ตอนที่ 123 ไม่มีเธอไม่ได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 123 ไม่มีเธอไม่ได้
ตอนที่ 123 ไม่มีเธอไม่ได้ หลังออกมาจากร้านกาแฟ นัชชาไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลย เรียกรถแท็กซี่กลับที่พักของเธอ ประตูห้องถูกเปิดออก อันตรายทั้งหมดได้ออกไปจากเธอหมดแล้ว เธอมองดูจินต์นอนหลับอย่างสบายบนโซฟา แถมยังลืมเปลี่ยนเสื้อ มันทำให้นัชชารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าจะทำเขาตื่น เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำ ให้เสียงน้ำไหลดัง และ น้ำตาก็ไหลออกมาราวเขื่อนแตกอีกครั้ง เธอไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง พยายามอดกลั้นไว้ เมื่อคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นทั้งหมด กลับทำให้เธอคิดถึงคนหนึ่งในเวลานี้ ผู้ชายที่ช่วยเธอในเวลาที่เธอตกอยู่ในอันตรายทุกครั้ง คนที่ให้โอกาสเธอได้กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง จู่ๆนัชชารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ครั้งนี้เตชิตจะวางมือไม่ยุ่งกับเธอจริงหรือไม่นะ? จะเป็นไปได้ไหม……ที่แท้จริงแล้วเขาไม่เคยตามหาเธอเลย? นัชชาไม่อยากคิดมากไปกว่านี้ เกรงว่าตัวเองจะคิดไปไกลจนทนไม่ไหว การนอกใจของดวิษทำให้เธอยิ่งต้องระมัดระวังในเรื่องของความรู้สึก เมื่อตอนที่ปณิตารับสายโทรศัพท์ ตอนที่ส่งภาพนั้นมาให้ ใจของเธอแทบจะพังทลายแหลกเป็นเสี่ยงๆ สิ่งที่เธออยากได้มันก็แค่อยากให้คนที่ตัวเองรักรักตัวเธอเองเหมือนกัน ทำไมมันช่างยากจังเลยนะ? นัชชาไม่รู้เหมือนกัน ใจหนึ่งก็ภาวนาไม่อยากรีบเจอเขา อีกใจก็หวังว่าเขาจะหาเธอเจอ จริงๆแล้วเธอรักเขามาก เพียงแค่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง …… ตอนเตชิตได้รับข้อความจากนัชชา มันก็เข้าวันที่สามแล้ว หลังจากไล่ดูข้อความต่างๆจากนัชชาแล้ว เขาก็เปิดเจอข้อมูลเที่ยวบินของจินต์พอดี เที่ยวบินเดียวกับนัชชา และเข้าพักที่โรงแรมสุดหรูในท้องที่นั้น หลังจากคอนเฟิร์มกับพนักงานโรงแรมแล้ว จึงมั่นใจว่าผู้หญิงทั้งสองเข้าพักในห้องเดียวกัน ในเมื่อรู้สถานที่ชัดเจนแล้ว เตชิตเร่งทำงานเพื่อตามหาคนที่หายไปติดต่อกันสองวัน ไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเต็มที่ นอกจากตอนทำงานแล้ว เวลาอื่นเขาดูไม่มีแรง จิตใจห่อเหี่ยว ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เป็นถึงซีอีโอของบริษัทตัวเอง แต่นับวันสีหน้าดูแย่ลงเรื่อยๆ พนักงานแต่ละคนถูกด่าถูกว่าจนเป็นปมชีวิต หลังจากตรัณส่งข่าวให้เตชิต เขารีบจองตั๋วเครื่องบินที่เร็วที่สุด ไม่มีเฟิร์สคลาส ไม่มีชั้นธุรกิจ เครื่องบินส่วนตัวก็ทำเรื่องไม่ทัน งั้นไปเบียดนั่งชั้นประหยัดแล้วกัน ก่อนออกเดินทาง ปรัณไม่อาจวางใจในสภาพร่างกายและอารมณ์ของเขาได้ จึงตั้งใจเดินทางมาไวโรจน์วิลล่า เพื่อมาหาเขาโดยเฉพาะ เมื่อเปิดประตูคฤหาสน์สุดหรูเข้ามา