ตอนที่ 7 ข้าจะนำเจ้าเข้าวัง1   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 7 ข้าจะนำเจ้าเข้าวัง1
ตอนที่ 7 ข้าจะนำเจ้าเข้าวัง1 เย่เล่อจือแทบจะร้องออกมา มู่หรงเจิงเป็นคนที่ช่วยได้จริงๆด้วย ความรู้สึกเมื่อครู่นี้ก็พลันหายไปจนหมด แล้วก็นั่งลงบนเตียงทันที“มู่หรงเจิง ช่างเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลย” “เจ้าสมองเลอะเลือนไปแล้วจริงๆหรือ?” มู่หรงเจิงหันมามองนางที่กำลังกุมมือเอาไว้อยู่ ที่ยังดูอุ่นๆ แล้วก็พลันดึงมือเข้าไว้ในเสื้อ เย่เล่อจือเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก “ข้าจำอะไรไม่ได้เลย”นางดูออกว่ามู่หรงเจิงเป็นคนที่ทำอะไรรอบคอบ นางไม่สามารถโกหกเขาได้ สุดท้ายเลยแกล้งโง่ดีกว่า มู่หรงเจิง ถอนหายใจออกมาทีนึง“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเสแสร้งหรือว่าจำไม่ได้จริงๆ ในเมื่อลืมไปแล้ว ดีที่สุดก็คือไม่ต้องพยายามนึกถึงมันอีก และไม่ต้องอยากไปอวดดีต่อกรกับฮ่องเต้อีก ถ้าเขาโมโหขึ้นมาอีกครั้ง ถึงตอนนั้นข้าเองก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้” ต่อกรกับฮ่องเต้?โอ้แม่เจ้า นั่นไม่ใช่ฮ่องเต้เลยหรอ?เย่เล่อจือด่าทอตัวเองอยู่ในใจ คิดดูแล้วก็ป็นเรื่องของเจ้าของร่างเดิมนี้ นางจะกล้าไปรนหาที่อย่างนั้นทำไม เขาเป็นถึงฮ่องเต้อีก! “ได้!เพคะ!ข้ารับปากท่าน”เย่เล่อจือพยักหน้ารับ มู่หรงเจิงแอบส่ายหน้าเบาๆ “ข้าจะพาเจ้าเขาวัง พอได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว เจ้าต้องพูดอ่อนหวานกับท่าน ถ้าหากฮ่องเต้หายโมโหแล้ว เรื่องทุกอย่างก็จะจบลง ยังไงซะเจ้ากับฝ่าบาทก็มีบุญคุณต่อกัน เป็นของเขา.....”พอเขาพูดถึงนี้ก็พลันหยุดลงทันที แล้วก็หันไปมองนาง เห็นว่าคำพูดตัวเองไม่ได้ทำให้นางรู้สึกอยากรู้ เขาเลยไม่พูดอะไรต่อ พวกเขาสองคนเปิดประตูออกมา ส้่งอี้ก็พูดขึ้นดักพวกเขาทันที“อ๋องหวิน การแต่งงานครั้งนี้เป็นรับสั่งจากฮ่องเต้นะพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ต้องได้ไหว้ฟ้าดินแล้ว หากว่าท่านจะพานางออกไป เราจะไม่มีทางไปรับหน้ากับฮ่องเต้นะพ่ะย่ะค่ะ ขอร้องท่านอย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจเลย” “เรื่องของข้าเจ้าต้องเข้ามายุ่งด้วยหรอ?จะหลีกมั้ย?” มู่หรงเจิง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ สีหน้าก็ยังคงแสดงความเยือกเย็นออกมาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ส้่งอี้ไม่ยอมขยับออกไปไหน ยังคงยืนอยู่ที่เดิม “กระหม่อมได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้โดยตรง ขอให้ท่านอ๋องทรงหลีกทางเถอะพ่ย่ะค่ะ” ถ้าแบบนี้ต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน