บทที่ 8 ฝีมือของใคร   1/    
已经是第一章了
บทที่ 8 ฝีมือของใคร
บทที่ 8 ฝีมือของใคร เจ็บปวดใจ? หรือกังวลใจ? เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีตั้งแต่แต่งงานมา เยนลี่ซูเพิ่งเคยเห็นใบหน้าของฮันอี้ ที่แสดงออกนอกเหนือจากการเสียดสีเยาะเย้ยและเกลียดชัง ภายใต้โต๊ะนั้น มีนิ้วมือบิดแน่นจนเล็บจมลึกลงไปในเนื้อ และเกิดความเจ็บปวดขึ้นในใจอีกครั้ง เธอคิดว่าถ้าฮันอี้ถามเธอในเวลานี้ เธอก็จะบอกเขา เธอกำลังจะตาย เธอไม่สามารถรักเขาต่อไปได้อีกแล้ว...... "เยนลี่ซู เธอ......" "ประธานฮัน" ก่อนที่จะพูดเสร็จ ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดโดยเลขานุการ เลขานุการเดินไปข้างฮันอี้และมองดู เยนลี่ซูที่นั่งอยู่ด้านตรงข้าม ก่อนจะพูดขึ้นอย่างกระสับกระส่าย "ประธานฮันคะ ท่านได้ถูกพาดในหัวข่าวของวันนี้คะ" ในขณะที่พูดนั้น ก็ได้เปิดหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะทำงานไปด้วย 'ผู้อำนวยการตระกูลเยน แอบพักค้างคืนในคฤหาสน์หรูส่วนตัว' บทความไม่กี่คำนั้น สะท้อนให้เห็นในสายตาของ เยนลี่ซู และยังทิ่มแทงอยู่ในใจของ ฮันอี้ด้วย เนื่องจากโรคซึมเศร้าของซุนลู่ซิน ฮันอี้จงใจซื้อบ้านพักตากอากาศที่ห่างไกลจากตัวเมือง เพื่อให้สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและปกป้องความเป็นส่วนตัวของซุนลู่ซิน เขาไม่ต้องการให้เรื่องซุนลู่ซินถูกเผยแพร่ไปยังเหล่านักข่าว กังวลว่าจะยิ่งทำให้สภาพจิตใจของซุนลู่ซินแย่ลงกว่าเดิม แต่ว่าตอนนี้!! "ไปให้พ้น!" เสียงตวาดดัง ทำให้เลขานุการกลัวจนไม่กล้าที่จะหยิบหนังสือพิมพ์ ก่อนรีบเดินออกจากห้องทำงาน ฮันอี้ยืนขึ้นจากเก้าอี้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความน่ากลัวเดินออกจากโต๊ะทำงาน เอื้อมมือไปจับแขนของเยนลี่ซูดึงเธอออกจากเก้าอี้ "เยนลี่ซู ฉันเกือบจะดูไม่ออกแล้วนะว่าเธอกำลังเล่นละครตบตา?" นัยน์ตาของ เยนลี่ซูว่างเปล่า: "คุณหมายความว่ายังไง?" "หมายความว่ายังไง? ถึงตอนนี้แล้วเธอยังจะถามฉันว่าหมายความว่ายังไง?!" แววตาของ ฮันอี้ดุดันขึ้น และใช้มือบีบเข้าที่ลำคอเธออย่างแรง ราวกับจะให้ขาดอย่างไรอย่างนั้น "อุตส่าห์วิ่งมาหาฉันเพื่อมาแสดงละครให้ดู และยังแสร้งทำเป็นคนดี แต่จริงๆ แล้วเธอแค่อยากจะหาข้ออ้างมารั้งฉันไว้ เพื่อที่เหล่านักข่าวจะได้ไปที่บ้านพักตากอากาศเพื่อไปก่อกวนซุนลู่ซิน เยนลี่ซู ผู้หญิงอย่างเธอทำไมถึงโหดร้ายขนาดนี้ อยากจะทำลายทุกอย่างเลยหรือไง?!" โดนยัดข้อกล่าวหาอีกแล้วเหรอ? เหมือน 5 ปีก่อนอย่างไรอย่างนั้น? เยนลี่ซู เงยหน้าขึ้นหลังเสียงตวาดของเขาจบลง ด้วยอาการสั่นและอ่อนแรง ก่อนกระพริบไร่น้ำตาในเบ้าออก