ตอนที่ 8 มาเยือนถึงหน้าประตู   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 8 มาเยือนถึงหน้าประตู
ตอนที่ 8 มาเยือนถึงหน้าประตู เสี่ยวจิ่นพึงพอใจกับมาดโหดของตน หัวใจของเฉียวอวี่ถงกระตุก พยายามกอบกู้สถานการณ์อย่างสุดความสามารถ "เสี่ยวจิ่น เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็น..." เพิ่งพูดไปได้แค่ครึ่งประโยค เฉียวอวี่ถงก็พูดไม่ออกเสียแล้ว เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายเรื่องแบบนี้ให้เด็กๆฟังอย่างไรดี "หม่ามี๊ ผมเข้าใจแล้วว่าผมไม่ควรกัดคนอื่น" เสี่ยวจิ่นวางตะเกียบลงก่อนจะนั่งหลังตรงวางมือเล็กๆ เอาไว้บนขาของเธอ เขาไม่อยากให้แม่มองเขาไม่ดี "แต่ว่าหม่ามี๊ ผมไม่อยากให้หม่ามี๊ไปกับผู้ชายคนนั้น!" เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ เสี่ยวจิ่นก็ไม่ลังเลที่จะทำแบบนั้น "ผมไม่อยากมีป่าปี๊คนใหม่" เขาก้มหน้าพลางเบะปากอย่างรู้สึกสำนึกผิด แต่ใบหน้าของฉินลี่เยี่ยกลับยิ่งมืดลง ซึ่งเฉียวอวี่ถงไม่ทันได้สังเกตเห็น "เสี่ยวจิ่น แม่ไม่ไปหรอก" "ป่าปี๊ ป่าปี๊ก็แต่งงานกับหม่ามี๊ซะสิ" เฉียวอวี่ถงชะงักเมื่อความต้องการของเด็กคนนี้มากเกินไป พวกเขาแค่สวมบทเป็นพ่อแม่ต่อหน้าเสี่ยวจิ่นเท่านั้น จะให้ไปสวมชุดแดงแต่งงานกันคงเป็นไปไม่ได้ "เสี่ยวจิ่น!" ฉินลี่เยี่ยเอ่ยปากขึ้นมาทำลายภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเฉียวอวี่ถง แต่นั่นก็ทำให้เธอกังวลขึ้นมาอีกครั้ง เด็กยังเล็กอยู่ เขาควรจะใช้วิธีเกลี้ยกล่อมไม่ใช่บังคับ เฉียวอวี่ถงยังไม่ทันคิดหาวิธีรับมือ สงครามก็พังทลายลง "พวกเราจะไม่แต่งงานกัน! อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก!" เป็นเพราะเมื่อคืนนี้เฉียวอวี่ถงปฏิเสธเขาใช่ไหม? "ว้ากกก!" เสียงกรีดร้องของเสี่ยวจิ่นดังก้องอยู่ในค่ำคืนที่มืดมิด เฉียวอวี่ถงรู้สึกตื่นตระหนก "หยุดนะ อย่าร้องไห้สิ นี่......" เสี่ยวจิ่นยังคงแหกปากร้องไห้ต่อไป "ผมต้องการหม่ามี๊ ผมต้องการหม่ามี๊!" เสียงนี้แทบจะทำให้ศีรษะของเฉียวอวี่ถงระเบิดเป็นสองเสี่ยง ทั้งยังทำให้ความโกรธของฉินลี่เยี่ยพุ่งทะยานถึงขีดสุด "ตั้งแต่นี้ต่อไป ก็อยู่กับเธอไปแล้วกัน!" แล้วฉินลี่เยี่ยก็เดินกระแทกส้นเท้าออกนอกประตูไป ทิ้งไว้เพียงเสียงกระแทกประตูปิดดังโครม เฉียวอวี่ถงถึงกับไปไม่เป็นหลังจากที่เขาบอกให้เธอดูแลเสี่ยวจิ่นเพียงลำพัง แต่เธอยังต้องไปทำงาน เสี่ยวจิ่นเองก็ยังเล็กมาก ถ้าทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวแล้วเกิดอะไรขึ้นเธอจะทำยังไง? "เด็กดี ไม่ร้องนะไม่ร้อง แม่อยู่นี่แล้ว" เฉียวอวี่ถงไม่เคยปลอบเด็ก เธอจึงหัดทำอย่างเงอะๆงะๆ …… ฉินลี่เยี่ยไม่ได้กลับมาจริงๆ วันหนึ่งก็แล้ว สองวันก็แล้ว วันที่สามก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ เฉียวอวี่ถงกำลังคิดจะลาออกจากงานเพื่อไปหางานใหม่เป็นคนเชียร์ไวน์ในบาร์แห่งหนึ่ง แบบนี้เธอก็จะสามารถดูแลเสี่ยวจิ่นได้ในตอนกลางวัน และในตอนกลางคืนที่เสี่ยวจิ่นนอน เธอก็ออกไปทำงาน ถึงแม่ว่าจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่เฉียวอวี่ถงก็สัมผัสได้ถึงความยากลำบากของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วจริงๆ ลำพังค่าอาหารและค่าใช้จ่ายต่างๆของเด็กแล้ว แม้ว่าจะแบ่งทุกอย่างกันคนละครึ่งแล้วก็ยังไม่พอใช้ ถึงเสี่ยวจิ่นจะชอบกินบะหมี่กึ่งสะเร็จรูปแต่ถ้าจะให้กินทุกวันก็คงจะไม่ดีเหมือนกัน เฉียวอวี่ถงพยายามหัดทำอาหารอย่างอื่นแล้ว แต่โอกาสสำเร็จก็พอๆกับซื้อล็อตเตอรี่ ดังนั้นวัตถุดิบที่ซื้อมาก็ต้องเสียไปเปล่าๆ "หม่ามี๊ วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ?" "ใช่แล้ว หลังจากวันนี้ แม่อยู่ที่บ้านกับเสี่ยวจิ่นตอนกลางวัน แล้วค่อยไปทำงานในตอนกลางคืน" เสี่ยวจิ่นมองไปที่เฉียวอวี่ถง "แต่ว่าถ้าทำแบบนี้หม่ามี๊ก็จะเหนื่อยเกินไป" ใช่ มันเหนื่อยมาก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะต้องฮึดสู้เท่านั้น หลายต่อหลายครั้งที่เฉียวอวี่ถงนึกถึงฉินลี่เยี่ยอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้ช่างไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลย หลังจากที่ทิ้งลูกเอาไว้ให้เธอแล้วก็ไม่เห็นเขาอีกเลย ว่าไปแล้วพวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมกัน เพราะจนถึงตอนนี้เฉียวอวี่ถงก็ยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของฉินลี่เยี่ยเลยด้วยซ้ำ "เสี่ยวจิ่น ไม่เป็นไรหรอกนะ แม่ไม่เหนื่อยเลย" เธอพูดโกหกต่อหน้าเด็กอย่างหน้าไม่อาย หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปแล้ว ก็ยังคงไม่มีข่าวคราวจากฉินลี่เยี่ย เฉียวอวี่ถงรู้สึกกระวนกระวาย "เสี่ยวจิ่นรู้ไหมว่าคุณพ่อทำงานอยู่ที่ไหน?" …… ที่ประตูทางเข้าของอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทหยวนหยางกรุ๊ป มีคนตัวเล็กคนหนึ่งและคนตัวใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ "หม่ามี๊า เรามาตามหาเขาทำไม เขาไม่ต้องการเราอีกต่อไปแล้ว?" เสี่ยวจิ่นยังโกรธอยู่และเขาไม่อยากเป็นคนแพ้ "หม่ามี๊ก็ไม่ต้องการผมเหมือนกันเหรอ?" "เอ่อ พูดแบบนั้นได้ยังไง? เขาเป็นพ่อของหนู ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการหนู หนูก็ไม่ควรจะโกรธเขา" เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสองพ่อลูกจอมปากแข็ง เฉียวอวี่ถงก็ทำตัวไม่ถูก เสี่ยวจิ่นไม่พูดอะไรอีก "แต่พ่อของหนูเป็นเพียงพนักงานทำความสะอาด แล้วฝ่ายต้อนรับจะรู้จักเขาเหรอ?" เสี่ยวจิ่นเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก พ่อของเขาเป็นประธานใหญ่ที่ร่ำรวย ทำไมเฉียวอวี่ถงถึงดูไม่ออกกันนะ? เป็นไปได้ไหมว่าพ่อของเขาแสดงเป็นคนทำความสะอาดได้สมบทบาทเกินไป "ก็ต้องลองเข้าไปถามดู" เสี่ยวจิ่นพูดเร่งเฉียวอวี่ถง บริษัทหยวนหยางกรุ๊ปตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเป็นเพียงบริษัทเดียวที่มีสิทธิพิเศษดังกล่าว