ตอนที่ 12 : บุกเดี่ยวสุสาน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 12 : บุกเดี่ยวสุสาน
ตอนที่ 12 : บุกเดี่ยวสุสาน ฉันรู้สึกว่าพลังทั้งหมดของร่างกายกำลังจะถูกดูดออกไป อ่อนระทวยไปทั้งตัว ขณะที่ฉันหายใจถี่กำลังจะเป็นลมไปนั้น เขาก็ปล่อยฉันออกมาในที่สุด ใบหน้าก็เปลี่ยนกลับมาเป็นหลิวฝันตามเดิม "ไปเถอะ ไปเตรียมสิ่งของที่ต้องใช้" เขาพูดแล้วจับมือฉันอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วลากฉันออกไปข้างนอก ฉันดึงมือออกหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล จึงต้องยอมให้เขาจับตามใจชอบ เขาพาฉันออกจากโรงพยาบาลไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ที่สุด ซื้อผลิตภัณฑ์จากนมเช่นครีมกับชีสจำนวนหนึ่ง แล้วยังซื้อน้ำตาลทรายอีกสองถุง ฉันอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ถามเขาว่าสิ่งของเหล่านี้สามารถขับไล่โหวเหล่ยได้เหรอ โหลวเหล่ยเป็นวิญญาณที่ชอบกินคนมากที่สุด แล้วจะมาสนใจผลิตภัณฑ์จากนมที่หวานเลี่ยนเหล่านี้หรือ? เขาขี้เกียจจะมาด่าฉันว่าโง่อีก และอธิบายว่าของเหล่านี้ไม่ได้เอามาไล่โหวเหล่ย แต่เอาไว้สำหรับเรียกหนูทนเหล่ย หนูทนเหล่ยคือศัตรูของโหวเหล่ย ไล่ล่าพวกโหวเหล่ยเป็นเหยื่อโดยเฉพาะ และหนูทนเหล่ยก็เหมือนกับหนูทั่วไป ชอบครีมกับชีสและอาหารที่มีรสหวาน หลังจากที่แนะนำข้อมูลของหนูทนเหล่ยเรียบร้อย เขาก็ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการดักจับหนูทนเหล่ยแก่ฉัน ยังบอกอีกว่าหนูทนเหล่ยจับโหวเหล่ยกินเป็นอาหาร ดังนั้นจึงมักจะปรากฏตัวขึ้นในสุสาน ฉันได้ยินเสียงลางสังหรณ์ที่ดังอยู่ภายในใจ ถามเซียวเหย่ว่าเขาคงไม่พาฉันไปที่สุสานใช่ไหม? หลังจากผ่านประสบการณ์การไปเยี่ยมสุสานที่บ้านหลิวฝันมาสองครั้ง ฉันเกลียดสถานที่อย่างสุสานเป็นที่สุดจนเกิดเป็นรอยบาดแผลภายในจิตใจ เซียวเหย่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก พยักหน้าตอบรับ เขาไม่เพียงพาฉันไปที่สุสาน แต่ยังทิ้งฉันไว้ที่สุสานคนเดียวอีก เพราะหนูทนเหล่ยมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อพลังด้านมืดมาก ถ้าเขาอยู่ด้วยหนูทนเหล่ยก็จะไม่กล้าออกมา ดังนั้นเมื่อครู่เขาจึงอธิบายวิธีดักจับหนูทนเหล่ยเอาไว้อย่างละเอียด ฉันอยากร้องไห้ขึ้นมาทันที แต่ถ้าอยากช่วยน้องสาวก็ต้องยอมจ่ายค่าตอบแทน ฉันทำได้เพียงข่มความกลัว เดินตามเซียวเหย่ไปยังสุสาน เมื่อตอนที่พวกเรามาถึงยังสุสานจริงๆ ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว ในสุสานอย่าว่าแต่คนเลย ขนาดไฟสักดวงก็ยังไม่มี มีเพียงหลุมศพจำนวนมากแออัดอยู่รวมกันอย่างไม่เป็นระเบียบ ภายใต้แสงจันทร์ที่มืดสลัวมันช่างดูมืดครึ้มน่ากลัว ฉันอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ หันหน้าไปมองเซียวเหย่ ที่น่าแปลกก็คือ เขาเป็นผีแท้ๆ น่ากลัวกว่าหลุมศพและสุสานนี้เป็นร้อยเท่า แต่กลับให้ความรู้สึกอุ่นใจที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้กับฉัน เหมือนถ้ามีเขาอยู่ ฉันจะไม่ได้อันตรายใดๆ "ไปเถอะ เดี๋ยวพอเข้าไปในสุสานแล้วให้เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่าหันกลับมา ฉันจะรอเธออยู่อีกด้านหนึ่ง ถ้าเธอจับหนูทนเหล่ยได้แล้วก็อย่าชักช้า ให้รีบวิ่งออกจากสุสานทันที" เซียวเหย่เองก็มองมาที่ฉันเช่นกัน จับมือแล้วย้ำกำชับฉัน ฉันพยักหน้า ถือสิ่งของที่ซื้อมาเมื่อกลางวันเอาไว้ในมือ กัดฟันเดินเข้าไปในสุสานภายใต้การสังเกตการณ์ของเซียวเหย่ เอาชีสกับน้ำตาลวางไว้ท้ายหลุมศพทุกหลุมตามวิธีที่เซียวเหย่สอนมา จากนั้นก็กลั้นหายใจตั้งสติให้ดี คอยฟังเสียงความเคลื่อนไหวในสุสาน ไม่นานนัก ฉันก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวที่ท้ายหลุมศพหลุมหนึ่ง หนูจิ๋วตัวหนึ่งสีขาวล้วนกำลังคลานเข้ามาหาก้อนชีสอย่างลับๆ ล่อๆ ส่งเสียงร้องจี๊ดๆ ด้วยความตื่นเต้น ไม่เพียงแต่มันที่ตื่นเต้น ตอนนี้ฉันยิ่งตื่นเต้นมากกว่ามันอีก จนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในสุสาน ฉันค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้หนูจิ๋วสีขาวนั้น เซียวเหย่บอกว่าหนูทนเหล่ยระมัดระวังตัวมาก ยังไม่สามารถลงมือได้ทันทีที่เห็นมัน ไม่เช่นนั้นมือใหม่อย่างฉันจะจับมันไม่ได้อย่างแน่นอน ต้องรอให้มันกินชีสทั้งก้อนลงท้องจนหมดก่อนค่อยจับ มันถึงจะวิ่งหนีไม่ไหว รอให้ฉันจัดการเท่านั้น ฉันย่องเข้าไปข้างๆ ตัวมันอย่างระมัดระวัง คอยจับจ้องการเคลื่อนไหวทุกฝีก้าวของมันอย่างตื่นเต้น รอแค่มันกินให้อิ่มแล้วค่อยลงมือ แต่ฉันรออยู่จนครึ่งค่อนวัน ขณะที่สายตากำลังมองเห็นก้อนชีสคำสุดท้ายกำลังจะเข้าปากไปนั้น ก็มีลมหนาวพัดมาวูบหนึ่งเข้าที่ท้ายทอยของฉัน เหมือนมีใครมาเป่าลมเย็นใส่ท้ายทอยของฉันเลย
已经是最新一章了
加载中