ตอนที่ 151 ความร่วมมือของศัตรูหัวใจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 151 ความร่วมมือของศัตรูหัวใจ
ตอนที่ 151 ความร่วมมือของศัตรูหัวใจ สิ้นเสียงปลายสาย แม้แต่เตชิตก็ยังมองข้ามเขาไป ด้วยสายตาคมกริบปนความแปลกประหลาดใจ นัชชาจากเดิมที่รู้สึกปวดร้อนในหัวอยู่แล้วก็เพิ่มความปวดหนักเข้าไปอีก "พี่ธนัท จินต์เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน พี่ทำแบบนี้ ฉัน…" พูดยังไม่ทันจบ หญิงสาวก็พูดอะไรไม่ออก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคนที่เธอคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดี จินต์เป็นเพื่อนสนิทเธอมาหลายปี ธนัทเองก็ช่วยเหลือเธอไม่น้อยเรื่องการทำงาน ตอนนี้เธอก็เหมือนน้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ได้ เตชิตมองหญิงสาวที่ตัวสั่นเล็กน้อย นิ้วมือทั้งห้าตึงและเกร็งอยู่ด้านข้างขาเธอ กลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่อยู่รวบตัวเธอมากอดไว้ในอก ธนัทถอนหายใจออกมาเบาๆ "นัชชา นี่มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับคุณจินต์ ผมจัดการเอง ผมรู้ว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่เรื่องเมื่อคืน ผมไม่ได้บีบบังคับอะไรเธอ เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิด ผมขอร้องเรื่องนี้ผมขอจัดการด้วยตนเอง ได้มั้ย" นัชชารู้สึกหายใจติดๆขัดๆ "ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรจะเข้ามายุ่งเรื่องนี้ และไม่มีสิทธิ์ที่จะมายุ่งด้วย แต่เพราะจินต์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของฉัน ถ้าสำหรับพี่แล้วเรื่องจินต์เป็นแค่อุบัติเหต ฉันก็ขอให้มันจบตรงนี้เถอะค่ะ" ในเมื่อเราไม่สามารถลบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วได้ เธอจึงไม่อยากให้จินต์ต้องถูกทำร้ายจิตใจไปมากกว่านี้ เมื่อนัชชาพูดจบ ธนัทผู้ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉยดุจน้ำแข็งมาโดยตลอดสีหน้าค่อยๆเปลี่ยนไปเหมือนคลื่นที่กำลังพัดเข้าหาฝั่ง คำพูดของนัชชาเหมือนบอกเขาเป็นนัยว่าถ้าหากไม่ชอบอีกฝ่ายก็อยู่ห่างๆ อย่าไปทำร้ายเพื่อนเธออีกเป็นอันขาด อยู่ๆในหัวธนัทตอนนี้เหมือนกำลังฉายภาพเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานซ้ำอีก หญิงสาวผิวขาวละเอียด บวกกับนัยตาที่หลงใหลฉ่ำรื้น รวมถึงภาพของรอยคราบเลือดสีแดงสดบนผ้าปูเตียงก่อนที่สะท้อนในแววตาก่อนจะจากไป ภายในสำนักงานเข้าสู่สภาวะเงียบงันชั่วขณะ อากาศเหมือนจะกลั่นตัวเป็นน้ำ แม้แต่จะหายใจนัชชาก็ยังไม่กล้า อยู่ๆผู้ชายที่นั่งด้านข้างก็ขยับตัว เธอเลื่อนสายตาไปมองโดยไม่รู้ตัว เป็นเตชิตเองที่ขยับขา ขาเรียวยาวสองข้างที่อยู่ภายใต้กางเกงนั้นแข็งแกร่ง เตชิตค่อยๆกางขาออก ยืดลำตัวขึ้น ริมฝีปากบางเริ่มขยับ เสียงที่เย็นเยียบไร้อารมณ์ "ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง ก็อย่ายุ่ง" ประโยคนี้ของเตชิต