บทที่6 ฝีมือ
บทที่6 ฝีมือ
พี่นถิงจัดการเรื่องพนันเสร็จแล้วก็รีบกลับเข้าร้านตัวเองไป ตอนนี้การแข่งขันก็ใกล้จบแล้ว
“เพี้ยง”เสียงระฆังดังขึ้น กลุ่มแรกก็ทำอาหารเสร็จ ผู้ช่วยพ่อครัวต่างเอาอาหารขึ้นมาวางบนหน้าโต๊ะ พี่นถิงเดินไปดูตรวจสอบ จากนั้นก็ชิมรสาติอาหาร นางพยักหน้าอย่างพอใจกับทุกอย่างที่ชิม แต่ไม่พูดอะไรเลย ทำเอาคนไม่รู้ว่านางจะทำอะไร
และผู้เข้าแข่งที่ได้ยินว่ามีการเลือกผู้ชนะไว้แล้ว ทั้งหกคนก็ออกจากการแข่งขัน
พี่นถิงก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนนี้นางกำลังคิดว่า พวกคนที่ยอมแพ้ก็ไม่ต้องไปเสียดายอะไร นางยังต้องขอบคุณที่ช่วยลดเวลาในการเลือก!
เทียบกับกลุ่มที่สองและหนึ่งแล้ว สิ่งที่ต่างกันคือกลุ่มที่สองน่าจะมาจากร้านอาหารเล็กๆ ข้อนี้สามารถดูได้จากการแต่งตัว
เร็วมาก กลุ่มที่สองก็ทำอาหารเสร็จ พี่นถิงก็ไปชิมเหมือนเดิม
คนที่อยู่ในการแข่งขันก็รอนางประกาศผล เพราะการแข่งขันนี้ทั้งหมดนางเป็นกรรมการ นางบอกว่าใครชนะก็คือคนนั้นชนะ!
แน่นอน ตัดสินจากความชอบตัวเองก็มีความไม่ยุติธรรม แต่ไม่มีคนบังคับให้เจ้ามาแข่งขัน ถ้าเลือกแล้ว ก็ต้องเคารพกฏเกณฑ์!
ในขณะที่ทุกคนต่างมองนาง พี่นถิงก็เข้าไปในห้องแข่งขันหนึ่ง ในขณะที่ทุกคนต่างสงสัย ก็เอาวัตถุดิบที่ตัวเองจะใช้ออกมา
เอาเลมอนหั่นเป็นแผ่นบางๆแช่น้ำ จากนั้นปอกเปลือกมันฝรั่งสามลูก นำมันฝรั่งวางไว้ที่เขียง สูดหายใจ จากนั้นก็หั่นอย่างรวดเร็วอย่างมืออาชีพ“ฉับๆๆๆ”มันฝรั่งที่สับแต่ละเส้นมีขนาด0.1มิลลิเมตร มันฝรั่งสามลูกสับเสร็จเรียบร้อย นำแช่ลงไปในน้ำเลมอน
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นคนที่มาดูหรือพ่อครัวต่างก็มาดูว่านางจะทำอะไร ทุกคนต่างมองตาค้าง นางเป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็ก แต่ฝีมือกันใช้มีดนั้น เยี่ยมยอดมาก!
ท่านอ๋องซวยอยู่ชั้นสองก็ต้องตกตะลึงกับฝีมือการใช้มีดของนาง ยิ่งสงสัยในตัวนางมากขึ้นไปอีก
ตอนนี้พี่นถิงก็ไม่ได้พัก นางเตรียมอาหารจานต่อไปมีวัตถุดิบหลักคือเต้าหู้ ได้ตัดในแนวนอนแนวตั้งและตัดด้วยมีดอันแหลมคม ฝีมือการใช้มีดของนางเป็นวิธีการตัดที่น่าทึ่งมาก เต้าหู้ชิ้นใหญ่ถูกตัดเป็นขนาดเล็กยาว 1 เซนติเมตรและสูง 0.5 เซนติเมตร
ต่อมาก็เตรียมส่วนผสมหลักใส่ไว้ในจานใหญ่ด้วยกันเตรียมใช้ ทุกอย่างเตรียมเสร็จหมดแล้วก็เริ่มผัดได้“ฮูฮู”ไฟร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ “ตังตัง”เสียงตะหลิ่วโดนกะทะ ต่อมาก็มีกลิ่นอาหารลอยออกมา
นางไม่ได้ทำอาหารตามที่พ่อครัวพวกนั้นมาแข่งกันทำ แต่ทำอาหารง่ายๆ ผัดมันฝรั่ง เต้าหู้ตุ๋น
พอพี่นถิงเอาจานที่ตัวเองทำทั้งสองมาวางไว้หน้าโต๊ะตัวเอง ผู้คนก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
พี่นถิงให้หลี่หย่งจู้เอาตะเกียบสิบสองอันมา จากนั้นก็เอาตะเกียบแบ่งให้ผู้เข้าแข่งขัน ให้พวกเขามาลองชิมสองจานนี้ดู
แม้ไม่เข้าใจพี่นถิงจะทำอะไร แต่พวกเขาก็หยิบตะเกียบมาและลองชิมดู จากนั้น พ่อครัวทั้งหลายต่างก็ตาสว่างลุกวาวขึ้นมา
ผัดมันฝรั่ง หั่นได้เท่ากันทุกเส้นและละเอียดมาก สีก็ดูสุกสนใส โดยเฉพาะพอผ่านการแช่น้ำเลมอนมาแล้ว มันฝรั่งก็บางกรอบ รูปกลิ่นรสมีการแสดงออกมาทั้งหมดเลย!
