ตอนที่ 116 ชายที่นอนข้างๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 116 ชายที่นอนข้างๆ
ตอนที่ 116 ชายที่นอนข้างๆ เธอเตรียมตัวอย่างดี ก็เพื่อเวลานี้! ปณิตาเดินไป และลองเอามือตบไหล่ของเตชิต ผู้ชายที่อยู่บนเตียงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ลมหายใจของเขาหนัก คิ้วของเขาขมวด ดูเหมือนรู้สึกอึดอัดมาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความรูปงามของชายผู้นี้ เธออดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่า ถ้าเตชิตอยู่บนร่างของเธอจะเป็นฉากแบบไหน ... ใบหน้าของปณิตาแดงก่ำเพราะความเขิน แต่ไม่ต้องรีบร้อนอะไรหรอก เธอก็ไม่ได้อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นเป็นจริงเป็นจัง หากรอเตชิตฟื้นขึ้นมา ถ้าเขารู้ว่าถูกเธอวางแผนให้เป็นแบบนี้ เธอคงตายแน่ๆ สิ่งที่เธอต้องทำก็เพียงเพื่อให้ นัชชาเกิดความเข้าใจผิดก็แค่นั้น ปณิตานั่งลงตรงขอบเตียง เอนหลังพิงร่างของเตชิต ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดื่มเหล้าหรือเปล่า ร่างกายของเขานั้นร้อนผ่าวอุณหภูมิร่างกายของเขาสูง จนทำให้เธอรู้สึกไม่อาจอดใจได้ ปณิตาพูดเสียงกระซิบราวตกอยู่ในความฝัน“ จะดีแค่ไหนถ้าคุณเป็นของฉัน” หลังจากรอครู่หนึ่ง เสียงสั่นของอะไรบางอย่าง 'ตืดๆ' ปณิตารีบย่อตัวลงหาที่มาของเสียงทันที เธอแนบหูกับผนังห้องอย่างระแวดระวัง และในที่สุดก็พบโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทของเตชิต เธอดูจะไม่ลังเลที่จะรับโทรศัพท์ แต่ไม่พูดอะไร รอฟังเสียงของคนที่โทรมา - " เตชิต คุณกลับไปที่ห้องของคุณหรือยัง? " ปณิตาไม่ได้พูดตอบ เธอรู้สึกผยอง แม้กระทั้งจินตนาการว่า หากนัชชาได้ยินเสียงของเธอจากโทรศัพย์จะมีสีหน้าอย่างไร นัชชาพูดคนเดียวอยู่นาน จนอดไม่ได้ที่จะถาม "นี่?เตชิต คุณได้ยินฉันมั้ย" ปณิตายิ้มอย่างเยาะเย้ย มองดูชายที่นอนอยู่ข้างตน ความสุขที่อยู่ในใจแทบจะแอบซ่อนไว้ไม่ไหว เธอแสร้งบีบเสียงยั่วยวนจนทำให้คนฟังปลายทางเกิดขนลุก "เธอเป็นใครกันหรอ เตชิตหลับแล้ว" คนรอสายถึงกับรู้สึกโดนฟ้าผ่า เธอยืนอยู่แน่นิ่งเกือบครึ่งนาที ก่อนจะรู้สึกตัว เธอจิกโทรศัพท์จนปลายนิ้วขึ้นสีขาว "คุณเป็นใครกัน" "อ้าว เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันเอง จำเสียงฉันไม่ได้แล้วหรอ? เสียงของปณิตาหยุดชะงักไปสักพัก -" จงใจพูดเสียงชัดเจนและเย้อหยัน "เพื่อน รัก เธอ ยังไงหล่ะ!" นัชชารู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันที เหมือนกับว่าความอบอุ่นทั้งหมดในร่างกายถูกอะไรดูดออกจากร่าง ถูกคำพูดของปณิตาสะกดอยู่ในหลุมอันหนาวเหน็บ เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายอันสั่นเทาได้จนเซไปพิงกับผนังกำแพงด้านหลัง