อาจจะทำให้เธอโกรธแต่เขาก็พูดด้วยความจริงใจและเป็นห่วงเธออย่างแท้จริง แต่น่าเสียดายที่เมื่อวานนัชชาเองก็โกรธเขาอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงยิ่งทำให้เธอโกรธหนักขึ้น ไม่ว่าจะพูดยังไงเธอก็ไม่ฟัง มีแต่จะหาเหตุผลข้ออ้างขึ้นมาสู้ "ฉันบอกแล้วไง ว่าจินต์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน..." เตชิตไม่รอให้เธอพูดจบ รีบขัดขึ้นมาว่า"เพื่อนเหรอ เรื่องก่อนหน้านี้คุณลืมไปแล้วเหรอ คุณอย่าคิดว่าคุณทำดีกับเขาแล้วเขาจะเห็นความดีของคุณ" เรื่องที่เตชิตพูดถึง ก็คือเรื่องของเธอกับปณิตา สิ่งที่ปณิตาตอบแทนความเป็นเพื่อนของเธอ ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งเสียใจ เรื่องที่ผ่านมาในอดีตก็เหมือนเป็นแผลในจิตใจของเธอ ประโยคนี้ที่เขาพูดก็เปรียบเหมือนเกลือที่ทาลงบนแผลของเธอ ในความรู้สึกของเขา เธอคงน่าสมเพชมาก ทั้งหมดเป็นที่สิ่งที่เธอก่อขึ้นและเธอก็สมควรจะได้รับกรรม นัชชากระพริบตาเร็วสองครั้ง ความรู้สึกในใจตอนนี้ถูกหล่อหลอมและแสดงออกมาจากรอบๆดวงตาสีแดงก่ำ เธอพยายามจะฝืนยิ้มออกมา แต่ริมฝีปากก็รู้สึกหนักอึ้งจนยิ้มไม่ออก" ได้ เป็นเพราะฉันที่มันคิดเองเออเองอยู่คนเดียว พอใจหรือยัง" พูดจบเธอก็หมุนตัววิ่งออกไปด้านนอกทันที เหมือนกับว่าหากอยู่ต่อไปนิดอีกเธออาจจะต้องจบชีวิตตรงนี้ก็เป็นได้ ธนัทมองแผ่นหลังของหญิงสาวค่อยๆลับสายตาไป แล้วหันมาพูดกับเตชิตว่า" นี่คือทะเลาะกันแล้วใช่มั้ย" ชายหนุ่มยังคงมองไปที่ด้านหลังของหญิงสาว มองจนลับสายตาเขาถึงหันกลับมา" อืม ช่วงนี้มีแต่เรื่องยุ่งๆ เธอก็ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้ว เมื่อคืนที่บาร์ก็ดื่มหนักไปหน่อย ยังไม่ทันได้ปรับความเข้าใจกัน เธอก็มาใส่อารมณ์กับกุซะก่อนเนี่ย" "นัชชาอายุยังน้อย มีอะไรก็ค่อยๆพูดกัน แกก็อย่าไปตั้งแง่มาก ผู้หญิงตัวเล็กๆเค้าไปเถียงสู้แกไหวเรอะ" เตชิตยกริมฝีปากล่างขึ้นเล็กน้อย สีหน้ายังคงเคร่งขรึม "ตอนนี้ที่เขตเหนือก็มีเรื่องยุ่งๆ รอให้พ้นช่วงนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน" "ก็ดี" ธนัทตอบ "ไปละ" เตชิตกล่าวพร้อมหยิบเอกสารสองชุดบนโต๊ะ ยืนขึ้นแล้วกำลังจะก้าวขาออกไป แต่ก็ต้องสะดุดเล็กน้อยกับเรื่องที่เขาฉุกคิดขึ้นมากะทันหัน "เรื่องของจินต์ แกก็จัดการเองละกันนะ แต่อย่าให้มันล้ำเส้นมากนัก" ธนัทชะงักเล็กน้อย กำลังจะหันไปตอบ คนพูดก็ก้าวออกไปนอกห้องรวดเร็วอย่างกับลมพัดแล้ว มองเห็นหลังไวๆ ธนัทได้แต่ส่ายหัว เตชิตเองก็แคร์คำพูดของนัชชาอยู่อย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่วายตั้งแง่กับเธอ ………….. อีกด้าน ปณิตาที่ตอนนี้ที่ไม่มีตระกูลฤทธิเดชคอยปกป้องให้ท้ายแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวเธอพบได้อย่างรวดเร็ว เธอโดนตรวจสอบและพบว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เตชิตโดนวางยาที่เมืองQ เรื่องนี้จะว่าเล็กก็ไม่เล็กใหญ่ก็ไม่ใหญ่ซะทีเดียว หากมองจากข้อหาที่เบาที่สุดก็น่าจะเป็น ข้อหาคุกคามก่อกวน แต่หากพิจารณาอีกมุมอาจจะโดนข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่ ซึ่งจะต้องโทษจำคุก บวกกับเตชิตที่จะต้องพยายามเข้ามาวุ่นวายในคดีนี้ ปณิตารู้ดีว่าเรื่องนี้ตนเองจะต้องรับผลกรรมที่ทำไว้แน่นอน ก่อนที่ตำรวจจะมาควบคุมตัวเธอไป เธอตัดสินใจหนี โดยไม่ได้นำทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปด้วย มีเพียงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีเท่านั้น ระหว่างที่หลบหนี ในใจก็รู้สึกหวาดผวา คิดอยู่ตลอดว่าพอจะมีใครช่วยเธอได้บ้าง แต่ก็ไม่มี ภายใต้สภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ตกต่ำอยู่ๆเธอก็นึกถึงเบอร์โทรลึกลับเบอร์นั้นขึ้นมา กัดฟันตัดสินใจโทรออกไป โทรศัพท์ดังอยู่สักพักจึงมีคนรับสาย เสียงแหบๆของผู้หญิงปลายสายดังขึ้น "ฮัลโหล มีเรื่องอะไร" น้ำเสียงของเธอเดาได้ว่าจำเธอได้ "เมื่อก่อน คุณ คุณเคยบอกว่าคุณสามารถช่วยฉันได้ ตอนนี้ฉันกำลังหนีการจับกุมของตำรวจที่สืบคดีของเมืองQ ฉันไม่รู้จะไปที่ไหน คุณช่วยฉันหาวิธีหน่อยได้มั้ย"ปณิตาเสียงสั่นๆพูดติดๆขัดๆสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวในใจของเธอ ในขณะเดียวกัน ทีนาร์ยืนอยู่ในห้องนอนบนชั้นสองของคฤหาสน์ สายตาทอดออกไปนอกหน้าต่างมองดูต้นฮอลลี่ที่อยู่ในสวนกำลังพริ้วไหวรับลมหนาว ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจอีกฝ่าย "ถ้าเธอบอกฉันก่อนหน้านี้ ฉันอาจจะยังพอช่วยเธอได้ ตอนนี้ตำรวจกำลังตามล่าเธออยู่ เธอมาหาฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้" "แล้วฉันจะทำยังไง คุณเคยบอกฉันว่าอีกหน่อยจะให้ฉันไปช่วยงานคุณไม่ใช่เหรอ ถ้าหากฉันถูกจับฉันต้องถูกตัดสินให้ติดคุกแน่นอน…"พูดมาถึงตรงนี้ปณิตารู้สึกกลัวจนพูดไม่ออก เริ่มสะอื้นออกมา ทีนาร์ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของอีกฝ่าย จึงรีบเอาโทรศัพท์ยกหนีออกจากหู รอให้ปลายสายสงบลงแล้วจึงพูดว่า "งั้นเธอหาที่หลบซ่อนตัวก่อนสักสามวัน แล้วฉันจะติดต่อไป" "ห๊ะ สามวัน" ปณิตาดูไม่ค่อยจะพอใจกับคำตอบของอีกฝ่าย ตอนนี้เทคโนโลยีทันสมัยทุกอย่างก็ตรวจสอบได้หมด ฉันเกรงว่ายังไม่ทันถึงสามวันก็จะถูกจับได้ซะก่อน…" ถ้าถูกจับได้ก่อน ฉันก็ช่วยไม่ได้ แต่หลังจากสามวันฉันจะมีงานให้เธอทำ ถ้าเธอทำสำเร็จ ฉันรับรองว่าเธอจะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ" ทีนาร์ยื่นข้อเสนอให้ปณิตา เป็นข้อเสนอที่ไม่ต้องเสียเวลาโน้มน้าวอะไร เหมือนเป็นการหลอกใช้เสียมากกว่า เพราะเธอรู้ดีว่าสภานการณ์ของปณิตาตอนนี้เหมือนสุนัขจนตรอก นอกจากเธอแล้ว ก็ไม่มีใครที่ไหนจะช่วยได้ "คุณพูดจริงเหรอ" ปณิตาถามด้วยความไม่มั่นใจ ทีนาร์หัวเราะปนดูถูกออกมา"ฉันจะหลอกเธอเพื่ออะไร" ได้ยินเสียงยืนยันจากปลายสาย ปณิตาจึงพูดต่อว่า "ได้ สามวันก็สามวัน ฉันจะรอคุณติดต่อมา"
已经是最新一章了
加载中