ตอนที่ 159 ไม่มีทางเชื่อเขาอีกแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 159 ไม่มีทางเชื่อเขาอีกแล้ว
ตอนที่ 159 ไม่มีทางเชื่อเขาอีกแล้ว นัชชารีบยกมือขึ้นปิดปาก กลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมา เรี่ยวแรงของเธอเหมือนถูกดูดหายไป เธอหันหลังพิงผนังเพื่อประคองร่างให้ยืนอยู่ได้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เมื่อได้ยินเสียงนั้น ทำให้เตชิตชะงักหันกลับไปดูทีนาร์ที่กำลังเดินมา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน "อากาศหนาวขนาดนี้ คุณออกมาทำไม" "เตขา วันนี้คุณไม่ไปไม่ได้เหรอคะ" ทีนาร์พูดสายตาเป็นประกาย เพราะเธอเห็นนัชชาที่ซ่อนตัวอยู่ เมื่อครู่ปณิตาก็มารายงานเธอแล้วเช่นกัน นัชชามาแล้วจริงๆ เตชิตหันหลังให้นัชชาที่ซ่อนตัวอยู่ โดยไม่เห็นถึงความผิดปกติใดๆ กำลังจะพูดอะไรสักอย่างกับทีนาร์แต่ยังไม่ทันได้พูดหญิงสาวก็ล้มลง เขารีบเข้าไปพยุง "เป็นอะไรไปครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนี้ชอบเวียนหัวไม่รู้เป็นอะไร" หญิงสาวปากบอกว่าไม่เป็นอะไรแต่โน้มร่างเข้าหาเตชิต "ดึกขนาดนี้แล้ว คุณก็พักที่นี่ซะเลยสิคะ" ทีนาร์กดเสียงให้ต่ำลง นัชชาถึงแม้จะฟังไม่ชัดว่าทั้งสองพูดอะไรกัน แต่จากมุมที่เธอซ่อนตัวอยู่มองเห็นเงาทั้งสองกอดอยู่ด้วยกัน น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ทำให้ภาพเบื้องหน้าเลือนลางเล็กน้อย เห็นเตชิตออกมาจากคฤหาสน์ ได้ยินเสียงหญิงสาวเรียกเขาอย่างสนิทสนม แม้เธอจะอยากหนีไปให้ไกล อยากซ่อนตัวมากแค่ไหน พอเห็นเงาของทั้งสองประคองกอดกัน ขาของเธอเหมือนมีรากงอกออกมา จะขยับยังไงก็ไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะผลักเธอออก แม้ว่าเขาจะพยายามหมุนตัวหนี แต่ก็ไม่สามารถทำให้จิตใจที่ถูกเผาไหม้ของเธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม นัชชามองดูเขาขึ้นรถ สตาร์ทเครื่องยนต์ ไฟหน้ารถถูกเปิดขึ้น เขาเปิดหน้าต่างโบกมือให้หญิงสาว ท่าทางเหมือนจะหมดความอดทน หญิงสาวหลับตาลง พยายามบีบให้น้ำตาไหลออกมาให้หมด ค่อยๆเกาะผนังพยุงตัวเดินมาหน้าประตูคฤหาสน์ แสงไฟหน้ารถสาดส่องมา แต่นัชชากลับทำเหมือนไม่เห็น เดินตรงมาเรื่อยจนถึงตรงกลาง "เอี๊ยด" เสียงของล้อที่เสียดสีกับพื้น รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงทิ้งร่องรอยล้อรถสีดำไว้หนึ่งเส้น เสมือนความโกรธเคืองที่พวยพุ่งออกมาในคืนอันหนาวเหน็บ เตชิตหยุดรถเพื่อจะดูว่าใคร