ตอนที่ 10 ท่านอ๋องป่วยหนัก2   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10 ท่านอ๋องป่วยหนัก2
ตอนที่ 10 ท่านอ๋องป่วยหนัก2 ไม่มีการตอบกลับใดๆ นางจึงรู้สึกไม่ชอบมาพากล แล้วพยุงเขาลุกขึ้นมานั่ง แล้วถึงได้รู้ว่าเขาหลับตาอยู่ ใบหน้าขาวใสก็เริ่มซีดเซียว แล้วนางก็ไปสัมผัสโดนมือเขาอย่างไม่รู้ตัว ถึงได้รู้ว่ามือเขาเย็นกว่าปกติมาก ยังดีที่เขายังหายใจอยู่ เย่เล่อจือเรียกเขาสองสามครั้ง แต่เขากลับไม่กระดุกกระดิกเลย แล้วพลันคิดขึ้นมาได้ว่าเขาขอยากับตัวเอง นางจึงรีบพลิกตัวเขาแล้วหายาในเสื้อเขาทันที มียาขวดนึงอยู่ในพกเสื้อเขาจริงๆด้วย นางจึงเอาออกมาเม็ดนึง แล้วก็ยัดเข้าไปในปากเขาทันที สีหน้าของเขาถึงได้ดูดีขึ้นมาหน่อย นางเองก็โล่งอกขึ้นมาได้สักที ทันใดนั้นสมองก็ผุดขึ้นมา ช่วงนี้เป็นโอกาสที่นางสามารถหนีไปได้ โดยที่เอาขวดยายัดไว้ในมือให้เขาแล้วก็เอาเสื้อคลุมตัวเขาไว้ นางก็สามารถหนีไปได้แล้ว ตอนนี้ก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เย่เล่อจือเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าอย่างอดไม่ได้ ที่แท้แล้วท้องฟ้าก็เงียบสงบแบบนี้นี่เอง และก็ดูคึกคักมาก พระจันทร์ที่ลอยอยู่ตรงกลางคล้ายกับจานสีเงิน แล้วก็มีดวงดาวรายรอบ ส่องแสงระยิบระยับ แสงพระจันทร์สาดส่องลงมา ทำให้เห็นหิ่งห้อยที่บินไปมา เป็นภาพที่งดงามกว่าในหนังในละครซะอีก ถ้าหากว่ามีใครสามารถบันทึกภาพนี้ไว้ได้ นางก็คงคิดว่าภาพที่นางเห็นนั้นเป็นเพียงรูปวาด ในโลกนี้ยังมีท้องฟ้าที่งดงามแบบนี้อยู่หรอ?ท้องฟ้าที่ไม่มีมลพิษ ที่แท้ก็สวยสดงดงามแบบนี้นี่เอง มองไปมองมานางก็พลันเดินช้าลงเอง ตอนที่นางถูกทิ้งลงในเหว นางก็เห็นดวงจันทร์ที่กลมแบบนี้ แล้วเหมือนกับว่าอยู่ดีๆแสงของดวงจันทร์ก็พลันส่องมาที่ตานาง หลังจากนั้นนางก็หมดสติไปทันที นางย้อนอดีตมาที่นี่ได้ยังไงกัน?แล้วจะกลับไปได้ยังไง?อยู่ดีๆนางก็เหมือนไม่รู้อะไรเลย นางไม่รู้วิธีจะกลับไปได้เลย ย้อนอดีตงั้นหรอ?พูดน่ะพูดง่าย?ถ้าหนีก็จะหนีไปไหนได้?คนที่อยู่ในที่ไม่คุ้นแบบนี้ หรือว่าต้องหนีไปหลบที่ยอดเขาเป็นนางจิ้งจอกขาวงั้นหรอ?เย่เล่อจือเบะปาก ที่จริงนางอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเลย มู่หรงเจิงไม่ใช่เพื่อนหรอกหรอ?เขาเองก็ดีต่อนางอย่างมาก พอนึกถึงมู่หรงเจิง นางก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที ยาเม็ดเดียวจะทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้มั้ย?ป่าแบบนี้จะไม่มีสัตว์ป่าออกมาหรอ?เขาจะเป็นอันตรายมั้ย? ถ้าหากเขาถูกสัตว์ร้ายเข้าไปทำร้าย นางเองก็ผิดต่อเขาอย่างมาก ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล นางจึงรีบเดินกลับไปอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งกลับไปทันที นางวิ่งกลับมาถึงที่เดิมด้วยความเหนื่อยหอบ มู่หรงเจิงก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิม ขนาดท่านอนยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง นางเดินเข้ามาหาเขา แล้วมองสีหน้าที่พอจะมีสีสันขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงไม่ได้สติอยู่ พลันยื่นมือออกไปสัมผัสที่หน้าผากเขา แล้วก็ลูบที่มือของเขา ก็รู้สึกว่าอุ่นขึ้นบ้างแล้ว พลันเขย่าตัวเขา“มู่หรงเจิง ท่านฟื้นสิ” เขาไม่กระดุกกระดิกเลยสักนิด นางจึงรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก อาจจะเพราะว่ายานั่นไม่แรงพอแน่เลยใช่มั้ย?