ตอนที่ 156 ถึงเวลาที่จะต้องออกไปพบเจอเธอสักที!   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 156 ถึงเวลาที่จะต้องออกไปพบเจอเธอสักที!
ตอนที่ 156 ถึงเวลาที่จะต้องออกไปพบเจอเธอสักที! มื้ออาหารเย็นที่อบอุ่น ต้องถูกทำลายเพราะเธอ นัชชารู้สึกผิดอย่างมาก ยิ่งเห็นเตชิตยืนอยู่คนเดียว เธอยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น เธอเป็นคนซื่อๆ คิดอย่างไร อารมณ์แบบไหนก็แสดงออกมาบนสีหน้าหมด เตชิตมองเพียงครู่เดียว ก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาปวดใจพรางดึงเธอเข้ามาใกล้ "จะหลบฉันทำไม จุดประสงค์ที่พวกเขามาหาเราก็ไม่ใช่ว่าจะมาทานมื้อเย็นสักนิด ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ” เขาหวังว่าเธอจะบ่นกับเขาสักคำ หรือตัดพ้อต่อว่าสักนิด ยังดีกว่าเธอเอาความผิดทั้งหมดลงไว้ตัวเธอคนเดียว นัชชามือเท้าชาไปหมด วันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย จนบรรยายออกมาไม่ถูก เธอคิดมาเสมอว่าการที่เธอตกหลุมรักเขามันช่างเหนื่อยมากมาย แต่ไม่เคยนึกว่าเขาต้องแบกรับอะไรมากมายขนาดนี้ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้หญิงที่ตนรัก แต่เพื่อเธอเขาต่อสู้อย่างไม่ลังเล และเพราะแบบนี้เธอจึงปวดใจยิ่งนัก เตชิตกุมมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้แน่นพอๆกับความแน่วแน่ที่อยู่ในใจเขา "ทุกอย่างต้องดีขึ้น ไม่ต้องคิดมากนะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเถอะ" นัชชาสูดลมหายใจลึก แล้วพยักหน้า "ฉันรู้ดีว่าอดีตของฉันเทำให้คุณหนักใจ แต่ว่าเตชิต ขอให้คุณจับมือฉันไว้ ฉันสับสนจริง ๆ หากวันหนึ่งคุณอยากจะปล่อยมือฉันไป ขอแค่บอกฉัน ฉันจะไม่รั้งคุณไว้ " เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หัวใจของเตชิตเหมือนโดนต่อยอย่างแรงจนจุก เขาไม่เพียงปล่อยมือเธอแต่กลับกุมมือไว้แน่นยิ่งขึ้น "ถ้าหากเธอยินดี ฉันจะไม่ยอมปล่อยมือเธอไปอย่างเด็ดขาด " นัชชาเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เธอสงบอารมณ์ที่อยากร้องไห้อยู่นาน และตอบเขาด้วยเสียงสั่นแต่หนักแน่นว่า "ค่ะ" เมื่อพูดจบ เตชิตก้มลงอุ้มเธอขึ้นในทันใด …… หลังจากคุณตาคุณยายของเตชิตออกมาจากไวโรจน์วิลล่า ทีนาร์ก็รู้ข่าว ปวีณไม่อยากบอกเรื่องนี้กับเธอ แต่ทนไม่ไหวเพราะเธอบังคับให้เล่าให้เธอฟัง หลังจากได้ข่าวว่าคุณตาคุณยายได้มาพบกับนัชชา ทีนาร์ก็ทำใจเย็นลงไม่ไหว คิดจินตนาการอยู่เต็มหัวว่าพวกเขาทำอะไรกัน คุยอะไรกัน แล้วผู้ใหญ่ทั้งสองจะยอมรับในตัวของนัชชาหรือไม่ หากว่า ... ทีนาร์ส่ายหัว ไม่มีหากว่า เธอรับไม่ได้ถ้าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง! เธอต้องเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว ทีนาร์ขึ้นไปบนห้อง