บทที่ 12 บุกรุกครั้งที่สอง   1/    
已经是第一章了
บทที่ 12 บุกรุกครั้งที่สอง
เสียงมือถือของแทนคุณดังขึ้น เขากดรับในทันทีที่หยิบขึ้นมาดู เมื่อรายชื่อผู้โทรแสดงเด่นชัดว่าเป็น “ทีภพ” “แทนทั้งสามร้าน ทำรายได้ยอดขายได้ดี อยู่ในทำเลที่ดี ซึ่งแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่นัก ฉันต้องการไปดูที่ร้านทั้งหมดนายพอจะว่างไปไหม” ทีภพตัดสินใจไม่ได้หากเห็นแต่เพียงยอดที่แจ้งมาในแผ่นกระดาษ เขาต้องการประเมิน สภาพร้านทั้งหมด ทั้งระบบการบริหาร ทั้งภาพรวม “ได้ ฉันจะไปรับนายเดี๋ยวนี้แหละ” แทนคุณวางมือจากการอ่านหนังสือ หันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเร่งฝีเท้าออกจากห้องมาอย่างรวดเร็ว “ป้านาล่ะ” ชายหนุ่มถามหาแม่บ้านคนสนิทจากคนใช้อีกคนที่เหลืออยู่เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ถือของว่างออกมาจากในครัวไม่ใช่ป้านา “ป้านาไม่สบาย เลยให้หนูมาดูแลแทนค่ะ” “อะไรนะ” เขาถามย้ำอีกครั้ง “แล้วเป็นอะไรมากไหม” “ไม่มากค่ะ อาหารว่างนี่ป้านาเป็นคนทำ แกอยู่ในครัวน่ะค่ะ” ชายหนุ่มเจ้าของบ้านพยักหน้า เขาดูเบาใจขึ้นหากป้าแม่บ้านคนสนิทมีแรงทำขนมได้อาการคงไม่หนักหนาน่าเป็นห่วงเท่าไรนัก ชายหนุ่มหยิบขนมในจานมาใส่ปากพร้อมเดินออกจากบ้านไป หญิงชราที่แอบดูสถานการณ์ระหว่างน้อยกับแทนคุณครู่หนึ่ง รีบเดินออกมาทันที “น้อย คุณแทนไปแล้วแน่นะ” ป้านาปรี่เข้ามาหาน้อยซึ่งกำลังมองหญิงชราด้วยความกังวลใจ “ไปแล้วค่ะ ป้านาทำไมไม่บอกคุณแทนไปตรงๆ ล่ะคะ ดูหน้าป้าสิซีดเป็นไก่ต้ม เดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว” “เอาน่า กินยาเดี๋ยวเดียวก็หาย ปล่อยคุณแทนไปทำงานเถอะ” หญิงชราพยายามบ่ายเบี่ยงกลัวว่าตนจะเป็นภาระของเจ้านายจึงเลี่ยงไม่บอกความจริง แม้จะเดินแทบไม่ไหวก็ตามที “น้อยไปทำงานเถอะไป” หลังจากหญิงชราเอ่ยปากไล่น้อยแล้ว เธอเองจึงหันกลับไปพักผ่อนในห้อง หวังให้ยาที่พึ่งกินไปออกฤทธิ์บรรเทาอาการป่วย หลังเลิกเรียนจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ทั้งสองเรียนอยู่ สองสาวเดินทางมาทำหน้าที่ของตนตามปกติเหมือนในเช่นทุกๆ วัน วันนี้นันทิชาสังเกตเห็นพริมเหมือนมีอะไรในใจ ไม่สดใสร่าเริงเหมือนเดิม และมีอาการผิดปกติมาตั้งแต่ตอนเที่ยงหลังทานอาหารกลางวัน “มีอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอเอาแต่จับมือถือ” “ฉันโทรหาป้านาทั้งวัน แต่ป้าไม่ยอมรับสายเลยโทรตั้งแต่เช้าแล้ว ตอนเที่ยงป้าก็ไม่ยอมโทรกลับ และตอนนี้ก็ยังไม่ยอมโทรมาอีก แปลกจริงๆ นะทิชา” พริมพูดด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวลอย่างมาก แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ระบายอะไรออกมาพี่รินเจ้าของร้านก็เรียกประชุมทันทีประจวบกับได้เวลาทำงาน วันนี้ก็เป็นเหมือนในทุกๆ วัน ในเวลางานทุกคนแทบไม่ได้หยุดพักมือไม้พัลวันกันไปหมด ลูกค้าบางโต๊ะใจดี บางโต๊ะค่อนไปทางเรื่องมาก พนักงานทุกคนถูกอบรมมาอย่างดีต่างรับมือได้อย่างมืออาชีพ เมื่องานเสร็จก็ทยอยเดินไปรับเงินรายวันจากพี่รินเจ้าของร้านและเดินมายังห้องพัก เพื่อเปลี่ยนชุดกลับบ้าน “ป้ายังไม่โทรกลับมาเหรอ” นันทิชาหันไปเห็นเพื่อนรักจับมือถือที่ขึ้นมาดูอีกครั้ง สีหน้าของพริมยังคงเป็นกังวลไม่ต่างจากเดิม “นี่มันห้าทุ่มแล้วนะทิชา ป้านาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย” พริมพยายามหาเหตุผล ก่อนจะหันไปเห็นมือเรียวเล็กของนันทิชาค่อยๆ ปลดกระดุมชุดพนักงานออก “เดี๋ยวก่อนทิชา! ฉันเป็นห่วงป้านา เธอไปบ้านนั้นเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม” พริมซึ่งอยู่ๆ ก็หันมาขอให้นันทิชาช่วยไปบ้านหลังนั้นอีกครั้งเอาเสียดื้อๆ “แต่...” นันทิชาพูดค้าง ดวงตากลมโตเปิดกว้างเล็กน้อย และกำลังตกใจกับคำขอร้องของพริม มันทำให้นันทิชาคิดอะไรไม่ทันในตอนนั้นได้แต่ยืนงง เธอไม่อยากทำผิดด้วยการแอบเข้าไปบ้านคนอื่นแบบนั้นอีก ก่อนที่มือของพริมจะดึงเธอวิ่งออกจากร้านไป บ้านใหญ่หลังงามยามค่ำ เปิดไฟสว่าง นันทิชาและพริมสองสาวกำลังมองหาทางเข้าแต่รั้วใหญ่ปิดสนิท พวกเธอพยายามก้มๆ มองๆ อยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครมาพบเข้าในตอนนี้ เมื่อมองเข้าไปภายในบริเวณบ้านแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ สองสาวจึงตัดสินใจปีนรั้วข้ามเข้ามา “พริมเธอจำทางไปห้องป้านาได้ใช่ไหม” นันทิชามองซ้ายมองขวาพร้อมส่งคำถาม ภายใต้แสงไฟสีส้มอ่อนเห็นเงาตะคุ่มๆ ของสองสาวนั้น ไม่ผิดเลยถ้าใครมาพบเข้าแล้วอาจคิดไปได้ว่าพวกเธอคือขโมยสาวตัวแสบ “ฉันมาหลายรอบ ฉันพอจำได้” สองสาวจูงมือกัน กึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อไปให้ถึงห้องป้านาเร็วที่สุดก่อนเจ้าของบ้านหรือใครจะมาพบเข้า “ป้านา ป้านา ป้านา” เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกของพริมดังขึ้นเป็นระยะ นันทิชาที่เป็นฝ่ายดูต้นทางพะวงใจเป็นอย่างมาก แม้พริมจะใช้เวลาเรียกอยู่พักใหญ่แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับของผู้อาศัยภายในห้อง ทั้งสองจึงตัดสินใจงัดประตูเข้าไปโดยใช้มือล้วงผ่านบานเกล็ดที่เปิดทิ้งไว้ซึ่งอยู่ใกล้กับลูกบิดประตู วิชาพวกนี้พริมเรียนรู้มาเยอะพอสมควรเพราะก่อนเธอจะเข้ามหาลัยเพื่อนของเธอล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายแทบทั้งสิ้น “ไม่มีใครอยู่นี่พริม” นันทิชาเอ่ยขึ้นเมื่อประตูถูกเปิดออก พริมแสดงอาการดูเป็นกังวลมากขึ้นหลายเท่าตัว เธอเดินสำรวจรอบห้อง รวมไปถึงในห้องน้ำ เมื่อไม่พบป้าของตนเธอจะแทบจะหยุดหายใจเพราะเอาเข้าจริงป้านาเปรียบเสมือนแม่อีกคนของเธอ หากเกิดอะไรขึ้นกับหญิงชราเธอคงเจ็บปวดไม่น้อย “นี่ไงมือถือป้านา” นันทิชาหยิบมือถือที่วางทิ้งอยู่บนเตียงขึ้นมายื่นให้เพื่อน พริมรีบออกจากห้องน้ำเดินตรงมายังนันทิชา หญิงร่างอวบกดมือถือดูด้วยมือที่สั่นระริกด้วยความแคลงใจ เป็นเบอร์เธอทั้งหมดที่ขึ้นไม่ได้รับ “ปกติป้านาต้องพักแล้ว หมดเวลางานตั้งนานแล้ว” พริมพูดพร้อมหันมายังนันทิชา ตอนนี้หัวใจของพริมแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ เป็นครั้งแรกที่สาวร่างอวบ มือไม้สั่นด้วยความเป็นห่วงป้าของตน “ไปเรือนหลังใหญ่กัน ป้านาน่าจะอยู่ที่นั่น” จิตที่เป็นกังวลทำให้ความกลัวหายไปในพริบตา พริมหญิงสาวที่ในเวลานี้แทบคลั่งเพราะป้าแท้ๆ หายไปอย่างปริศนา “แต่...แต่เราแอบเข้ามานะ” นันทิชาเตือนเพื่อนรักอีกครั้ง “ถ้าเขาจะเอาเรื่อง ฉันจะรับเอง” พริมเป็นห่วงป้าของตน จนลืมที่จะกลัวความผิดข้อหาบุกรุกเข้ามาบ้านคนอื่น เมื่อเข้ามาภายในเรือนหลังใหญ่ห้องโถงกว้างขวางใหญ่โต ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดตบแต่งไว้อย่างดี แต่เวลานี้บางจุดถูกปิดไฟไว้ พริมและนันทิชาแยกย้ายกันตามหาในชั้นล่างอยู่หลายนาทีแต่กลับไม่พบหญิงชรา “ทิชา ขึ้นด้านบนเถอะ” พริมเอ่ยเรียกเพื่อนสาวที่ยังยืนหาอยู่ด้านล่าง ร่างบางๆ วิ่งตามพริมขึ้นมายังชั้นบน ห้องหลายห้องทำให้ทั้งสองสับสนไม่น้อย บางห้องเปิดได้ บางห้องเปิดไม่ได้ สองสาวแยกย้ายกันเข้าห้องนั้นออกห้องนี้อยู่พักใหญ่ นันทิชาหยุดวิ่งค้นหา ก่อนที่จะจับประตูห้องหนึ่งค้างไว้เพื่อพักหายใจ บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาได้ครบทุกซอกทุกมุม ยังไม่ทันที่ลมหายใจหอบนั้นจะจางหาย “ป้านา! “เสียงของพริมดัง จนทำให้นันทิชารีบหันวิ่งมายังห้องต้นเสียงทันที “ป้านาได้ยินพริมไหม มานอนอะไรตรงนี้” พริมพยุงร่างสูงอายุขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ข้างๆ มีเครื่องดูดฝุ่น ไม้ถูพื้น กับผ้าผืนเล็กไว้เช็ดทำความสะอาดกองอยู่ “ตัวร้อนด้วย คนอื่นไปไหนกันหมด” พริมเสียงดังโวยวาย เธอเริ่มไม่พอใจเมื่อเห็นสภาพป้าของตน ที่มานอนกองอยู่กับอุปกรณ์ทำความสะอาดโดยไม่มีใครสนใจ แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองที่เห็นป้าแท้ๆ ต้องมานอนซมอยู่กับพื้นโดยไร้คนเหลียวแลแบบนี้ “มีป้ากับน้อย น้อยอาจจะกลับไปห้องแล้ว ส่วนคุณแทนคงยังไม่กลับ” ป้านาได้สติจากเสียงดังโวยวายของหลานรัก จึงค่อยๆ ลุกยืนขึ้นด้วยตัวเอง แล้วพยายามอธิบายให้หลานฟัง ถึงแม้จะไร้เรี่ยวแรงด้วยพิษไข้ก็ตามที “ป้าจะทำต่ออีกหน่อย นี่ก็ใกล้เสร็จแล้ว” หญิงสูงอายุพูดเสร็จค่อยๆ ก้าวไปหยิบไม้ถูพื้น ยังไม่ทันที่มือของเธอจะเอื้อมถึง นันทิชารีบแย่งเอามาถือไว้เอง เธอแทบทนไม่ได้ที่เห็นหญิงชราดื้อรั้นจะทำความสะอาดเองทั้งที่ป่วยจนแทบเดินไม่ไหว
已经是最新一章了
加载中