สะอื้นอยู่สองสามครั้งและพูดกับเขาเบาๆว่า "ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำ คุณจะเชื่อไหม?" "ไม่ได้ทำ? หึ......" ฮันอี้เย้ยหยันและเขย่าร่างกายของเธออย่างแรง: "เรื่องที่ซุนลู่ซินอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ ยกเว้นฉันก็มีเธอที่รู้เรื่อง เธอบอกว่าไม่ใช่เธอ คิดว่าฉันจะเชื่อไหม?!" เป็นไปอย่างที่คิด...... เขาไม่เชื่อ หรือไม่เขาก็ไม่เคยเชื่อเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ร่างของเธอสั่นเหมือนดั่งใบไม้ที่พัดอยู่ในพายุเฮอริเคนภายใต้แรงเขย่าของเขา หัวของเธอ อยู่ๆก็ปวดอย่างรุนแรง ดวงตาของเธอค่อยๆสูญเสียการมองเห็น และความเจ็บปวดก็โลดแล่นไปทุกเส้นประสาทในตัวเธอ ก่อนที่สติจะเริ่มพร่ามัว เยนลี่ซูได้ยินเสียงโทรศัพท์ของ ฮันอี้ดังขึ้น เป็นหลินซูเจิน ที่โทรเข้ามา "ฮันอี้ คุณรีบมาที่นี่หน่อยได้ไหม ลู่ซิน เธอพยายามจะฆ่าตัวตาย -!!" "อะไรนะครับ? ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้" ฮันอี้วางหูโทรศัพท์แล้วโยนร่างที่อ่อนแรงของเธอไปด้านข้างราวกับทิ้งขยะ "ปึก -!" ในขณะที่ เยนลี่ซูล้มลงกับพื้น เธอกระตุ้นริมฝีปากของเธออย่างเงียบๆ จริงๆแล้วมันดีที่มองไม่เห็น อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมองเห็นว่าในเวลานี้ที่เขาเลือกทิ้งเธอเพราะผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง ............ ในเวลาเดียวกันที่บ้านพักตากอากาศ หลินซูเจินวางสายโทรศัพท์และหันหลังไปมองซุนลู่ซิน ที่ถือมีดผลไม้อย่างลังเลที่จะขยับไปที่แขนของตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปหาอย่างร้อนใจ "ทำไมถึงไม่ลงมือซะที เจ้าเด็กฮันอี้กำลังจะมาที่นี่แล้ว" พูดง่ายนี่ แต่นี่ถึงขั้นกรีดเส้นเลือดเลยนะ! ซุนลู่ซินมองดูสายตาร้อนใจของหลินซูเจิน และครู่หนึ่งเธอก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ผู้หญิงที่นั่งตรงหน้าเธอยังเป็นแม่ของเธออยู่หรือเปล่า! "แกนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ!" ในขณะที่ซุนลู่ซินยังคงตกตะลึง หลินซูเจินก็จับมือของซุนลู่ซิน อย่างไม่ลังเล ก่อนลงมีดผลไม้กรีดบนข้อมือสีขาวนั้น...... เมื่อเนื้อถูกกรีดออก เลือดก็พุ่งออกมาทันที ข้อมือค่อยๆเย็นขึ้นและหัวใจของซุนลู่ซินก็ค่อยๆเย็นขึ้นเช่นกัน ก่อนที่จะหลับตา ก็เห็นร่างของฮันอี้วิ่งเข้ามาหาเธอ ในตอนนั้นเธอคิดแล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรจะต้องได้แต่งงานกับฮันอี้ให้ได้ เพราะว่าบนโลกนี้ นอกจาก ฮันอี้แล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะพึ่งใครได้อีก