ตอนที่110 ข่มขู่คนในตระกลูดวิษ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่110 ข่มขู่คนในตระกลูดวิษ
ตอนที่110 ข่มขู่คนในตระกลูดวิษ นัชชาตื่นก็ประมาณเที่ยงๆแล้ว ตอนเช้าเธอไม่ได้กินอะไรท้องว่างรู้สึกปวดท้องหิว ลืมตา ที่นอนข้างๆก็ว่างเปล่าแล้ว เธอยื่นมือไปจับที่เตียงมันเย็นๆแล้ว เขาไปไหน นัชชาใส่รองเท้าเดินลงมาชั้นหนึ่ง เดินขึ้นไปชั้นสาม แต่ก็ไม่มีคน พอคิดถึงเขามีไข้ไม่สบาย เธอเป็นห่วง หยิบโทรศัพท์โทรหาเขา ไม่นานเขาก็กดรับ พูดด้วยน้ำเสียงแหบๆ “ตื่นแล้วหรอ” “อืม คุณออกไปไหน” เตชิตมองดูความเร็วของเครื่อง เขาออกแรงเหยียบคันเร่ง “ออกมาทำธุระ” “ทำธุระหรอ” นัชชาขมวดคิ้ว “ตอนนี้คุณไม่สบายมีไข้อยู่ ออกไปทำธุระอะไร” “ธุระที่บริษัท” “คุณอยู่ไหน” นัชชาพูดไปด้วยเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย “ให้ฉันออกไปรับมั้ย” “ฉันอยู่ระหว่างทางกลับแล้ว เธอรอฉันอยู่ที่บ้าน” เตชิตกลัวว่าเธอจะออกมารับจริงๆ เลยตั้งใจวานงานให้เธอทำ “ต้มโจ๊กให้ฉันหน่อย” “โจ๊ก......” นัชชาเดินเข้าไปห้องครัว ปิดประตูตู้เย็นออก มองดูวัตถุดิบที่อยู่ในตู้เย็น “คุณอยากกินโจ๊กอะไรล่ะ” ความจริงเตชิตอยากกินจ๊กที่ไหนเขาไม่สบายกินอะไรไม่ลง แค่อยากหาที่ล้มตัวนอนลง เขาเลือกไปเลื่อย “โจ๊กเห็ด” “โอเค ฉันจะต้มตอนนี้เลยคุณกับมาก็น่าจะได้กินพอดี” นัชชาเป็นห่วงไม่สบายใจ พูดแล้วพูดอีก “คุณขับรถเองหรอ” “อืม” “งั้นคุณขับระวังด้วย ไม่ต้องรีบ...........” “ฉันรู้แล้ว” เขาตอบรับเธออย่างวดเร็ว “เดี๋ยวฉันก็กลับไปแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง เข้าใจมั้ย” นัชชาพยักหน้ารับ “อืม ฉันรอคุณอยู่บ้านนะ” ……………………. 40นาทีต่อมา รถถูกจอดไว้ที่สนามหญ้า เขาเปิดประตูลงจากรถเดินตรงมาที่หน้าประตู เขายกสแกนลายนิ้วมือ เพิ่งเดินถึงหน้าประตูบ้านก็ได้กลิ่นหอมลอยมา “คุณกลับมาแล้วหรอ” นัชชาวิ่งออกมาจากห้องครัว เธอใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาวน้ำเงิน รวบผมไว้ข้างหลังแบบหลวมๆ ทำให้เธอดูอ่อนหวานกว่าเดิม เตชิตรู้สึกเหนื่อยล้าเมื่อเห็นใบหน้าเธอความเหนื่อยก็จางหายไป เขาเปลี่ยนรองเท้า ก้าวขาเดินได้เพียงหนึ่งก้าวร่างใหญ่ก็เซ นัชชาเดินเข้าไป เขย่งขาไปจับหน้าผากเขา เธอตกใจ “คุณ.........” ร้อนจนทอดไข่ได้แล้ว เตชิตจับมือเธอออก จะเดินเข้าไปกอดเธอ นัชชาหลบทัน หยิบโทรศัพท์โทรหาปรัณ “หมอปรัณ เตชิตไข้ไม่ลด คุณสะดวกเข้ามามั้ย” ปลายสายชะงัก “ไข้ไม่ลดหรอ แล้วดูแลเขายังไง” นัชชาใช้สายตาเป็นเชิงห้ามไม่ให้เขาเข้าไปในห้องหนังสือ “คงเป็นเพราะช่วงนี้ทำงานหนักเกินไปเลยได้พักผ่อนน้อย” “ก็คงจะร่างกายอักเสบ เดี๋ยวฉันเข้าไป เธอให้เขานอนพักไปก่อน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” “ค่ะ รบกวนคุณด้วยนะคะ” “ไม่เป็นไร” หลังจากวางสาย นัชชาเดินเข้าไปหาเขา เห็นเขากำลังจะตักโจ๊กกิน “คุณขึ้นไปนอนพักผ่อนไป เดี๋ยวหมอปรัณก็มาแล้ว” เตชิตไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา แต่สำหรับนัชชาเขาไม่มีจุดไหนที่ไม่ชอบเธอเลย ถึงเธอจะโทรเรียกปรัณตามใจชอบ เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ เขาใจกว้างจนตัวเขาเองยังแปลกใจ “พยุงฉันซิ” ผู้ชายตัวสูงใหญ่พูดอ้อนหน้าตาย นัชชาที่เห็นเขาไม่สบายอยู่ก็ใจอ่อน เดินเข้าไปช่วยพยุงเขา พาเดินขึ้นไปชั้นสอง ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจรึเปล่า มืออยู่ไม่นิ่งขีดเขียนที่หลังเขาไปมา นัชชาหันไปมองหน้าเขา เขาก็ทำหน้าตาย กว่าจะถึงห้องนอน นัชชาพูดให้เขาเปลี่ยนชุด เตชิตนอนดุผู้หญิงที่คอยดูแลเขา หัวใจเต้นแรงรู้สึกอุ่นใจ เขาจับข้อมือเธอไว้ “คนบ้านนั้นเธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจัดการให้แล้ว” นัชชามองเขา ไม่ได้พูดอะไร “นัชชาเรื่องอื่นเธอไม่ใส่ใจได้ แต่เรื่องเดียวที่เธอต้องไม่ลืม.........” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คือการอยู่เคียงข้างฉัน” เขาใหญ่และมีแรงมากพอที่จะคอยปกป้องเธอ ถ้าเรื่องเดี๋ยวที่เขาไม่สามารถทำให้เธออยู่ต่อได้ มันก็คงไม่มีความหมาย นัชชาเห็นความมุ่งมั่นในสายตาเขา ใจเต้น มันก็ถูกเขาทำถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยอมแพ้ สิ่งที่เข้าต้องการ ไม่ใช่การเข้าใจจากเธอแต่คือการไม่จากเขาไปไหน นัชชาถูกสะกด มือเล็กเอื้อมไปจับมือใหญ่ ออกแรงบีบมือเขา “ฉันรู้แล้ว” เธอจะคอยอยู่เคียงข้างเขา จนถึงวันที่เขาไม่ต้องการเธอแล้ว ................. ตอนปรัณมา เพิ่งจบการประชุมไป เขามาแบบรีบเร่งเลยพาสุวีรามาด้วย นัชชารู้สึกดีกับเธอ เป็นคนน่ารักสดใส ต้อนรับเธออย่างดี เขาเปิดประตูเข้ามา ปรัณเดินเข้ามาเห็นเขานอนทำหน้านิ่ง หมอปรัณวัดไข้ให้เขา “38.9องศา ฉันไม่ไว้กับแกจริงๆ” เตชิตเงยหน้ามองเขา “หมอพูดมากเหมือนแกทุกคนรึเปล่า” “อ่าว” ปรัณจัดยาให้เขา “เขาเรียกว่าเป็นห่วงเว้ย เป็นห่วงรู้จักมั้ย” เขาหยิบเข็มฉีดยาออกมา แทงฉีดยาเข้าไปที่ข้อพับของเขา ไม่ได้เร็วมาก ปรัณดึงเข็มออก ทำทุกอย่างเสร็จก็เปิดปากถามเขา “ฉันได้ยินนัชชาบอกว่าแกออกไปข้างนอกมา เรื่องอะไรทำไมรีบร้อนขนาดนั้น” เขาตอบกลับ “ไปหาทยาวีร์มา” “ทยาวีร์หรอ” ชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆ “พ่อไอ่ดวิษ” “อ่อ เขาหรอ......เรื่องแบบนี้ปล่อยให้ลูกน้องจัดการก็ได้ ไม่ต้องไปจัดการด้วยตัวเองหรอก แกดูแลนัชชาดีไปรึเปล่า” ในสายตาของปรัณกับเตชิต ดวิษกับทยาวีร์ก็แค่คนไร้ค่าไม่ได้มีบทบาทอะไรกับเขา ถึงมันจะเป็นเรื่องจริง แต่เตชิตฟังไม่ค่อยเข้าหู รู้สึกว่าปรัณตั้งใจล้อเลียนเขา “เสร็จธุระ แกไปได้แล้ว” ปรัณยกคิ้ว ไม่อยากเถียงกับคนป่วย เขาเก็บข้าวของใส่กล่องพยาบาล มีคนเคาะประตู ถูกอนุญาต สุวีราเปิดประตูเข้ามา เธอยื่นโทรศัพท์ให้ปรัณ “คุณปรัณ คุณนัชให้ฉันมาถามว่าของพวกนี้กินได้มั้ย” ปรัณหยุดชงัก เขามองบนแต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ไว้ “อันนี้ อันนี้ อันนี้ก็ไม่ได้” “โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันไปบอกเธอ” เธอกำลังจะหันหลังเดินออกไป เดินถึงหน้าประตู เตชิตเรียกเขาไว้ “คุณสุ” เธอหยุดชะงัก หันหลังกลับมาถามเขาด้วยความสงสัย “คุณเรียกฉันหรอคะ” “อืม” เตชิตลุกนั่งบนเตียง เขามองไปทางปรัณแล้วหันกลับไปมองเธอ “คุณหมอปรัณเขาไม่เคยมีแฟน แต่เขาสนใจคุณ” WTF หลังจากเขาพูดจบทั้งสองก็ยืนอึ้ง โดยเฉพาะปรัณ “แกพูดอะไรของแก” เขารู้สึกดีกับเธอตอนหน ทำไมเขาไม่รู้ เตชิตหันไปมองเขาและหันกลับมาพูดกับสุวีราต่อ “เขาแสดงออกไม่เก่ง เธอรู้ว้ก็พอแล้ว ออกไปเถอะ” สุวีรายืนอึ้ง เธอรีบเดินออกไปทั้งๆที่ลืมปิดประตู ปรัณเสียใจที่ฉีดยาลดไข้ให้เขา จะปล่อยให้เขาตายเพราะไข้ขึ้นสูง “เเกมองฉันทำไม” เตชิตนอนลงบนเตียง หลับตาลง หน้านิ่งเหมือนกวนประสาท “แกเป็นคนพาเธอมาถึงบ้านฉัน ไม่รู้ใจตัวเองหรอ”
已经是最新一章了
加载中