ตอนที่ 11 ฐานะที่เปลี่ยนไป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 11 ฐานะที่เปลี่ยนไป
ตอนที่ 11 ฐานะที่เปลี่ยนไป ลี่โม่อวี่ก้าวย่างสุขุมมุ่งไปยังฉินอีหลิน สาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันกระซิบพูดคุย ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน ล้วนคาดเดาไปต่างๆนาๆว่าเขาคงยังไม่มีครอบครัว พวกหล่อนพร้อมเป็นฝ่ายเข้าหาเชื่อมสัมพันธ์กับผู้ชายที่เพียบพร้อมขนาดนี้อย่างแน่นอน จริงๆถึงจะมีครอบครัวแล้ว พวกหล่อนก็ไม่สนอยู่ดี ฉินอีหลินได้ยินเสียงจอแจวุ่นวายจึงหันหลังกลับไปมอง เธอนิ่งงันทันทีที่มองเห็นเขา ลี่โม่อวี่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้รู้สึกตัว สายตาที่อ่อนโยนถูกส่งไปที่ภรรยาที่รักของเขา กุมมือเธอแน่นอย่างสนิทสนม ไล่มือเบาลงบนริมฝีปากที่เม้มแน่น “ทำไมหนีมาคนเดียวล่ะ เราตกลงจะมาด้วยกันไม่ใช่หรอ” ลี่โม่อวี่ไม่ได้สนใจเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่ที่ให้ความสนใจตนเอง ยื่นมือปัดปอยผมทัดหูให้เธอ สายตาของเขามองแค่ฉินอีหลินราวกับว่าเธอคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขา “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมมีธุระด่วนทำให้มาสาย หลันซู ผมขออวยพรให้คุณทั้งสองครองรักกันไปนานๆนะครับ” ลี่โม่อวี่โอบเอวฉินอีหลินอย่างเป็นธรรมชาติ กระชับดึงเธอเข้าสู้อ้อมอก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหันไปกล่าวขอโทษหญิงสาวตรงหน้าพร้อมทั้งอวยพรเธอ เมื่อฉินหลันซูรู้ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้คือสามีของพี่สาว เธอได้แต่หักห้ามและตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ที่เผลอใจหลงใหลผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ลดราคาตัวเองเสียจริง เหลือบสายตามองใบหน้าเสียดายของหญิงสูงศักดิ์เหล่านั้น มุมปากฉินหลันซูยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “พี่เขยมาร่วมงานแต่งของฉันได้ ฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่พี่เขยทำแบบนี้จะไม่เป็นไรจริงหรอ” ใบหน้ากังวลของฉินหลันซูมองไปยังชายที่น่าหลงใหลนั้น “ยังไงคืนนี้พี่ก็จะต้องทำงานหนัก หากไม่ได้พักผ่อน ตอนกลางคืนจะทำงานได้หรอ อย่าเป็นเพราะต้องมาเหนื่อยเพราะงานแต่งเล็กๆของฉันเลย รบกวนเวลา “งาน” พี่จริงๆ” พูดจบฉินหลันซูตั้งใจสังเกตสีหน้าของชายตรงหน้าเป็นพิเศษ ใบหน้าที่นิ่งสนิทของชายหนุ่มไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น แต่ผู้คนรอบข้าง ที่ล้วนคิดว่าตนเองนั้นเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมมาดีกลับปิดปากอุทานคิดไปต่างๆนาๆ ลี่โม่อวี่เป็นคนหล่อเหลาน่าหลงใหล