ตอนที่166 จะให้เธอป้อนฉัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่166 จะให้เธอป้อนฉัน
ตอนที่166 จะให้เธอป้อนฉัน การเข้าโรงพยาบาลของเตชิตครั้งนี้ นอกจากจะแพ้พิษแอลกอฮอล์ สิ่งที่หนักไปกว่านั้นก็คือแผลที่กระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารจะว่าเป็นเรื่องใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก ต้องใช้เวลารักษาไปเรื่อยๆ ปรัณไม่ได้ละเลยเขาแม้แต่น้อย ทคอยตระเวนตรวจและบ่นเขาทุกวัน “คิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นอยู่หรือไง ไม่สบายวันเดียวก็หาย?” ตอนนี้เป็นไงล่ะ นอนโรงพยาบาลสามวัน กินได้แค่อาหารเหลว จะเชื่อฟังได้ยังล่ะ? ตอนแรกเตชิตไม่อยากจะสนใจเขาเลย รู้ว่าเขาเป็นห่วงตน แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้าเขากลับยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของปรัณรุนแรงเกินขึ้นทุกวัน สุดท้ายเขาก็ทนไม่ได้ “แค่นี้ก็พอแล้ว” “แค่นี้? อีกเยอะเลยเหอะ!” ปรัณนำยาที่เตรียมไว้ฉีดเข้าไปในถุงน้ำเกลือ “ออกจากโรงพยาบาลครั้งนี้ให้ฉันทำนัดแอดมิทครั้งหน้าเลยดีไหม?” สุวีรานั่งอยู่ข้างๆทำตัวไม่ถูก กระแอมขึ้นมา เธอไม่เคยเห็นปรัณพูดจาปากร้ายแบบนี้กับใครแบบนี้มาก่อน “เอ้อ นายมีพูดอะไรกับนัชชารึเปล่า?” ปรัณหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง และเขาก็กลับมาทำตัวปกติอย่างรวดเร็ว “อะไร อะไรหรอ?” เตชิกยักคิ้วขึ้น สายตามองไปที่ใบหน้าที่แสร้งทำไม่รู้ของเขา “เธอยังยอมที่จะให้อภัยฉัน มันต้องมีที่มาที่ไปแน่ๆ นายคุยกับเธอมาแล้วใช่ไหม?” ปรัณฟังน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมั่นใจของเขา ด่าไปยิ้มไปเอาเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วโยนทิ้งลงไปในถังขยะ “ไม่มีอะไรปิดบังนายได้เลยจริงๆ หรือนายแอบติดเครื่องดักฟังไว้ในห้องฉัน?” “พอกันแหละ” เตชิตยิ้ม เป็นเพราะทั้งสองเข้าใจกันและกันมาก ไม่ต้องปวดหัวคิดอะไรมากก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ “ฉันคุยกับนัชชาจริง ตอนนั้นอารมณ์เธอค่อนข้างฉุนเฉียวตกใจ ฉันกลัวว่าเธอจะคิดสั้นก็เลยพูดอะไรนิดหน่อย ฉันคิดว่าเธอจะบอกนาย ที่ไหนได้เธอก็ปิดปากมิดชิดเชียว” ปรัณพูดพลางสายหัว หันไปมองชายที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง “อย่ามาโทษฉันว่าปากมากล่ะ” เตชิตมองดูผู้ชายสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนอยู่ข้างเตียง แสงสว่างที่อยู่นอกหน้าต่างสาดส่องเข้ามาบนตัวของเขา ช่างดูอบอุ่นยิ่งนัก “ขอบคุณ” ระหว่างพี่น้องสองคนนี้ แทบไม่มีการขอบคุณที่จริงใจแบบนี้เกิดขึ้นเลย ปรัณนิ่งไปสักพัก ยกมือขึ้นมาจับแขน “ไปละ ขนลุกไปหมด…..” เขาพูดพลางเดินออกจากห้อง ไม่หันหลังมามองสักนิด สุวีรายกมือขึ้นมาป้องปากและไอ หันไปที่เตชิตพยักหน้าลงและเดินตามเขาออกไป นอกประตู นัชชากำลังเดินถืออาหารบำรุงร่างกายตรงมาที่ห้อง เงยหน้าขึ้นมาเจอกับปรัณ เธอกำลังจะถามถึงอาการของเตชิต คิดไม่ถึงว่าเขาเพียงแค่หันมาทักทายและรีบเดินจากไป ด้านหลังเขา สุวีราไม่มีทางเลี่ยงได้แต่ยักไหล่ขึ้นมา รีบเดินตามเขาไป นัชชาไม่เข้าใจสักนิด ขณะเดินเข้าห้องก็ยังครุ่นคิด “หมอปรัณเป็นอะไรไป?” เตชิตยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมา หัวเราะเย้ย “สงสัยโดนคนชื่นชมจนดีใจทำตัวไม่ถูก” “โดนชื่นชมจนทำตัวไม่ถูก” “ใช่” เตชิตพูดขัดเธอที่กำลังครุ่นคิด พูดเบี่ยงประเด็น “ในมือถืออะไรอยู่หรอ?” “อ๋อ ใช่แล้ว นี่เป็นซุปหางปลาตุ๋นมะละกอ บำรุงท้อง ฉันตั้งใจซื้อมาจากร้านที่ถนนว่างเจียงเลยนะ” นัชชาเปิดฝากล่องออก เป็นเวลาทานอาหารเที่ยงพอดี หลิ่นตักซุปขึ้นมาหนึ่งถ้วย “คุณชิมดู” ตาคู่นั้นของเตชิตมองลงมาที่ชามเล็กๆในมือของเธอ หันหัวไปด้านข้างสื่อให้เธอมองหลังมือของเขา “เพิ่งฉีดยาไป ถือไม่ไหว” นัชชาวางไว้อีกด้าน “รอให้ฉีดเสร็จค่อยกินแล้วกัน.....” “ฉีดเสร็จก็เย็นหมดสิ” เตชิตเงยหนขึ้นมามองผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ น้ำเสียงองแงงเหมือนเด็กน้อย “คุณอยากให้ผมกินของเย็นแล้วปวดท้องงั้นหรอ?” พูดจบ เขาเงยคางขึ้นมา “ป้อนผม” “……..” นัชชาหัวเราะมองดูเขาที่ทำอะไรไม่ได้ รู้ว่าเขาจงใจใช้เธอ แต่ก็อดใจให้เขากินอาหารเย็นๆไม่ได้ หมดหนทางจนยกชามขึ้นมานั่งข้างเขา “นี่คุณอ้อนฉันงั้นหรอ?” คำพูดของเธอทำเอาฝ่ายชายชะงักไปครู่ สีหน้าบนใบหน้าเขาดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ รีบหลบสายตาเธอ “ช่างเถอะ ไม่กินแล้ว” “ไม่ๆๆๆ” นัชชายิ้มพร้อมตักซุปขึ้นมาหนึ่งช้อน ค่อยๆเป่าให้หายร้อน ยกไปที่ปากเขา ใช้น้ำเสียงเหมือนกำลังปลอบเด็ก “มานี่ อ้าปาก อ้ามมม~” เตชิตหน้าถอดสีอย่างรวดเร็ว รู้ว่าเธอตั้งใจหยอกล้อเขา ราวกับมีใบมีดทะลุออกมาจากตา “เห้อ ไม่พอใจอีกแล้วหรอ?” นัชชารีบพยักหน้า “ไม่พอใจๆ เก่งจริงมาตีฉันสิ~” “……….” ทว่าไป ตอนนี้มือของเขามีเข็มเจาะอยู่ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้ทั้งนั้น เสมือนว่าฝ่ายชายเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้จนโต ขึ้นมาเล่นหัวพร้อมมอบความรู้สึกที่อบอุ่นใจ สายตาเขาโมโหจนอยากจะลงโทษเธอ “รอให้ผมหายก่อนนะคุณโดนดีแน่” “งั้นวันหลังค่อยว่ากันเนอะ” นัชชาไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย ยกช้อนขึ้นมาอย่างไม่ค่อยประณีต ป้อนใส่ปากเขาเข้าไป เตชิตกำลังจะเอ่ยปากพูด ซุปร้อนๆลงไปที่หลอดลม ไอสำลักออกมาอย่างรุนแรง นัชชาคิดไม่ถึงว่าเขาจะสำลัก ตกใจนิ่งไป ลุกลี้ลุกลนวางชามและช้อนลง รีบหยิบทิชชู่มาเช็ดปาก “Sorry Sorry ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่เป็นไรใช่ไหม?” สายตาของฝ่ายชายรุกร้อนเป็นฟืนไฟ ใบหน้าของเขายังมีสีแดงหลังไออย่างแรกเมื่อครู่ “คุณจะฆาตกรรมสามีตัวเองงั้นรึ?!” นัชชาขำจนหน้าแดง “ใครจะไปรู้ว่าคุณจะพูดมากขนาดนี้ อีกอย่างนะใครบอกว่าเธอเป็นสามีของฉัน….” “ผมไม่เป็นแล้วใครเป็น?” ชายแก่น้อยใจเงยหน้านอนลง “เก็บออกไป ไม่กินแล้ว” เห็นท่าทีเขาไม่อยากกินจริงๆ นัชชาทำได้เพียงปลอบ “คุณกินสักหน่อยเถอะ ซุปบำรุงของร้านนั้นทำอร่อยมาก ฉันไปถึงถนนว่างเจียงยืนต่อคิวซื้อนานเป็นชั่วโมงเลยนะ” ดีแค่ไหนก็เป็นฝีมือคนอื่นทำ เตชิตไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมา “ไม่กิน!” นัชชาโมโหกับสิ่งที่เขาทำ ในใจคิดว่าถ้าเขาไม่ได้ป่วย เธอคงไม่ยอมง่ายๆแบบนี้หรอก แต่น้ำเสียงก็ยังคงความอ่อนหวานอยู่ “ถ้าคุณไม่กิน วันหลังฉันจะไม่มาส่งข้าวให้ละ ยังไงคุณก็ไม่ได้ขาดนี่ ดีซะอีก ไม่ต้องหนักถังขยะ......” ไม่มาแล้ว? กำลังขู่เขา ตาของเตชิตยิ้ม แต่ไม่นานก็ถูกเขาสกัดไป ปริปากพูดด้วยเสียงนิ่งๆ “ไม่มาก็ดี จะได้ไม่ต้องมีใครมาบังคับให้ผมกินข้าว” “คุณนี่!” นัชชาโมโห เวลาต่อปากต่อคำกับเขา เธอไม่เคยจะได้อะไรเลย ตัวเองยืนอึ้งอยู่นาน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งและโกรธ “ตกลงคุณจะกินหรือไม่กิน?” เตชิตชายตามองไปที่ใบหน้าของเธอ รู้ดีว่าขืนพูดกวนเธอต่อเป็นเรื่องใหญ่แน่ ดูภายนอกเหมือนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่แต่ภายในใจมีความสุขมากลุกขึ้นนั่งหลังตรง เหมือนคนที่มียศตำแหน่งสูง “ป้อนผมสิ” นัชชามองเขา และมองไปที่ชามกับช้อนที่อยู่ด้านข้าง ก็แค่ป้อนข้าวเอง เมื่อก่อนเธอเคยป้อนข้าวหมา เธอทน เตชิตอ้าปากรอเธอป้อนข้าว แม้ว่านัชชาจะทำท่างแปลกๆแต่นั่นก็เป็นเพราะกลัวว่าเขาจะสำลักอีก เธอระวังมากขึ้น ซุปหนึ่งชามกินจนหยดสุดท้าย เริ่มเย็นแล้ว ดีที่เขากินหมดเรียบร้อยแล้ว นัชชาเดินไปห้องน้ำพร้อมหยิบชามและช้อนไปล้าง เพิ่งล้างเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอรีบเช็ดมือให้สะอาดเดินไปเปิดประตู
已经是最新一章了
加载中