เย่เล่อจือก็เป็นคนที่พอจะรู้เรื่องประวัติศาสตร์พอสมควร ถ้าฮ่องเต้เป็นคนออกรับสั่งเองแล้ว มู่หรงเจิงถึงจะเป็นอ๋องก็ต้องได้ยอมหลีกทางให้ ถ้าวันนี้ต้องการจะหนีออกไปคงไม่ง่ายแล้ว นางจึงขยับเข้าไปติดเขา แล้วกุมมือเขาไว้อย่างแน่น เกรงว่าเขาจะยอมถอยหนี มือของมู่หรงเจิงก็สั่นอยู่เล็กน้อย ดูเหมือนจะเกร็ง แล้วพลันหันมาสบตานาง เขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่ช่วยนางก็จะไม่มีใครกล้ายื่นมือมาช่วยนางเลย ความร้อนที่สัมผัสได้จากมือของนางทำให้เขาสะดุ้งอยู่เล็กน้อย พลันหันไปพูดอย่างยั่วยุ:“ถ้าข้าต้องการจะพานางไปละ?” ส้่งอี้ชะงักไป แล้วก็พูดซ้ำประโยคเดินก่อนหน้านี้“ท่านอ๋องอย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจเลยพ่ะย่ะค่ะ” “หลีกไป!” มู่หรงเจิงพูดขึ้นด้วยเสียงข่มขู่ ส้่งอี้ก็ยังไม่ยอมหลบ “ท่านอ๋องอย่าทรงโกรธพวกกระหม่อมเลย เพราะกระหม่อมก็ทำเพื่อตัวท่านเองด้วย” มู่หรงเจิงสบถออกมา เย่เล่อจือรอดูว่าเขาจะทำยังไงต่อ แต่อยู่ดีๆก็รู้สึกว่าตัวเองเบาขึ้น เพราะตัวเองได้ถูกเขาอุ้มขึ้นมา แล้วก็พานางลอยออกไป ข้ามหัวพวกเหล่าทหารถึงด้านนอกประตูทันที ตอนนี้เองนางถึงได้มองเห็นข้างห้องนั้นอย่างชัดเจน นางนั้นอยู่ชั้นสอง ข้างนอกเป็นทางเดิน แล้วนางก็มองเห็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยประชาชนที่มาร่วทงาน แถมตรงพื้นยังปูพรมแดงไว้ ดูยิ่งใหญ่อย่างมาก พอเห็นว่าจะชนเข้ากับราวจับมู่หรงเจิงก็กระโดดขึ้นเหยียบไหล่ของนายทหารสองนางแล้วทั้งเขาสองคนก็กระโดดลงไปทันที ความสูงของชั้นหนึ่งกับชั้นสองในสมัยก่อนนั้นสูงกว่าสมัยนี้มาก ถึงจะกระโดดลงมาแค่ชั้นสอง ก็สามารถทำให้ผู้คนตกใจได้ แบบนี้เขายังไม่ล้มอีกหรอ?เย่เล่อจือพยายามดิ้นไปมา แต่ก็ยิ่งถูกเขากอดแน่นกว่าเดิม ตอนที่นางเปิดตาขึ้นมา ก็เห็นตัวเองลอยลงมาอย่างพริ้วเบา จนผู้คนอยู่รอบข้างร้องเสียงฮือฮาขึ้นมา นางถึงได้เงยหน้ามอง ในห้องโถงนี้ได้จัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่ มีลานพิธีสมรส เพียงแค่รอให้คู่บ่าวสาวออกมา และนางก็มองเห็นเจ้าบ่าวที่แสนอัปลักษณ์ยืนอยู่ด้านข้าง“น้องหญิง น้องหญิง น้องหญิง เจ้า เจ้าจะไปจริง จะไปกับเข้าจริงๆ ไปกับพ่อหน้าขาว จะหนีตามกันไปหรอ?”เขาพูดขึ้นมาจนทำให้ทุกคนในห้องโถงหัวเราะขึ้นมา เย่เล่อจือจึงหันไปจ้องเขา“ใครจะแต่งกับเจ้า?ถึงให้ข้าไปเป็นเด็กรับใช้ของมู่หรงเจิง ข้าก็ไม่ยอมแต่งกับเจ้า!”พอนางพูดจบ ก็รู้ถึงความสั่นเบาๆ หน้าขาวๆของเขานั้นเหมือนเป็นสีแดง ไม่สิ แก้มข้างซ้ายคือด้านที่โดนตบ แต่ทำไมด้านขวาถึงได้แดงด้วยละ?เป็นถึงท่านอ๋องคงไม่ได้เขินหรอกใช่มั้ย?ไม่อยากเชื่อเลย
已经是最新一章了
加载中