ฮันอี้รีบออกจากบ้านพักตากอากาศ พร้อมกับอุ้มร่างซุนลู่ซินที่ไม่รู้สึกตัวของเธอ ไปที่โรงพยาบาล จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนบ่าย ซุนลู่ซิน ถึงได้ออกจากห้องฉุกเฉิน ในหอผู้ป่วย ซุนลู่ซินเป็นเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต นอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบ ๆ ที่ข้อมือของเธอปรากฏให้เห็นบาดแผลที่ถูกเย็บปิดสนิทก่อนพันด้วยผ้าพันแผล ฮันอี้นั่งลงข้างเตียง จ้องใบหน้าของซุนลู่ซินด้วยความรู้สึกผิด ถ้าเขามาถึงช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร...... "ฮันอี้" หลินซูเจิน ใช้โอกาสเมื่อเห็นความรู้สึกผิดและโทษตนเองในสายตาของ ฮันอี้ก่อนยืนอยู่ข้างหลังเขาและร้องไห้ขึ้น: "ถ้าไม่อย่างนั้น......หลังจากนี้คุณไม่ต้องมาดูแล ลู่ซิน แล้วก็ได้ อารมณ์โกรธของคุณเยนน่ากลัวนัก ไม่ว่าวิธีไหนก็ทำได้ ป้าไม่ว่าอะไรหรอก แต่ลู่ซิน......" "พี่ฮันอี้......" ซุนลู่ซินนอนอยู่บนเตียงค่อยๆลืมตา และมองไปที่ดวงตาที่รู้สึกผิดคู่นั้นของฮันอี้ก่อนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย "ไม่เป็นไรคะ แต่พี่อย่าทิ้งฉันนะ หลังจากนี้ฉันจะเชื่อฟัง หรือไม่ ฉันจะไปขอร้องพี่ลี่ซู? จะบอกพี่เขา ว่าฉันจะเชื่อฟัง ถือว่าสงสารลู่ซิน อย่าให้พี่ฮันอี้ทิ้งลู่ซินเลย......" "ลู่ซิน!" หลินซูเจินคุกเข่าอยู่หน้าเตียง และพูดด้วยน้ำเสียงอย่างเจ็บปวดใจพร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุดของเธอ: "คุณเยนพวกเราสู้ด้วยไม่ไหวหรอกนะ ลูกลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนั้นเธอต้องการจะฆ่าลูก ลูกอยากจะตายด้วยน้ำมือเธอจริงๆเหรอ?!!" ซุนลู่ซินที่ยอมเชื่อฟังและความโศกเศร้าของหลินซูเจิน เหมือนกลับมีหนามมาทิ่มแทงหัวใจของฮันอี้ จนถึงตอนนี้แล้ว ซุนลู่ซินไม่เพียงจะไม่โทษโกรธ แต่ยังคิดจะไปร้องขอ เยนลี่ซู ผู้หญิงจอมเสแสร้งคนนั้น ทำไมช่างเลวร้ายได้ขนาดนี้!! พอแล้ว พอแล้วจริงๆ! "น้าหลิน ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเถอะ" ฮันอี้ สูดลมหายใจ พยายามจะระงับความโกรธในหัวใจของเขา ก่อนเอื้อมมือออกมาลูบผมของซุนลู่ซิน เบาๆ : "ลู่ซิน คุณพูดเสมอว่า อยากจะมีครอบครัวไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ผมจะให้คุณเอง" ความสุขของซุนลู่ซินสะท้อนออกมาผ่านดวงตา ในขณะที่ฮันอี้ลูบผมอยู่ ก่อนพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่หลินซูเจินซึ่งยืนอยู่ข้างๆเห็นสายตาที่เย็นชาของ ฮันอี้ ราวกับโดนแช่แข็ง ก่อนจะก้มหัวลง ไม่กล้ามองไปอีกเป็นครั้งที่สอง
已经是最新一章了
加载中