เธอกำลังจะไปไขกุญแจลิ้นชักเพื่อหยิบมือถือของตนออกมา อารมณ์ที่สับสนวุ่นวายใจของเธอยังไม่ทันได้สงบลง ด้วยความรีบร้อนทันใดนั้นเธอเซจนเกือบเสียหลักล้มลงกับพื้น ปวีณรีบก้าวเข้าไปประคองเธออย่างรวดเร็ว ฝ่ามือเขาแตะไปที่มือของเธอ ครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดกับเธอขนาดนี้ หัวใจของเขาเต้นระส่ำ "ทีน่าร์ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ตั้งแต่ที่เขาพูดคุยอย่างเปิดเผยกับเธอ เมื่ออยู่กันตามลำพังเขาก็ไม่ได้เรียกคุณทีน่าร์อีก แต่เรียกชื่อเธอเฉยๆแทน ทีนาร์รู้สึกคลื่นไส้ รีบทรงตัว และดึงมือของเธอกลับมาอย่างเร็ว "ฉันไม่เป็นไร" พูดจบ เธอแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงหมดแรง ขอให้ปวีณช่วยไปหยิบโทรศัพท์ให้ "คุณช่วยไปหยิบโทรศัพท์ในลิ้นชักบนหัวเตียงมาให้ฉันหน่อยได้ไหม" ปวีณคิดว่า เธอต้องร้อนใจและจะต้องโทรหาเรื่องนัชชาเป็นแน่ ทันใดนั้นเขาก็ทำสีหน้าลำบากใจ " ทีน่าร์ คุณรู้ว่าผมเป็นคนของคุณเตชิต ผมไม่สามารถบอกอะไรกับคุณได้ หากตอนนี้คุณไปหาเรื่องคุณนัชชา ผมกลัวว่าเรื่องของเรามันจะแดงขึ้นมา แล้วผมก็จะไม่สามารถอยู่ข้างๆคุณได้อีก ... " “คุณกลัวหรือไง?” ทีนาร์ตัดบท สายตาจับผิดมองไปที่เขาๆหลบสายตา ในใจรู้สึกดูถูกผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูดแก้ตัวว่า "คุณวางใจเถอะ ฉันจะโทรหาคนอื่นไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้หรอกนะ " คนอื่น? ปวีณลังเลอยู่ครู่หนึ่งนึกถึงปณิตา หรือว่าเธอจะโทรหาปณิตา? เมื่อเห็นว่าเขาเกิดความสงสัย ทีนาร์มองต่ำ ชำเลืองมองแล้วทำท่ามือเท้าอ่อน ล้มลงอ้อมอกของปวีณโดยไม่ตั้งใจ "โอ้ย ... " “เป็นอะไรไปครับ? ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ!” ความสงสัยของปวีณถูกขัดจังหวะ รู้สึกเป็นห่วงผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขามาก แม้ว่าผิวกายภายใต้เสื้อผ้าของเธอไม่ได้สัมผัสกับเขาโดยตรง ทีนาร์ก็รู้สึกขยะแขยงเต็มทน แต่เธอไม่ได้รีบพละจากอ้อมแขนของเขาทันที แต่ทำทีเป็นอ่อนปวกเปียกซบอกชายผู้นั่น "ฉันเวียนหัว เธอช่วยอุ้มฉันเข้าไปในห้องหน่อยได้ไหม " ปวีณเป็นห่วงสภาพร่างกายของเธอ จึงค่อยๆย่อตัวอุ้มหญิงที่อยู่ในอ้อมอกขึ้น ตอนอุ้มเธอเดินไปที่ห้องผิวกายหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเสียดสีกันบ้าง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมีความคิดฟุ้งซ่านเล็กน้อย แม้ว่าตอนนี้ทีนาร์จะไม่สบาย ร่างกายของเธอยังอ่อนแอ แต่ก็ยังเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แม้ว่าเธอเป็นคนผอมบาง แต่ผิวกายของเธอขาวอย่างกับหิมะ ปวีณอดที่จะจินตนาการไม่ได้ บังเอิญถ้าเธอใส่ชุดนอนต่อหน้าของเขา กระดุมหลุดออกสักสองสามเม็ด