งั้นให้กินเข้าไปอีกที แล้วนางก็เอาขวดยาที่มือเขา เปิดออกแล้วหยิบมาเม็ดนึง พลันยัดเข้าไปในปากเขาอีกที “เจ้าจะฆ่าข้างั้นหรือ?” มู่หรงเจิงลืมตาขึ้นมาทันที เย่เล่อจือกระโดดออกอย่างตกใจ“ท่าน ท่านฟื้นแล้วหรอ?” มู่หรงเจิงลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็เอายาที่นางหยิบออกมาเก็บเข้าไว้ในขวดตามเดิม “ยานี้ครั้งนึงกินแค่เม็ดเดียวก็พอแล้ว ถ้ากินเยอะเกินอาจถึงแก่ชีวิตได้” “ท่านฟื้นนานแล้วหรอ?”เย่เล่อจือเห็นเขาดูกลับมาเป็นปกติแล้วจึงพูดขึ้น ไม่เหมือนคนที่นอนสลบเหมือดเมื่อกี้ “ในเมื่อเจ้าไปแล้ว ทำไมถึงกลับมาอีก?” มู่หรงเจิงถามขึ้น ที่แท้เขาก็ฟื้นตั้งนานแล้ว นางแอบทำหน้าเสียใจที่ตัวเองไม่รู้กลับมาทำไม?แล้วพลันลุกขึ้นเหมือนจะเดินหนี มู่หรงเจิงจึงดึงนางเอาไว้“ในเมื่อกลับมาแล้ว ก็ควรจะพักก่อนค่อยไปเถอะ” “เห็นว่าท่านไม่สบายอยู่ ข้าก็จะไม่ทำอะไรมาก มู่หรงเจิง ท่านเป็นโรคอะไร?”นางถามขึ้นอย่างเป็นห่วง มู่หรงเจิงหน้านิ่งไปทันที“ข้าไม่ได้เป็นอะไร”เขาปล่อยมือนางออกทันที ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร นางเองก็ไม่ถามอะไรต่อ พลันนั่งลง“ข้าหิวแล้ว ยังมีของกินเหลือมั้ย?” “ไม่มีแล้ว” มู่หรงเจิงตอบออกมาตรงๆ แต่พอเห็นสีหน้าที่ดูผิดหวังของนาง เขาก็ทนไม่ได้“เดี๋ยวข้าไปหาผลไม้ป่ามาให้เจ้ากิน” เย่เล่อจือมองเห็นต้นพุทราอยู่ไม่ไกล นางจึงรีบมองหาไม้ที่มีอยู่รอบๆ แต่กลับหันไปเห็นมู่หรงเจิงเหาะขึ้นไปเก็บแล้ว เขายืนอยู่บนกิ่งไม้แล้วก็เก็บพุทรา มือนึงก็จับเสื้อทำเป็นพก อีกมือก็ยื่นไปเก็บพุทราลูกแดงๆ พอโดนแสงจากพระจันทร์ส่องมาก็ยิ่งเห็นชัด แล้วก็เห็นเป็นเงาสีขาวที่ลอยไปลอยมา ช่างดูงดงามราวกับเป็นการเต้นรำของผู้หญิง นี่ถึงจะเป็นคนที่มีวรยุทธสูงส่ง วรยุทธของคนสมัยก่อนช่างดูตระการตากว่าในหนังซะอีก อะไรคือการเหาะได้ในหนัง ล้วนแต่เป็นการแสดงเท่านั้น เปรียบกับมู่หรงเจิงแล้ว ดูเป็นไก่อ่อนไปเลย พอนางแน่ใจว่าเขาเป็นคนไม่ใช่ผีสางแล้ว นางเองก็มองเขาอย่างตะลึง ถ้าหากว่านางสามารถฝึกได้ละก็ เกรงว่าโลกนี้คงไม่มีใครกล้าต่อกรกับนางแล้วใช่มั้ย?“มู่หรงเจิง วรยุทธท่านเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าใช่หรือไม่?” “ถ้าเรื่องวรยุทธ น่าจะที่สอง” มู่หรงเจิงเหาะลงมาข้างๆนาง แล้วเปิดพกเสื้อออก พุทราลูกโตโตสีแดงทั้งนั้น “ที่สองหรือ?ก็ถือว่าไม่เลว แล้วใครเป็นที่หนึ่ง?”เย่เล่อจือหยิบพุทราขึ้นมาแล้วถามขึ้น มู่หรงเจิงวางลูกพุทราลงบนพื้น แล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดพุทรา“หากว่าข้าเป็นที่สอง ใครจะกล้าเรียกตัวเองว่าที่หนึ่งอีกละ?”พูดเสร็จเขาก็เอาพุทราที่เช็ดสะอาดแล้วยื่นให้นาง “สอนข้าได้มั้ย?”เย่เล่อจือพูดเสียงออดอ้อนเขา แล้วขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ “แต่งงานกับข้า แล้วข้าจพสอนเจ้า” มู่หรงเจิงพูดขึ้น
已经是最新一章了
加载中