูดประโยคนี้ออกไป สมองของเฉียวอวี่ถงก็รีบประมวลผลทันที เธอลืมไปว่ามีคนอีกสองคนอยู่ที่บ้าน ถ้าตู้โป๋เหวินเห็นเข้า เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง "ไม่อย่างนั้น ..." ยังไม่ทันได้หาทางรอด ตู้โป๋เหวินก็ได้วางหูโทรศัพท์ไปแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป ในห้องเช่ามีเพียงแค่เสี่ยวจิ่นคนเดียวเท่านั้น ฉินลี่เยี่ยไปทำงานเป็น "คนทำความสะอาด" เพื่อจะได้ไม่ต้องกิน "ข้าวบด" "เฮ้อ ... " เฉียวอวี่ถงถอนหายใจอย่างแรง ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคาร ทันทีที่ออกจากลิฟต์ก็ได้ยินเสียงของเสี่ยวจิ่นและแน่นอนว่าตู้โป๋เหวินด้วย พวกเขากำลังทะเลาะกัน "ที่นี่เป็นบ้านหม่ามี๊ของผม แล้วก็ต้องเป็นบ้านของผมด้วย!" นั่นเป็นเสียงของเสี่ยวจิ่น ตู้โป๋เหวินเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการขู่ตะคอกของเด็ก เขาก็ได้แต่นวดขมับอย่างหัวเสีย เขาไปดูงานที่ต่างประเทศแค่ไม่กี่วัน เฉียวอวี่ถงก็แล่นไปมีลูกชายอายุสามสี่ขวบซะแล้ว แล้วหัวใจดวงน้อยๆที่แสนบอบบางของเขาจะรับได้อย่างไร "เสี่ยวจิ่น โป๋เหวิน!" เมื่อเฉียวอวี่ถงปรากฏตัว เสี่ยวจิ่นกำลังกระชากกางเกงของตู้โป๋เหวิน พลางพร่ำถามเพียงแค่ว่าตู้โป๋เหวินเป็นใคร? ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฉียวอวี่ถงนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด "หม่ามี๊!" เฉียวอวี่ถงที่ยังไม่ได้ตั้งตัวก็ถูกเสี่ยวจิ่นโผเข้าใส่ จนเซถอยหลังไปหลายก้าว "โป๋เหวิน เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อนน่ะนะ" ไม่ควรป่าวประกาศเรื่องน่าเกลียดในบ้าน ที่นี่มีคนสอดรู้สอดเห็นอยู่เต็มไปหมด การส่งเสียงดังตรงทางเดินแบบนี้จะดึงดูดผู้ชมจำนวนมากได้ในทันที ตู้โป๋เหวินชำเลืองมองเสี่ยวจิ่นที่อยู่ในอ้อมแขนของเฉียวอวี่ถง แล้วก็เลิกแขนเสื้อขึ้นอย่างไม่พอใจ "ถงถง เรื่องของเด็กคนนี้ เป็นยังไงกันแน่?" "โป๋เหวิน นายฟังฉันอธิบายก่อนสิ" เฉียวอวี่ถงอุ้มเสี่ยวจิ่นเข้าไปในห้องนอน "เสี่ยวจิ่น หนูเล่นอยู่ในนี้แป๊บนึงก่อนนะ ฉันกับคุณลุงมีเรื่องต้องคุยกัน" เสี่ยวจิ่นจำต้องปล่อยมือจากแขนเสื้อของเฉียวอวี่ถงอย่างไม่เต็มใจ "เด็กดี เสี่ยวจิ่นเก่งที่สุด" เสี่ยวจิ่นไม่ได้พูดอะไร แต่บนใบหน้าเล็กๆของเขาเต็มไปด้วยความคับข้องใจ ในที่สุดเสี่ยวจิ่นก็ยอมแพ้ "เด็กนั่นมาได้ยังไง?" ตู้โป๋เหวินไม่เชื่อว่าอยู่ดีๆเฉียวอวี่ถงจะมีลูกโตขนาดนี้โดยที่ไม่มีใครรู้เห็น "รับมาเลี้ยง" เธอไม่ได้โกหก "ฉันเจอเขาอยู่ข้างถนน ..." เธอพยายามชักเม่น้ำทั้งห้ามาสาธยาย "ดังนั้นตอนนี้คุณก็เลยอยู่กับเด็กคนนี้ แล้วก็พ่อของเขาด้วยเนี่ยนะ!" ตู้โป๋เหวินผุดลุกขึ้นทันที ไม่สามารถระงับความโกรธเอาไว้ได้อีกต่อไป! "ในหัวเธอมีแต่น้ำเต้าหู้อยู่รึไง? ถ้าคนคนนั้นเป็นคนไม่ดีล่ะ เธอไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยรึไง? ให้คนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในห้องเนี่ยนะ เธอนี่มัน..." ตู้โป๋เหวินไม่สามารถสรรหาถ้อยคำใดๆที่เหมาะสมได้ จึงหยุดรัวคำถามไปเสียอย่างนั้น เฉียวอวี่ถงในที่สุดก็มีโอกาสตอบกลับ “โป๋เหวิน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ พ่อของเด็กคนนี้เขาก็เป็นคนซื่อสัตย์ นอกจากนี้พวกเขาก็ช่วยฉันด้วย...” เห็นได้ชัดว่าคำอธิบายของเธอฟังไม่ขึ้นเลยสักนิดในสายตาของตู้โป๋เหวิน เฉินเฉิงเป็นคนยังไงเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพูด แต่ว่าในความคิดของเขา ฉินลี่เยี่ยเองก็ไม่ใช่คนดี บรรยากาศค่อนข้างอึดอัดใจ เสี่ยวจิ่นตัวน้อยเดินวนไปรอบห้อง ตอนที่เสี่ยวจิ่นโทรไปบอกฉินลี่เยี่ย