มันทำให้ผู้ชายคนหนึ่งคิดจินตนาการไปได้ไกลทีเดียว เมื่อคิดถึงตรงนี้มือที่กำลังอุ้มเธออยู่ที่จับแน่นขึ้น ปลายนิ้วของเขาที่จับข้อพับขาของเธอเริ่มแน่นขึ้น สีหน้าของทีนาร์ซีดลง แต่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ในที่สุดก็เข้าไปในห้องนอน ปวีณอุ้มพาเธอขึ้นไปนอนบนเตียง ทีนาร์ดึงลิ้นชักตู้ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนโทรออกเธอมองไปที่ผู้ชาย ที่ยังยืนอยู่ด้านข้าง "คุณออกไปก่อนเถอะ" "คุณอยู่คนเดียวได้หรือ?" ถ้าฉันอยู่คนเดียวไม่ได้ แกจะอยู่กับฉันหรือไง? ภายในใจของทีนาร์ยิ้มเยาะท่าทีของปวีณ เป็นแค่คนชั้นต่ำแท้ๆไม่รู้จักตักนํ้าใส่กะโหลกชะโงกดูเงา เป็นแค่คางคกอยากสะเออะจะกินเนื้อหงส์ ถ้าไม่ใช่ว่าแกยังพอมีประโยชน์กับฉันอยู่บ้าง จ้างให้ฉันก็ไม่แยแสแกหรอก "ทีน่าร์?" เมื่อเห็นว่าเธอนิ่งไป เขาจึงเรียกชื่อเธอด้วยความเป็นห่วง ทีนาร์ดึงความคิดกลับมา พร้อมยิ้มอย่างอ่อนแรง“ ฉันไม่เป็นไร บางทีฉันอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ อย่ากังวลไปเลย ถ้าฉันมีอะไรค่อยเรียกคุณ” "ได้ครับ ผมจะอยู่ข้างนอกห้อง คุณมีอะไรก็เรียกผมได้ตลอดเวลา" “อืม คุณออกไปก่อนเถอะ” มองดูปวีณค่อยๆเดินออกไป จนปิดประตูห้องลง“กึก”ทีนาร์ก็ปลดความเสแสร้งบนใบหน้าออก ทำหน้าเย็นชากดมือถือโทรออกหาปณิตา โทรศัพท์ดังขึ้นสองสามเสียงก็ถูกรับสาย เสียงของอีกฝ่ายรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย "นี่ ในที่สุดเธอก็ติดต่อฉัน ... " “อย่าไร้สาระ ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว เธออยากคว้ามันเอาไว้ไหม?” ทีนาร์ไม่มีอารมณ์ที่จะฟังคำพูดไร้สาระของเธอ จึงถามไปอย่างตรง ๆ คนปลายสาย มองดูสภาพที่อยู่รอบ ๆ ตัวเอง มีแค่เตียงดิน กับบ้านซอมซ่อในที่กันดาร ปณิตาพูดกัดฟันด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น " ตอนนี้ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แม้ออกไปเดินข้างนอกยังต้องคอยระวังจะถูกตำรวจจับ หากฉันมีโอกาส ไม่ต้องให้เธอมาถามฉันจะคว้ามันมาแม้ต้องแลกด้วยชีวิต" เมื่อพูดถึงตรงนี้เธอก็หยุด และหยิบบุหรี่ราคาถูกไม่ถึงห้าสิบบาทขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงที่ใส่จนสีซีด ขึ้นมาหนึ่งม้วนจุดสูบ สูดหายใจเข้าลึก แล้วยิ้มเบา ๆ "พูดมา มีอะไรให้ ฉันทำ " ทีนาร์สูดหายใจเข้าลึก มือของเธอจิกไปที่ผ้าห่มจนยับย่น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า "วันนี้คุณตาคุณยายของเตชิตไปที่ไวโรจน์วิลล่า ได้เจอกับนัชชาแล้ว เพราะฉะนั้นต้องรีบดำเนินการตามแผนที่ฉันวางไว้ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ฉันจมปลักอยู่ที่นี้นานเกินไปแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องออกไปพบเจอเธอสักที!”
已经是最新一章了
加载中