มีกลิ่นควันคละคลุ้งไปทั่ว เขาเป็นคนไม่ค่อยสูบบุหรี่ เมื่อสูดควันเข้าไปขนาดนี้ เกิดอาการไอเล็กน้อย “นี่แกจะจุดไฟเผาบ้านหรอ?” บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ไม่แม้แต่หันหลังมามอง เพียงแค่มองจากด้านหลังก็สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าและความร้อนใจ ปรัณเดินตรงเข้าไปหาเขา ที่เขี่ยก้นบุหรี่คริสตัลบนโต๊ะน้ำชาเต็มไปด้วยก้นบุหรี่ ข้างๆไม่มีซิการ์ แต่มีร่องรอยของเถ้าบุหรี่เป็นจำนวนมาก มากจนทำเขาตกใจ “สูบเยอะขนาดนี้ ไม่อยากมีปอดแล้วหรือไง?” ปรัณโมโหเล็กน้อย ยื่นมือไปจะดับบุหรี่ที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่เขากลับหลบไป “ไม่สูบก็ไม่มีแรง” สั้นๆห้าพยางค์ ทำให้ปรัณตื่นตัวขึ้นมาทันที ตะโกนออกมาทั้งชื่อและนามสกุลเขา “เตชิต ถ้าจะสูบแบบนี้ต่อไป คนก็ยังหาไม่เจอ แกนั่นแหละที่จะไปก่อน” เตชิตส่ายหัว ยิ้มเบาๆ “ช่างมันเถอะ ขอเพียงแค่ตามหาเธอให้เจอ” ปรัณโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา “เพื่อผู้หญิงคนเดียว ทำตัวเองเป็นบ้าแบบนี้ คุ้มนักหรือไง?” “คุ้ม” เขาเงยหน้าขึ้นมาเผชิญสายตาอีกฝั่ง นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีแดงสด ไม่ได้นอนเต็มอิ่มติดกันสองสามคืน เหนื่อยจนแทบขาดใจ “เพราะว่าเป็นเธอ มันจึงคุ้ม” ปรัณถูกสะกดด้วยความยืนหยัดและตั้งใจของเขาจนตกตะลึง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาทำทุกอย่างจนแทบเป็นบ้าเพื่อคนคนเดียว? คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ยังใช่ผู้ชายคนที่ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรก็ตามมักจะคิดพิจารณาถึงคุณค่าหรือผลลัพธ์เสมอ? ไม่ เขาไม่ใช่ คนที่อยู่ตรงหน้า เขาคิดถึงเพียงแค่นัชชา ส่วนเรื่องอื่นล้วนอยู่นอกสายตา นาทีนี้ ปรัณรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนและความรู้สึกในตัวเพื่อนเขาอย่างแท้จริง จนตัวเขาเองยังมีความรู้สึกเลื่อมใสในความคิดของเพื่อนคนนี้ เขาไม่สงสัยเลยสักนิด แม้ว่าร่างกายเขาจะโทรมจนรับไม่ไหว เขาคนนี้หากจะสลบลงไป ก่อนหมดสติคงจะร้องเรียกแต่นัชชาอย่างแน่นอน สายตาทั้งสี่จดจ้องเข้าหากัน เป็นความรู้สึกระหว่างลูกผู้ชายสองคนที่รับรู้ซึ่งกันละกัน ปรัณเห็นสภาพเขาในตอนนี้ ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จู่ๆก็คิดอะไรขึ้นมาได้ “แม้ว่าตัวแกเองจะไม่สนใจดูแลตัวเอง แต่แกก็ไม่หวังให้นัชชามาเห็นคนสกปรกโสโครก อ่อนแอแบบแกใช่ไหม?” ในที่สุด คำพูดนี้ก็ได้ผล เตชิตนิ่งไปสองวินาที หยิบบุหรี่ขึ้นมาดับ ลุกขึ้นไปที่ชั้นสอง ปรัณมองดูเขาท่าทางหงอยเหงา “แกจะไปไหน?” “กลิ่นบุหรี่แรงไป ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” “……” โอเค เขารู้สึกว่าสติเตชิตไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว นี่มันนานเท่าไหร่แล้ว เขายังมากังวลเรื่องกลิ่นบุหรี่อีก?เกรงว่าจะกลัวนัชชาไม่คุ้นชินกลิ่นมากกว่าสิ! ดูเหมือนเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของปรัณ เขายืนนิ่งอยู่ที่บันไดทางขึ้น เสียงค่อนข้างแหบ “หวังว่านายจะเข้าใจ ฉันขาดเธอไปไม่ได้” …… หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ณ สนามบินเมืองJ เที่ยวบินที่จะเดินทางสู่เมืองH ออกเดินทางตรงเวลา นอกจากตอนไปเรียนเมืองนอกแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขานั่งชั้นประหยัด ตรัณยังคงไม่วางใจ ยืนหยัดที่จะตามเขาต่อไป เตชิตก็ไม่ได้ห้ามเขาไว้ มองดูคนข้างๆอยู่ในที่อันแสนแคบ ซีอีโอบริษัทนั่งอยู่ในที่แขนขาแทบจะยืดออกไม่ได้ ตรัณรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก “ท่านเตชิตครับ เชิญพักผ่อนก่อนนะครับ หากเครื่องบินถึงที่หมายแล้ว ผมจะแจ้งให้ทราบครับ” เตชิตทำเหมือนจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ด้านข้างคือหน้าต่าง เขายื่นมือไปเปิดที่กันแดด มองดูกลุ่มเมฆน้อยใหญ่ รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา “นายคิดว่าตอนที่เธอไปจากฉัน ในใจจะรู้สึกยังไงกันนะ” จะลังเลรึเปล่า ตัดใจไม่ลงหรือไม่ จะเสียใจหรือเป็นทุกข์บ้างไหม? เขาไม่กล้าที่จะคิด กลัวนัชชาจะให้คำตอบที่โหดร้ายกับเขา ช่วงเวลาที่ศาลตัดสินให้ชนะคดี เธอกลับหายไปอย่างไร้วี่แวว เขาไม่รู้เหตุผลการจากไปของเธอด้วยซ้ำ มันทำให้เขาคิดมากอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ มีความหวังมากว่า เธอก็คงตัดใจยากเหมือนกับเขาเช่นกัน …… ตลอดเที่ยวบินอันแสนราบรื่น ใช้เวลาบินเกือบสามชั่วโมง เครื่องบินจึงจะลงจอดอย่างปลอดภัยที่ท่าอากาศยานเมืองH ประตูเครื่องบินถูกเปิดออก ผู้คนจำนวนมากเดินจากไปที่ทางออกอย่างต่อเนื่อง สายลมอันแสนอบอุ่นพัดเข้ามา ต่างกับหิมะอันแสนหนาวเย็นที่เมืองJ อย่างมาก เมื่อออกจากสนามบิน คนขับรถรอเขาอยู่ข้างถนน นำสัมภาระย้ายขึ้นช่องเก็บของในรถ เตชิตมองดูผู้คนที่กำลังรีบเร่งบนท้องถนน เงาของสาวน้อยคนหนึ่งค่อยๆปรากฏตรงหน้าเขา เขาเหมือนจะมองเห็นเธอกำลังลากกระเป๋าอยู่คนเดียว ยืนอยู่ตรงทางม้าลายเพื่อรอสัญญาณไฟแดง ด้วยท่าทีอันแสนเรียบร้อย เพียงแค่คิดขึ้นมา เขาก็เจ็บปวดใจเหลือเกิน คนขับรถมองกลับมาเห็นนายใหญ่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่ที่เดิม เปิดประตูออกพร้อมพูดว่า “เชิญขึ้นรถครับท่าน” ชายคนนั้นจึงจะดึงสติกลับมา พลางเดิน ก้มลง โน้มตัวเข้าไปในรถ มองดูวิวถนนนอกหน้าต่างด้วยความเร็วที่เชื่องช้า เขาเปิดมือถือดูGPS จุดหมายคือโรงแรมที่เธอพัก มองดูระยะทางที่ค่อยๆสั้นลง อีกนิด อีกนิดเดียวก็จะได้เจอเธอแล้ว คิดมาถึงจุดนี้ หัวใจดวงนั้นที่กำลังอ่อนแอกลับขึ้นมาเต้นอีกครั้งหนึ่ง “ขับเร็วหน่อย” เขาบอกกับคนขับแบบนี้เป็นปกติ แต่น้ำเสียงในครั้งนี้เต็มไปด้วยความกลัวและร้อนรน ซึ่งมีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ดี
已经是最新一章了
加载中