น่าเกรงขาม เดิมทีจ้าวหย่าลี่เคยคิดว่า กลับไปจะขอให้พ่อช่วยเพื่อให้ได้เข้าใกล้กับคุณชายผู้น่าหลงใหลคนนี้ ใครจะคิดว่าแท้จริงแล้วจะเป็นสามีที่มีแต่เปลือกของฉินอีหลิน ฉินอีหลินได้ยินผู้คนมากมายกำลังซุบซิบนินทาคนที่โอบกอดตนเองอยู่ เพราะตัวเธอเองเติบโตมากับสังคมแบบนี้จึงรู้ดีที่สุดว่าคนพวกนี้ปากร้ายมากแค่ไหน เธอไม่อยากให้ลี่โม่อวี่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้กับตนเอง ลี่โม่อวี่หรี่ตา สายตาเย็นชาพินิจพิจารณาฉินหลันซู ดวงตาคู่นั้นของหญิงที่ยืนอยู่ในชุดแต่งงานคนนี้เต็มไปด้วยแผนการร้ายกาจและลำพองใจ ปากเธอพร่ำปลิ้นปล้อน เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตายโสโอหังราวกับว่าได้เห็นเขาหนีออกไปจากที่นี่ด้วยความอับอาย ฉินอีหลินได้ยินคนรอบข้างซุบซิบนินทาใบหน้ายิ่งซีดเผือด แต่สาเหตุไม่ใช่เพราะโดนนินทา เพียงแต่คิดว่าลี่โม่อวี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ควรต้องมาแบกรับความกดดันจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนเหล่านี้ จับมือเขาไว้แน่น ฉินอีหลินเม้มปากแน่นไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรดี ที่แท้งานแต่งครั้งนี้ก็เป็นเหมือนงานเลี้ยงที่วางแผนสังหารแขก ในวันที่ฉินหลันซูเชิญเธอ เธอก็รับรู้ได้ทันที ฉินหลันซูให้เธอพาลี่โม่อวี่มาร่วมงานด้วย แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะตระกูลฉินยอมรับลูกเขยคนนี้แน่ ทั้งหมดเป็นเพราะน้องสาวคนนี้ของเธอต้องการทำให้เธออับอายขายขี้หน้า เรื่องพวกนี้เธอรู้อยู่แล้ว หลังจากคืนนั้นที่ต้องเสียตัว เธอจึงเข้าใจแน่ชัดว่า ความโกรธแค้นที่ฉินหลันซูมีต่อเธอ มันได้ตัดขาดความสัมพันธ์พี่น้องไปตั้งนานแล้ว ฉินอีหลินไม่มีทางฉีกหน้าเธอ ไม่ว่าฉินหลันซูจะคิดยังไง แต่ฉินอีหลินก็ยังคงเป็นพี่สาว แม้น้องสาวเธอจะไม่ได้คำนึงถึงความสัมพันธ์พี่น้องนี้ ฉินอีหลินก็ยังคงคำนึงถึงมันอยู่ ถึงอย่างไรฉินหลันซูก็พูดถูก เป็นตัวเธอเองที่แย่งความรักจากพ่อไป แต่ฉินหลันซูคงลืมไปว่าเธอก็เป็นคนแย่งความรักจากแม่ไปจากฉินอีหลินเช่นกัน “ขอโทษ” ฉินอีหลินหมดปัญญาตำหนิติเตียนน้องสาวตนเอง ทำได้เพียงดึงแขนเสื้อของลี่โม่อวี่กล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ทำให้คุณต้องมาลำบากไปด้วย” ลี่โม่อวี่มองฉินรั่ว อีมุมปากค่อยๆยกยิ้ม กำลังจะเอ่ยอะไร ทว่ามองเห็นเซียวน่ายกำลังเดินเข้ามาจึงกลืนคำพูดนั้นลงไป ใบหน้านิ่งสงบจ้องมองไปยังเซียวน่าย ด้านหลังของเซียวน่ายตามมาด้วยชายถือแก้วเหล้าสามคน อายุราวๆสี่สิบ ด้านซ้ายสุดคือกรรมการบริหารของบริษัทเซิ่งวี่ ตรงกลางคือผู้อำนวยการของหวาหางจิวเวลมอลล์ ฝั่งขวาสุดคือประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัทเครือข่ายที่กำลังเติบโตแตกยอดเป็นลำดับที่เจ็ด เวลานี้ได้เห็นชายสามขั้วอำนาจยักษ์ใหญ่พร้อมกันถือแก้วเหล้ามุ่งตรงมาทางนี้อย่างนอบน้อม ในห้องโถงใหญ่ หลังจากการปรากฏตัวของเซียวน่าย บรรดาหญิงสาวที่เคยชื่นชมลี่โม่อวี่ ทั้งที่ยังสับสนว่าจะชวนคุยหรือปฏิเสธล้วนมุ่งเป้าไปที่เซียวน่ายแทน “เฮ้ เป็นเซียวน่ายจริงๆด้วย หล่อกว่าในหนังสือพิมพ์เยอะเลย” “หล่อจริงๆ แต่ก็เทียบกับพ่อหนุ่มกลางคืนเมื่อสักครู่ไม่ติดเลยนะ” “นี่ยังกล้าเทียบอีกหรอ เขาเป็นคนกลางคืนที่ มีดีแค่หน้าตาแค่นั้น เซียวน่ายคนนี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนหนุ่มที่มีอนาคตมากแค่ไหน ใครที่มีความสามารถมากกว่ากันยังต้องเปรียบอีกหรอ ไม่รู้ว่าเขาแต่งงานแล้วหรือยังนะ” ขณะที่เซียวน่ายกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เขาได้ยินหัวข้อซุบซิบเกี่ยวกับหนุ่มไซด์ไลน์ พอเดินมาถึงจึงเอ่ยถามอย่างงุนงง “หนุ่มเลี้ยงวัวอะไรกัน” เซียวน่ายเพียงแค่ถามออกไปเท่านั้นไม่ได้หวังว่าลี่โม่อวี่จะตอบคำถามของเขา แน่นอนว่าเขารู้ว่าลี่โม่อวี่ไม่มีทางตอบคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้แน่ๆ เขาหันกลับมาหาทั้งสามคนข้างหลังพร้อมแนะนำ “ผู้จัดการใหญ่ทั้งสามท่านครับ นี่คือประธานคณะกรรมการบริหารH&Jของเรา ลี่โม่อวี่ ประธานลี่ครับ” “ประธานลี่ ผู้บริหารทั้งสามท่านนี้อยากจะคุยกับเราสักนิด เกี่ยวกับความร่วมมือในโครงการดาวเคราะห์ที่จะดำเนินการที่แผ่นดินใหญ่ครับ” หากเป็นเวลาปกติคุยส่วนตัวเซียวน่ายกับเห้อห้าวจะเรียกลี่โม่อวี่ว่าพี่ใหญ่ แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เป็นทางการพวกเขาจะเรียกว่าประธานลี่ ยังไงเมื่ออยู่ข้างนอกพวกเขาก็ต้องช่วยสร้างความน่าเกรงขามให้กับพี่ใหญ่ของพวกเขา บรรดาบุคคลที่หัวเราะเยาะเย้ยและดูถูกลี่โม่อวี่เมื่อสักครู่ เมื่อได้ฟังคำพูดของเซียวน่าย ชั่วพริบตารอยยิ้มนั้นได้แข็งทื่ออยู่ตรงนั้นทันที ประธานคณะกรรมการH&Jอินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป ประธานเจ้าหน้าที่บริการของ H&Jกรุ๊ปบอกเองขนาดนี้ใครจะกล้าสงสัย ฐานะของลี่โม่อวี่ไม่เพียงแต่ทำให้กลุ่มคนที่ติฉินนินทาเขาได้ตกใจ ยังมีอีกคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตอนนี้ด้วย พวกเขาล้วนทำอะไรไม่ถูก เมื่อสักครู่ยังดูถูกว่าเขาเป็นหนุ่มเลี้ยงวัวอยู่เลย อยู่ๆก็กลายเป็นประธานกรรมการบริหารH&Jกรุ๊ปไปได้ หวังเพียงว่าลี่โม่อวี่จะไม่ใส่ใจกับคำพูดของพวกเขาเมื่อสักครู่ อย่าเป็นเพราะการกระทำที่ไม่เหมาะสมของตนเองต้องทำให้ฐานะการเงินของครอบครัวต้องล่มไปด้วยเลย พ่อแม่ของพวกเขาคงได้จัดการพวกเขาเป็นแน่
已经是最新一章了
加载中