เต้าหู้ตุ๋นหั่นเป็นชิ้นดี มีสีแดงสม่ำเสมอ ไม่มีชิ้นไหนแตกเลย กินเข้าไปรสชาติดีมาก เค็มก่อนแล้วไปหวาน!
พอทุกคนกินเสร็จ พี่นถิงก็พูดว่า: “ทุกคนตอนนี้เป็นกรรมการของข้า”พอพูดจบ พ่อครัวสิบสองคนก็เข้าใจ นี่จะให้พวกเขามาเทียบฝีมือการทำอาหารกันเหรอ ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิกลั่ก สีหน้าก็พูดทุกอย่างแล้ว ทุกคนต่างรู้ตัวว่าฝีมือเทียบกับนางไม่ได้!
พี่นถิงก็ไม่รอช้า พูดต่อว่า“ถ้าเป็นเช่นนี้ การแข่งขันทำอาหารครั้งนี้ ถ้าทุกคนชนะได้ก็คือผู้ชนะของวันนี้!ทุกคนก็เป็นผู้เข้าวงการก่อน ข้าจะยอมให้เจ้าค่ะ!”
พอพูดจบ ทุกคนต่างเริ่มทำอาหาร!
“อะไรนะ?สิบกว่าคนนี้ต่างแพ้ให้กับเด็กผู้หญิงงั้นเหรอ!”
“พ่อครัวซุนเคยเข้าพระราชวังไปทำอาหารในครัวราชวังเลยนะ!”
“ท่านปู่ของพ่อครัวหวางก็เคยเข้าครัวพระราชวังเหมือนกัน!”
“พ่อครัวหลิ่วปีก่อนหมูย่างของเขา เคยได้ขึ้นแท่นป้านหลักของครัวพระราชวัง ‘หมูย่างอันดับหนึ่ง’ป้ายนี้ตอนนี้ยังมีอยู่ในร้านอยู่เลย!”
“ไม่สิ ผิดแล้ว!”
“อั้ยหย่า!พ่อครัวหวางไม่ได้ชนะ เงินห้าร้อยเหรียญของข้า!”
“ข้าก็มี!”
“ยังมีข้าอีก!”
……
ขณะนั้นทุกคนต่างไม่สงบแล้ว พี่นถิงเห็นดังนั้นก็รีบกระโดดขึ้นโต๊ะขึ้นไป เพราะโต๊ะใหญ่และกว้าง แต่ไม่ได้ยืนอยู่ข้างอาหาร“ถ้าทุกคนสงสัยอะไร ก็เชิญตัวแทนของแต่ละคนมาชิมอาหารที่เข้าแข่งขัน”
พอพี่นถิงพูดจบ ทุกคนก็เลือกตัวแทนขึ้นมาชิมอาหาร
ทุกคนต่างชิมอาหารทั้งหมด ทุกคนชิมอาหารชนิทนั้นเสร็จก็ชิมอาหารจานต่อไปเลย แต่พอกินผัดมันฝรั่งก็วางตะเกียบไม่ได้ต้องชิมอีกเรื่อยๆ!
พอคนอื่นเห็น ก็หยิบตะเกียบขึ้นมารีบชิมอาหาร ทุกคนต่างแย่งกันกินผัดมันฝรั่ง ไม่นาน ผัดมันฝรั่งก็หมดจานแล้ว!
อีกคนที่เป็นตัวแทนพอรู้สึกตัวก็รีบวิ่งไปแย่งเต้าหู้ตุ๋นกิน ต่อมาก็แย่งกันกินไม่หยุด
“ข้ายังไม่ได้กินเลย!เจ้ากินไปสองแล้วนะ!”
“เจ้ามันขี้โกง!เจ้ากินไปตั้งสี่ชิ้นแล้วนะ!”
“เฮ้อ!อย่าเบียดสิๆ!”
การแข่งขันทำอาหารจบลงด้วยเสียงแย่งกันของทุกคน เวลาสั้นๆ ชื่อเสียงของพี่นถิงก็ดังไปทั่วถนนทั่วเมือง เดินไปไหนก็ได้ยินเสียงคนพูดกันว่า“ในเมืองมีแม่หนูทำอาหารเก่งมากคนหนึ่ง!”
“ฝีมือใช้มีดนั้น โอ้โห หั่นได้อ่อนโยนละม้ายมากเลย ดูจนสายตาข้าละห้อยตามไปเลย!”
……
ในร้านขนม
เจ้ามือก็ทำตามสัญญานำเงินมาให้พี่นถิง ที่จริงเขาคิดว่านางจะเลือกคนอื่นชนะการแข่งขัน ขอแค่ไม่เลือกพ่อครัวหวางก็ได้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายนางก็เข้าแข่งขัน ยังชนะอีกด้วย ต้องรู้ว่าพ่อครัวพวกนั้นต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังกันทั้งนั้น
“นี่เป็นเงินสองพันหกร้อยเหรียญ ให้เจ้า”เจ้ามือเอาเงินห่อผ้าขาวส่งให้นาง
พี่นถิงรับมา ไม่ได้รีบเปิด แต่วางไว้โต๊ะข้างๆ มองไปที่คนและถามว่า: “เจ้าชื่ออะไร?”
“ข้า?ข้าชื่อโถงห่าว ในสัญญายังเขียนอยู่!”โถงห่าวพูด
“อ้อ!เหอะๆ ข้าไม่ได้สังเกต”อั้ยหย่า!พี่นถิงกำลังไปยอทรับว่าตัวเองอ่านไม่ออกเหรอเนี้ย!น่าขายหน้าสิ้นดี!
“อ้า?”
“เออ!งั้นเจ้าตอนนี้ทำงานอะไรอยู่?จะมาร้านข้าไหม?ตอนนี้กำลังอยากได้คนพอดี!”
“ข้า?ข้าเป็นข้ารับใช้ในบ้านของจ้าวหยวนว่าย วันนี้แอบหนีออกมาเล่น แหะๆ”
“ทุกเดือนให้ห้าเหรียญมาทำงานให้ข้าที่นี่”
“อ้า?”
“ไม่อยากเหรอ?”
“อยากสิๆ!”
โถงห่าวคิดว่าตัวเองฟังผิดเสียอีก ตอนอยู่บ้านหยวนว่ายได้เงินแค่เดือนละหนึ่งเหรียญ ทำงานในร้านอาหารอื่นก็ได้แค่ห้าสตางค์ อยู่ที่นี่ได้ถึงห้าเหรียญ!แม้ตัวเองต้องขายบ้านเพื่อไถ่ค่าตัวของตัวเอง ก็ยอม
พี่นถิงเหมือนรู้ว่าเขาคิดอะไร ก็พูดต่อว่า: “ค่าตัวของเจ้า ข้าจะช่วยจ่าย มาที่นี่ข้าไม่ต้องใบขายค่าตัว”
“อ้า!ขอบคุณแม่หญิงมาก ขอบคุณท่านหญิงมาครับ!”โถงห่าวไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง หรือว่าปีนี้เป็นปีที่ดีของเขา!
หลี่หย่งจู้เห็นพี่นถิงว่างแล้ว ก็ถามคำถามสงสัยในใจว่า“พี่นถิง เจ้าจัดการแข่งขันนี้ เพื่อจะชนะเงินพนันนี้เหรอ?”
พี่นถิงยิ้มและมองหน้าหลี่หย่งจู้พูดว่า: “ลุงหลี่ ข้าวางแผนมากแล้ว ส่วนเงินพวกนี้ข้าแค่ได้เพราะโชค พรุ่งนี้เช้าเจ้าก็จะรู้ว่าข้าจัดการแข่งัขนนี้ไปทำไม”
หลี่หย่งจู้กับโถงห่าวมองหน้ากัน ต่างสงสัยในวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร……