ตอนที่106 ก่อสงครามเย็น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่106 ก่อสงครามเย็น
ตอนที่106 ก่อสงครามเย็น เปิดสงครามอย่างกะทันหัน ตั้งแต่วันที่นัชชาโดนจับได้ก็ไม่ได้กลับไปนอนในห้องใหญ่อีกเลย นอนอยู่ห้องรับรองแขก รอจนหมดวันนั้นของเดือนเตชิตก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้สนใจเธอ ในความเป็นจริงเขายุ่งมาก มัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการกับดวิษและคดีหย่าของเธอ แต่ความจริงข้อนี้นัชชาไม่รู้ เธอนึกว่าเขาโกรธเรื่องในคืนนั้น ก็เลยเป็นแบบนี้ อยู่ที่บริษัท นอกจาการประชุมอาทิตย์ละครั้งในการได้เห็นหน้าเขา อยากจะเห็นหน้าเขาในเวลาอื่นก็เป็นได้แค่การหวังลมๆแล้งๆ ตอนอยู่ที่บ้านก็ต่างคนต่างยุ่ง เขานั่งอยู่ห้องหนังสือส่วนใหญ่นั่งจนถึงเกือบเที่ยงคืน แทบจะไม่โผล่หน้ามาเลย มีอยู่คืนหนึ่ง นัชชารู้ว่าเขายังไม่นอน เธอทำอาหารแค่ในส่วนของเธอ เขาลงมาเห็นว่าเธอกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย เขามองเธอแล้วพูดว่า “เสียงดัง เบาเสียงลงหน่อย” นัชชาแค้น หมี่เกือบจะติดคอ เธอไม่รู้จะทำยังไงกับเขา ค่อยๆ จากความพอใจจนสุดท้ายกลายเป็นความท้อ เหมือนไม่มีเรี่ยวแรงในการทำอะไรเลย สถานการณ์แบบนี้ดำเนินมาได้เกือบหนึ่งอาทิตย์ จนกระทั่งวันที่คดีถูกเปิดในชั้นศาล ร่างกายที่แข็งแรงเหมือนเหล็กก็ล้มป่วยขึ้นมากะทันหัน ตอนแรกนัชชาไม่รู้ เธออยากใช้เรื่องคดีเป็นโอกาสในการพูดคุยกับเขา นึกไม่ถึงเธอเคาะประตูไปหลายครั้งไม่มีคนเปิด เธอลองบิดกลอนประตู แต่มันกลับเปิดได้ ในห้องเงียบสนิท ม่านถูกปิดไว้มิดชิด เขานอนห่มผ้าอยู่บนเตียง โผล่ออกมาแค่ครึ่งหน้ากับแขนอีกหนึ่งข้าง นัชชาดูเวลา สิบโมงครึ่ง ถึงแม้ว่าวันนี้เปิดคดี พวกเขาไม่ต้องเข้าบริษัท แต่......เขากลายเป็นคนนอนนานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่มานานขนาดนี้ นัชชาไม่เคยเห็นเขานอนนานเกินแปดโมง “เตชิต” เธอลองเรียกชื่อเขา เขานอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเสียงตอบรับ นัชชาขมวดคิ้ว รู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ เธอเดินเข้าไปใกล้เตียง เห็นหน้าเขาแค่ครึ่งเดียว มองไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ เธอยื่นมือไปดันไหล่ของเขา เรียกเสียงดังขึ้นกว่า “เตชิต” ครั้งนี้เขาขยับตัว พลิกตัวหันหลังให้เธอ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบๆเบาๆ “ออกไป” เสียงนี่คือ............... นัชชาใจหาย เธอไม่สนใจเดินเข้าไปแล้วยื่นมือไปจับหน้าผากของเขา ความร้อนถูกส่งมาโดนฝ่ามือ เธอตกใจ “คุณไข้ขึ้นหรอ” เธอคุกเข่าอยู่ข้างเตียง เอื้อมมือไปดึงผ้าห่มเขาออก สีหน้าเขาดูไม่ค่อยดี “ไปโรงพยาบาลกันเถอะ คุณตัวร้อนมากน่าจะไข้ขึ้นสูง” เขาลืมตาด้วยความล้า ยากลำบาก “ฉันบอกให้เธอออกไป” “ฉันไม่ออก” นัชชาโมโห ทั้งเป็นห่วงและกังวลใจ “คุณทนอยู่แบบนี้ไม่ได้ ไปโรงพยาบาลนะไปฉีดยาเดี๋ยวก็หาย” พูดจบ นัชชาก็นึกถึงปรัณ “หรือให้ฉันโทรหาหมอปรัณมั้ย” “ไม่ต้อง” เขาตอบเหมือนรำคาญเธอ ยกมือชี้ไปที่ลิ้นชักที่มีกล่องยา “เอายามาให้ฉัน” นัชชารีบเดินไปเอา หายาลดไข้และปรอทวัดไข้ ป้อนยาให้เขาเสร็จ เธอวัดไข้ให้เขา 39องศากว่าๆ “ถ้าอีกสักพักไข้ไม่ลด คุณต้องไปโรงพยาบาลกับฉัน” เตชิตตอบรับผ่านๆ เขาหลับตาลงอย่างเหนื่อยๆ นึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้เขาอยู่ห้องหนังสือจนถึงดึกๆดื่นๆจนเกือบทุกวัน นัชชารู้สึกเจ็บหัวใจ เขาต้องเหนื่อยขนาดไหนล้มป่วยทั้งๆที่ร่างกายแข็งแรงมาก แข็งแกร่งไม่ล้มง่ายๆ จนเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้คงจะแข็งแรงจนไม่มีทางไม่สบายแน่นอน แต่ทิ้งหน้าที่การงานที่ดีทิ้งไป เขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ถ้าไม่ได้กินข้าวก็จะหิว อ่อนแอไม่สบายเป็น นัชชาเอาผ้าชุบน้ำแปะไว้ที่หน้าผากของเขา โชคดีที่หลังจากชั่วโมงหนึ่งผ่านไป ไข้ลดเหลือ38องศา เธอนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆเขาไม่ไปไหน จนกระทั่งทนายดรณ์โทรมา นัชชาหยิบโทรศัพท์ออกมารับตรงทางเดิน ก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของเขาพูดขึ้น “คุณนัช ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณชนะคดีแล้ว” ได้ยินข่าวนี้ นัชชายืนอึ้งไปสักพัก รอคอยมานานขนาดนี้ เตรียมตัวมานานในที่สุดก็มีผลลัพธ์ก็ออกมา เธอเผลอออกแรงบีบโทรศัพท์ และมือเธอก็เริ่มสั่น “สมบัติทั้งหมดที่มีจะถูกแบ่งให้คุณ50% รวมถึงเงินลงทุนและการข่มขู่ ทำลายชื่อเสียง เขาต้องจ่ายค่าเสียหายให้คุณอีก120กว่าล้าน” ทนายดรณ์บอกผลการตัดสินให้นัชชารู้ “และดวิษเขาก็คงจะยื่นฟ้อง แต่โอกาสชนะน้อยมาก” นัชชาโล่งใจ “ค่ะ ฉันรู้แล้ว” “รายละเอียดไว้จะบอกตอนเจอหน้ากัน ถ้าเขายอมรับ มนก็เหลือแค่การแบ่งสมบัติ พอถึงเวลาก็แค่ทำตามที่คุยกันไว้” นัชชาพยักหน้า “รบกวนคุณมามากแล้ว ขอบคุณนะคะ” ผลการตัดสินใจแบบนี้สำหรับดวิษเหมือนเป็นการทำลายชีวิตของเขา สิ่งที่จรรยาและทยาวีร์กลัวก็เกิดขึ้น เงิน ของส่วนใหญ่ของตระกูลดวิษเป็นชื่อของเขา แต่เมื่อก่อนตอนบ้านดวิษมีปัญหากับเมทนีก็ไม่กล้าที่จะเอามากมายขนาดนี้ 50%มันมาพอที่เหมือนฆ่าเขาทางอ้อม ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไง พอคิดได้ดังนี้ นัชชาป้องกันเผื่อจะมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น เธอโทรบอกณัชชนณ์และเมทนี “พ่อกับแม่ ช่วงนี้ระวังคนบ้านนั้น ย้ายไปอยู่โรงแรมกันก่อนดีที่สุด ชนะคดี บ้านนั้นคงไม่ปล่อยเราไปง่ายๆ” ได้ยินดังนี้ พวกเขาดีใจมาก “ได้ๆ แม่กับพ่อทำตามที่ลูกต้องการขอแค่ชนะคดี” หลังจากวางสาย นัชชาเพิ่งรู้ตัวว่าน้ำตาเธอคลอ เธอไม่ได้อยากร้องแต่มันห้ามตัวเองไม่ได้ ยกมือเช็ดน้ำตา ไม่ลืมผู้ชายที่นอนอยู่ในห้อง พอเธอหันหลังกลับก็ต้องนิ่งยืนอยู่กับที่ เตชิตไม่รู้ว่ามายืนอยู่หลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ ระยะห่างเพียงสองก้าว ใกล้พอจะได้ยินเสียงในสาย “คดีชนะแล้ว” เสียงเขาต่ำมาก นัชชาพยักหน้า แล้วเดินไปหาเขา “คุณไม่สบายอยู่รีบกลับเข้าไปพักเลย” เตชิตทำตามอย่างว่าง่าย กลับเข้าไปนอนในห้อง มองดูการกระทำของเธอที่ห่มผ้าให้เขาอย่างอ่อนโยน เขาพูดขึ้น “ดีใจด้วย ชนะตามที่ต้องการแล้ว” นัชชามองหน้าเขา มีคำพูดมากมายที่อยากจะพูด แต่เธอรู้ดีว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาต้องรอให้เขาหายดีก่อน “นอนเถอะ” เตชิตรู้สึกเหนื่อยล้า หลับตาได้ไม่นานก็นอนหลับไปแล้ว นัชชานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง เปลี่ยนผ้าผืนใหม่แล้วจัดการวัดไข้ใหม่อีกรอบ แน่ใจว่าไข้เขาไม่ได้ขึ้นมากกว่าเดิมเธอถึงจะวางใจ ครืดๆ โทรศัพท์ที่อยู่หัวเตียงสั่น นัชชาขมวดคิ้ว กลัวว่าจะทำให้เตชิตตื่น เผลอเอื้อมมือไปกดรับแต่เธอกำลังจะกดวางมือเธอก็ต้องชะงักค้างเมื่อได้ยินเสียงแก่ๆจากปลายสาย “อย่าคิดว่าไม่รับสายจะหนีรอดไปได้ ฉันเห็นในข่าวว่าผู้หญิงคนนั้นหย่าแล้ว ถึงจะหย่าฉันก็ไม่อนุญาตให้พวกแกอยู่ด้วยกัน” นัชชาอึ้ง เธอเห็นชื่อที่แสดงอยู่หน้าจออย่างเต็มตา ‘บ้านเก่า’
已经是最新一章了
加载中