ช่วงที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง ภาพใบหน้าเล็กซีดของหญิงสาวเต็มไปด้วยคราบน้ำตาโผล่ขึ้นมา เขาชะงักงันไปทั้งตัว ลืมลงจากรถ นัยย์ตาเต็มไปด้วยความตกใจ นัชชาที่ใบหน้านองน้ำตากำลังมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถ ยังต้องอะไรอีก จะพูดอะไรได้อีก ผู้ชายที่แม้ภูเขาไท่ซานถล่มลงต่อหน้าสีหน้าของเขายังไม่เปลี่ยนแต่เวลานี้เขากำลังตกใจมากที่เห็นเธอ นี่คงจะสามารถอธิบายได้ทุกสิ่ง ทีนาร์ค่อยๆวิ่งมา สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เธอต้องซ่อนนัยตาเปล่งประกายนั้น สีหน้าทำประหนึ่งเธอสงสารนัชชามากที่ต้องมายืนโดดเดี่ยวอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง นัชชาส่ายศีรษะอย่างแรง แรงจนยืนเกือบไม่อยู่เซถลาไปด้านหลังหลายก้าว ผู้ชายที่เคยบอกเธอให้เชื่อมั่นในตัวเขา ผู้ชายที่บอกว่าจะไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อเธอ ตอนนี้เวลานี้เขากลับวิ่งออกมาจากห้องนอนของผู้หญิง งานเลี้ยงสังสรรค์เหรอ นัชชายิ้มทั้งน้ำตา ร้องไปหัวเราะไป ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงที่เขาสร้างขึ้น เลือดภายในกายเหมือนจะระเหยไปหมด ร่างกายทั้งหนาวทั้งชา จะก้าวขาออกมาสักก้าวเหมือนจะต้องใช้แรงมหาศาล เธอไม่อยากจะอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว เหมือนจะหายใจไม่ออก นัชชาหมุนตัวเดินไปข้างหน้า ส่ายไปส่ายมา เห็นแล้วน่าเจ็บปวดเวทนายิ่งนัก เตชิตรีบปลดเข็มขัดนิรภัย เปิดประตูลงมา รีบตามไปคว้าข้อมือของเธอไว้ " นัชชา ฟังผมอธิบายก่อน" "ปล่อยฉัน ปล่อย นัชชาตะโกนออกมาเหมือนเสียสติ น้ำตาไหลพรั่งพรู ลมพัดผมยุ่งเหยิง ดูแล้วเหมือนผู้หญิงเสียสติคนหนึ่ง เตชิตยึดข้อมือทั้งสองของเธอไว้ อยากจะรวบตัวเข้ามาในอ้อมกอดเหมือนเคย แต่ครั้งนี้เธอต้องการจะหนี และออกแรงต่อสู้ขัดขืนเต็มที่ "ไปให้พ้น ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน" เตชิตหัวใจแตกสลายเมื่อได้ยินเธอตะคอกออกมา มองเธอร้องไห้ ในใจของเขาก็เจ็บปวดไม่ต่างจากเธอ "เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิด พวกเราไม่ได้มีอะไร.." "คุณจะโกหก ฉันไปถึงเมื่อไหร่ " นัยตาของหญิงสาวแดงกล่ำจ้องชายหนุ่มตรงหน้า เหมือนจะมองให้ทะลุทะลวงเข้าไปให้เห็นถึงภายใน "นานขนาดไหนแล้ว ตั้งแต่ที่เริ่มคุณเริ่มมีการเลี้ยงสังสรรค์บ่อยๆ หรือก่อนหน้านั้นอีก เตชิต ในสายตาของคุณฉันมันก็แค่นังหน้าโง่คนนึง คุณคงจะคิดว่าคำพูดของคุณประโยคเดียวก็ทำให้เชื่อคุณโดยไร้เงื่อนไขใดๆใช่มั้ย