ความพยายามเพื่อให้ได้เข้าร่วมงานกับบริษัทหยวนหยางกรุ๊ปถือเป็นความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวหลายคน เฉียวอวี่ถงเองก็เช่นกัน แม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดก็ยังได้รับค่าจ้างแพงว่าบริษัทอื่นๆเยอะ ณ ชั้น 39 ซึ่งเป็นห้องทำงานของประธานบริษัท มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องหน้าจอมอนิเตอร์ของกล้องวงจรปิดอยู่อย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงคนเคาะประตูด้านนอก "ดูอะไรอยู่เหรอ?" "ครูอนุบาลไม่ได้สอนให้นายเคาะประตูก่อนจะเข้าห้องท่านประธานหรือไง?" ใบหน้าของฉินลี่เยี่ยสงบลง "ฉันไม่รังเกียจที่จะจ่ายค่าเล่าเรียน เพื่อให้นายกลับมาเรียนไปเรียนมาใหม่!" กู้เจ๋ออวี่หน้าสลด "ท่านประธานฉินที่เคารพครับ ผมเคาะจนมือแดงหมดแล้วแต่คุณไม่ได้ยิน!" "มีอะไร?" "ลูกชายของนายมาที่นี่!" กู้เจ๋ออวี่เงยหน้าขึ้นก็พบว่าเขามารายงานช้าไปเสียแล้ว ดูจากหน้าจอมอนิเตอร์ของกล้องวงจรปิดแล้ว ฉินลี่เยี่ยก็คงจะรู้ดีอยู่แล้ว "ตอนนี้นายก็เห็นแล้วนี่ ว่าฉันรู้แล้ว" "ช่วยเตรียมรถเข็นทำความสะอาดให้ฉันหน่อย" "ห๊ะ?" กู้เจ๋ออวี่งุนงง แต่เมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองมาของฉินลี่เยี่ยแล้วเขาก็ต้องทำตาม พนักงานหญิงที่แผนกต้อนรับส่วนหน้าปฏิบัติกับเฉียวอวี่ถงและเสี่ยวจิ่นดีมาก ถึงแม้ว่าจะทำไปตามคำสั่งของฉินลี่เยี่ย แต่เฉียวอวี่ถงก็ประทับใจ ที่บริษัทหยวนหยางกรุ๊ปมีวัฒนธรรมองค์ที่ดีเยี่ยม ไม่ใช่แค่เพียงคำโฆษณาอวดอ้างที่เคยได้ยินมาเท่านั้น "คุณเฉียวกรุณารอสักครู่นะคะ ดิฉันแจ้งคุณฉินให้แล้ว เขากำลังจะมาที่นี่เร็วๆนี้ค่ะ" แผนกต้อนรับส่วนหน้าเสริฟกาแฟให้เฉียวอวี่ถงและเสิร์ฟน้ำผลไม้ให้เสี่ยวจิ่น ฉินลี่เยี่ยปรากฏตัวขึ้น แต่สภาพของเขาตอนนี้ช่างแตกต่างจากตอนที่อยู่บนชั้น 39 เมื่อครู่มากเหลือเกิน กู้เจ๋ออวี่เห็นเขาในสภาพแบบนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เขาเดินตามหลังมาอย่างอยากรู้อยากเห็น "มาหาผมเหรอ?" เฉียวอวี่ถงอยากจะตบฉินลี่เยี่ยให้หน้าหงายกับคำพูดไร้สมองนั่น ทำอย่างกับว่าใครไปติดหนี้เขาเอาไว้แล้วอย่างนั้นล่ะ! "มาหาผีมั้ง!" เฉียวอวี่ถงตอบโต้พร้อมกับถลึงตากว้าง "คุณเล่นไม่กลับบ้านเลยแบบนี้ เสี่ยวจิ่นจะคิดถึงคุณขนาดไหน!" เสี่ยวจิ่นทำตาโตสีหน้าเหรอหรา! "อืม" "คุณจะทำแบบนี้ต่อไปอีกนานไหม?" "ไม่แล้ว" เสี่ยวจิ่นก้มหน้าก้มตาดื่มน้ำผลไม้ ไม่ได้มองฉินลี่เยี่ยเลยแม้แต่นิด "ผมขอคุยกับเสี่ยวจิ่นหน่อย" เฉียวอวี่ถงเดินออกไป ปล่อยให้พวกเขาคุยกันอย่างใช้สติ กู้เจ๋ออวี่สบโอกาสเมื่อเห็นเฉียวอวี่ถงเดินออกมา แน่นอนว่าเขาไม่กล้าใช้ลูกไม้เช่นนี้ต่อหน้าฉินลี่เยี่ย "ขอโทษนะครับ ขอโทษครับ" เฉียวอวี่ถงหันหน้ากลับไปมอง "คุณครับ คุณทำงานอยู่ที่บริษัทหยวนหยางกรุ๊ปรึเปล่าครับ?" การสร้างภาพเป็นจุดเด่นของเขา
已经是最新一章了
加载中