เขาก็ใกล้จะมาถึงแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าจะซื้อวัตถุดิบสำหรับการทำอาหารในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ๆ แต่หลังจากได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยวจิ่นแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกต่อไป เสี่ยวจิ่นบอกว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะปล้นภรรยาของเขา คนแรกที่เขาคิดคือเฉินเฉิง "ฉันไม่อนุญาตให้เธออยู่กับชายแปลกหน้า!" ตู้โป๋เหวินเค้นประโยคหนึ่งลอดไรฟันออกมา ในขณะที่ทำหน้าตาถมึงทึง เฉียวอวี่ถงหรุบตาลง ไม่กล้าสู้หน้าตู้โป๋เหวิน "ฉันคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว" ปลายเสียงเริ่มแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดว่าไม่มั่นใจ "ฉินลี่เยี่ยก็เป็นคนดี แล้วฉันเองก็ชอบเสี่ยวจิ่นด้วย" ตู้โป๋เหวินแก่กว่าเธอแค่ไม่กี่ปี หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตลง เฉียวอวี่ถงก็สนิทกับเขาแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเป็นมากกว่าเพื่อนของเธอ เธอไม่อาจเพิกเฉยต่อความรู้สึกของเขาได้ "เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้! ถ้าเธอไม่สนใจตัวเอง แล้วใครหน้าไหนในโลกจะมาช่วยเธอ!" "ฉันไม่ได้....." พูดยังไม่ทันจบ ประตูก็ถูกเคาะ ฉินลี่เยี่ยปรากฏตัวขึ้นที่ประตู เขายังคงสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบอยู่เหมือนเดิม ต้องบอกว่า แม้เขาจะแต่งกายด้วยชุดที่เรียบง่ายแบบนี้ ฉินลี่เยี่ยก็ไม่ได้ดูด้อยกว่าใคร สีหน้าที่เรียบเฉยไร้อารมณ์ ตู้โป๋เหวินถลึงตาจ้องเขาค้างอยู่หลายนาที ฉินลี่เยี่ยกลับมีท่าทีที่ไม่แยแส ดูยังไงก็ไม่เห็นร่องรอยของความหวาดกลัวเลยสักนิด "สวัสดีคุณชายฉิน ผมตู้โป๋เหวิน" เมื่อสักครู่ตอนที่เฉียวอวี่ถงกำลังบรรยายสถานการณ์ ได้พูดถึงชื่อของฉินลี่เยี่ยออกมา "สวัสดี!" จากข้อมูลโดยละเอียดของเฉียวอวี่ถงในมือฉินลี่เยี่ย ทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เช่นกัน “คุณชายฉิน ผมจะไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป คุณจะไปอยู่กับใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ถงถง ข้อตกลงใดๆระหว่างพวกคุณสองคนถือเป็นโมฆะ ถ้าคุณมีความจำเป็นใดๆ ผมจะพยายามให้ความช่วยเหลือคุณเอง” ดวงตาของตู้โป๋เหวินดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ฉินลี่เยี่ยยังไม่ทันได้พูดอะไร เจ้าลูกชิ้นตัวน้อยก็รีบวิ่งออกมาจากห้องนอน "ป่าปี๊! นี่ไงเจ้าคนชั่ว เขาจะมาแย่งหม่ามี๊ไป!" เฉียวอวี่ถงเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี นิ้วน้อยๆชี้ไปที่ตู้โป๋เหวินอย่างโกรธแค้น "เด็กน้อย เธอไม่ใช่แม่ของหนู ดังนั้นพวกเธอจึงไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้" เป็นเรื่องยากที่ตู้โป๋เหวินจะอดทนอธิบายเรื่องพวกนี้ให้เด็กฟัง "ดี!" เสี่ยวจิ่นทำหน้าตาบูดบึ้งใส่ตู้โป๋เหวิน "ป่าปี๊ รีบไปพาหม่ามี๊มาเร็ว!" ฉินลี่เยี่ยยังคงนิ่งเงียบ เฉียวอวี่ถงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไปอีกล่ะเนี่ย? ขนคิ้วจะไหม้อยู่แล้วยังจะทำหน้าตายอยู่อีก เห็นทีว่าจะพึ่งพาให้ผู้ชายคนนี้มาแก้ปัญหาคงจะไม่ได้การเสียแล้ว "เสี่ยวจิ่น เด็กดีต้องสุภาพนะครับ แล้วคุณลุงเขาก็ไม่ใช่คนเลว เขาเป็นเพื่อนที่ดีของแม่" เธอพูดอธิบายอย่างอดทนและเอาใจใส่ ด้วยหวังว่าเด็กน้อยจะไม่เข้าใจสิ่งนี้ผิดๆ "คุณลุงไม่ได้จะมาแย่งแม่ไป แม่เป็นแม่ของเสี่ยวจิ่น ไม่มีใครสามารถแย่งไปได้" "หม่ามี๊ก็คือภรรยาของป่าปี๊ คุณลุงคนนี้จะมาพรากภรรยาของป่าปี๊!"คำพูดของเสี่ยวจิ่นทำให้เฉียวอวี่ถงตกใจ
已经是最新一章了
加载中