ใช่ คุณทำสำเร็จแล้ว ทำให้ฉันดูน่าสมเพชน่าสงสารสำเร็จแล้ว" "นัชชา" เตชิตขัดขึ้น ในดวงตาลึกๆถูกฉาบไปด้วยเส้นสีแดง เขาไม่ได้สนใจทีนาร์ที่อยู่ด้านหลังแม้แต่น้อย จิตใจที่วุ่นวายและความสนใจทั้งหมดอยู่ที่เธอคนเดียว "ผมไม่อนุญาตให้คุณพูดถึงตัวเองแบบนั้น" นัชชาเหมือนได้ยินเรื่องตลกขำขัน น้ำเสียงอ่อนลงทันที แล้วเสียดสีเขาว่า"คุณไม่อนุญาตให้ฉันพูด แต่คุณกลับทำแบบนี้" "ผมไม่ได้ทำ" มองหญิงสาวที่เจ็บปวดตรงหน้า เตชิตได้ยินเสียงใจที่แตกสลายอยู่ข้างในชัดเจน เขาต้องใช้พละกำลังมหาศาลเพื่อที่จะยึดตัวเธอไว้ เขาไม่สามารถผ่อนมือได้ เขากลัวว่าถ้าเขาปล่อยมือ เขาอาจจะไม่มีโอกาสจะยึดเธอไว้อีก "ผมกับเขาไม่เคยมีอะไรกัน เราบริสุทธิ์ใจต่อกัน ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ให้เธออธิบายให้คุณฟังเองก็ได้ สำหรับผมเธอก็เหมือนน้องสาวคนนึง" เมื่อเอ่ยถึงคำว่า น้องสาว ทำให้นัชชาคิดขึ้นมาได้ว่า มีครั้งนึงที่เธอแอบเข้าไปในห้องทำงานของเขาบนโต๊ะทำงานก็มีรูปถ่ายคู่กับหญิงสาวคนเดียวกันนี้ ตอนนั้นเขาก็บอกว่า คือน้องสาวของเขา น้องสาว นัชชามองไปยังหญิงสาวด้านหลัง คือใบหน้าของคนที่ป่วยเป็นโรค ใบหน้าซูบตอบ จนกระดูกโผล่ออกมา น่าเสียดายความสวยของเธอ นัยตาของเธอแฝงความน่ารักแบบที่นัชชาไม่ชอบ เพราะมันเต็มไปด้วยความสงสารเห็นใจ เหมือนเธอเป็นผู้พ่ายแพ้ ความเจ็บปวดนี้ใกล้จะทำให้เธอจมดิ่ง ยังจะมีอะไรที่เจ็บปวดไปกว่าเหตุการณ์ตรงหน้าอีก นัชชาถอนหายใจออกมาหนึ่งที ค่อยๆบังคับให้ตัวเองเย็นลง ดูเหมือนจะสงบลงบ้างแล้ว มือทั้งสองก็ไม่ขัดขืนต่อต้านแล้ว เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "เตชิต ปล่อยฉัน" ได้ยินเธอเรียกชื่อตัวเองโดยไม่มีอารมณ์บ้าคลั่งแบบเมื่อสักครู่ จึงยอมปล่อยมือจากเธอ หลังจากเป็นอิสระแล้ว นัชชาค่อยๆเดินไปหาทีนาร์ ระยะสั้นๆเพียงสิบกว่าเมตร แต่เธอต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ใบหน้าของเธอใกล้เข้ามา ค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ในใจนัชชาก็กลัวมากยิ่งขึ้น ในที่สุดเธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนนี้ นัชชามองใบหน้าที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอ ปากของเธอขยับหลายครั้งกว่าจะมีเสียงออกมา" คุณ ….ตกลงมีความสัมพันธ์ยังไงกับเตชิต" ทีนาร์คาดไม่ถึงว่าเธอจะถามคำถามนี้ออกมา ถามออกมาตรงๆแบบนี้ นัยย์ตาของเธอมีความสับสน พอได้สติ เธอจึงหันไปมองเตชิต
已经是最新一章了
加载中