นัชชาพยายามสะกดสติอารมณ์ตัวเอง แม้ว่าร่างกายของเธอจะสั่นเทาอยู่ก็ตาม แต่ยังคงบังคับเสียงให้ราบเรียบ "แล้วเตชิตหล่ะ ให้เขามารับโทรศัพท์" "เพื่อนรัก เธอฟังไม่เข้าใจภาษาคนหรือยังไง เตชิตหลับแล้ว" สายตาปณิตาเหลือบมองชายที่นอนอยู่ตรงข้างตน พรางพูดกระซิบ"นี่ คุณตื่นขึ้นมาสิ งานเลี้ยงเย็นวันนี้ดื่มหนักไปใช่ไหม กระอักกระอ่วนมากเลยหรอ ?" เธอพูดพรางบอกชื่องานเลี้ยง หลังจากได้ยินดังนั้นนัชชาแทบจะล้มทั้งยืน เพราะว่าเย็นวันนี้เขาต้องไปงานเลี้ยงนี้จริง ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันปณิตาจะรู้ได้อย่างไร? “ฉันปลุกเขาแล้ว แต่เขาไม่ยอมตื่น มีอะไรค่อยว่ากันพรุ่งนี้แล้วกันนะ” นัชชาหายใจเข้าลึก " ปณิตา ของๆคนอื่นดีนักหรือไง ทำไมชอบแย่งนัก ไม่สิ ต้องพูดว่าของๆฉัน?" “ ฮ๊ะ ” ปณิตาไม่รู้สึกถึงความละอายใจสักนิด น้ำเสียงของเธอได้ใจยิ่งนัก“ ถ้าฉันต้องการ ฉันก็ต้องได้มา เธอจะทำอะไรฉันได้?” "อย่ามาทำกับฉันแบบนี้นะ มันไม่เป็นผลดีสำหรับเธอแน่" นัชชาจ้องผนังกำแพงอย่างเคียดแค้น เธอไม่เคยเกลียดใครมากขนาดนี้ จนอยากให้คนในสายต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ในชาตินี้คงไม่อาจคุยกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สอง ปณิตาหุบยิ้ม เปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชา ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังและดุร้าย " นัชชา ฉันแค่ทนไม่ได้กับท่าทีที่สูงส่งของเธอ เธอคิดว่าผู้ชายชอบเธอได้แค่คนเดียว ชอบคนอื่นอีกไม่ได้หรือไง เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงโง่ๆคนหนึ่ง ใครพูดอะไรก็เชื่อหมด! เธอโกหกนัชชาได้ แต่ก็ไม่อาจโกหกตัวเองได้ เตชิตรักเพียงแค่นัชชาคนเดียว! พอคิดถึงตรงนี้ เธอเกลียดนัก ถึงได้พยายามแย่งทุกอย่างที่นัชชามี “ฮึ……” ด้านข้างของเธอ เตชิตร้องออกมาด้วยความอึดอัด ดูเหมือนไม่สบายตัวอย่างมาก จนต้องขยับร่าง แววตาของปณิตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอรีบวางสายอย่างรวดเร็ว ภายในห้องชุดที่พักช่างเงียบสะงัด ปณิตานั่งแข็งทื่อข้าง ๆ ชายผู้นั่น กลัวว่าเขาจะฟื้นจากฤทธิ์ยา แม้ว่าฤทธิ์ยายังออกไม่หมด แต่เตชิตก็มักทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดเสมอ โชคดีที่ เตชิตแค่ขยับตัวแล้วนอนต่อ ปณิตาถอนหายใจฮืกใหญ่ เธอกดปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ของเตชิตอย่างระมัดระวัง และลบข้อมูลสายเข้าของนัชชาออกจากโทรศัพย์ เมื่อจัดการเสร็จ เธอก็ยังไม่พอใจ เธอถอดเสื้อผ้าส่วนบนออก แล้วเอาหัวของเตชิตเข้ามาไว้แนบอก แล้วถ่ายภาพเฉพาะส่วนหน้าส่งไป จากภาพดูเหมือนว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อผ้า และเตชิตก็กำลังแนบอกของเธออยู่ ปณิตาดูรูปที่ถ่ายด้วยความพึงพอใจ และส่งข้อความรูปภาพถึง นัชชาทันที พอข้อความถูกส่งสำเร็จ เธอก็ลบข้อความทิ้ง เธอจำใจวางโทรศัพท์กลับไปที่เดิม แม้ว่าเธอไม่อยากออกไปจากห้องนั้น แต่ก็ต้องจำใจออกไป เธอเดินออกไปพรางเหลียวหลังกลับดูอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนเดินลับออกไปจากห้อง …… ในทางกลับกัน แม้ว่าจะได้ยินปณิตาพูดโทรศัพท์ แต่ในใจของนัชชาก็ยังรู้สึกเชื่อมั่นในตัวของเตชิตอยู่ ถ้าเป็นเพราะปณิตาต้องการใส่ร้ายเตชิตหล่ะ? แต่ความเชื่อมั่นในตัวเตชิตก็ถูกข้อความรูปที่ส่งมาทางโทรศัพท์ทำลายอย่างรวดเร็ว รูปถ่ายที่เธอได้รับเป็นภาพชายหญิงท่าทางเปลือยเปล่าแนบชิดขนาดนั้น น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย ทำไมถึงได้ …… ร่างของเธอที่เซพิงกับผนังกำแพงทรุดลงกับพื้น เธอล้มทั้งยืนนั่งร้องไห้บนพื้นอันเย็นเฉียบนั้น มีเพียงน้ำตาที่ไหลพรากไม่มีแรงแม้แต่ส่งเสียงร้องไห้ออกมา ปณิตา เตชิต พวกเขาอยู่ด้วยกันได้ยังไง? นัชชาไม่เข้าใจ เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่เธอพบว่าเธอ กับดวิษ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เรื่องเดิมเกิดซ้ำซาก ช่างปวดใจเหลือเกิน จะให้เธอเชื่อได้อย่างไร จะอธิบายได้อย่างไรอีก? เธอแค่ไม่เห็นฉากความสัมพันธ์ลึกซึ้งของทั้งสอง ... เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องเหล่านี้ คิดถึงเขาแอบอิงแนบกายกับผู้หญิงคนอื่น เธอทั้งเจ็บ ทั้งจุกที่หน้าอกจนหายใจไม่ออกเหมือนถูกทับด้วยหินนับตัน นัชชายกมือขึ้นขยำอกเสื้อ ราวกับว่ามันจะทำให้ความเจ็บปวดของใจเธอทุเลาลงได้ ดวงตาเบลอไปด้วยน้ำตา มองไม่เห็นอะไรเลย เงียบสะงัดเป็นเวลานาน ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ร้องไห้โฮออกมา "ฮืออออ ... ทำไม ทำไมกัน ... " เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว พวกเขาทำอะไรอยู่นะ? ปณิตาส่งข้อความให้ตัวเอง เตชิตจะรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไหม? ถ้าเขารู้ ทำไมมันถึงเงียบขนาดนี้ ไม่มีแม้แต่สักคำถามไถ่ แต่ถ้าเขาไม่รู้ ในตอนแรกเขาวางแผนว่าจะขึ้นเตียงกับปณิตาอย่างนั้นหรอ? ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์แบบไหน ก็ล้วนแต่ทำให้เธอรับไม่ได้ทั้งนั้น อยากหาข้อแก้ต่างแทนเขา แต่มันก็คิดอะไรไม่ออกเลย เตชิต เตชิต…… สองคำนี้ดูเหมือนจะจารึกไว้ในใจของเธอลึกเข้าไปถึงกระแสเลือด มันถึงได้รู้สึกเจ็บปวดมากขนาดนี้ นัชชาเช็ดน้ำตาออก มองดูทุกสิ่งรอบตัวด้วยแววตาขุ่นมัว เมื่อก่อนเขาซึ่งให้ความอบอุ่นแก่เธอ แต่ตอนนี้มันช่างเย็นชาเยือกเย็นจนหาที่สุดมิได้ บางที ไม่ควรเชื่อคุณตั้งแต่แรก เรื่องของเรามันไม่ควรเริ่มตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ
已经是最新一章了
加载中