ตอนที่ 14 ฮ่องเต้ ข้าสำนึกผิดแล้ว2   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 14 ฮ่องเต้ ข้าสำนึกผิดแล้ว2
ตอนที่ 14 ฮ่องเต้ ข้าสำนึกผิดแล้ว2  "คารวะฮ่องเต้!"มู่หรงเจิงพูดขึ้นเสียงดังชัดแล้วพลันคุกเข่าลง เย่เล่อจือตอนนี้ถึงได้มีสติ แล้วมองไปยังคนที่นั่งอยู่ สวมชุดสีทองลายมังกร นางยังไม่ทันจะมองชัดๆ ก็ถูกมู่หรงเจิงดึงลงเพื่อให้คุกเข่ากับเขา   แล้วก็พลันได้ยินเสียงคนเดินมา นางจึงมองเท้าที่มากมายเดินผ่านตัวเองไป แล้วเดินออกไปจากสวนดอกไม้ ดูแล้วน่าจะเป็นฮ่องเต้ที่บอกพวกเขาออกไปก่อน   "ลุกขึ้นเถอะ ข้าเคยบอกแล้วว่าถึงเจ้าจะเป็นแค่อ๋อง เจ้าก็มีฐานะเท่ากับข้า ไม่จำเป็นต้องคุกเข่า“วันนี้มีเรื่องอะไร?"เสียงที่นุ่มนวลก็พลันมีความเคร่งขึมปนอยู่ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที   "กระหม่อมทำผิดต่อฝ่าบาท เลยจะมาขอรับโทษพ่ะย่ะค่ะ"มู่หรงเจิงพูดออกมาแต่ไม่ยอมลุกขึ้น    "อะไร?ทำความผิดอันใด?พูดให้ข้าฟังสิ"พูดมาแล้วเหมือนฮ่องเต้ทรงอยากรู้มาก   มู่หรงเจิงเงยหน้าขึ้นมาทัน"ฝ่าบาท ท่านก็รู้หมดแล้ว ทำไมต้องให้ข้าเล่าอีกรอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ ทำไมต้องอยากจะโมโหด้วย?"แล้วเขาก็พลันก้มลงไปแล้วพูดขึ้นอีก:"ในวันงานแต่งวันนั้น เย่เล่อจือรู้สึกผิดแล้ว ก็เลยหาทางคิดสั้นฆ่าตัวตาย จนทำให้นางลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ไปหมด"   "ลืมไปหมดงั้นหรือ?"เสียงเคร่งขรึมนั้นดูเหมือนจะสงสัยอย่างมาก "เย่เล่อจือพยักหน้า   เย่เล่อจือในที่สุดก็สามารถมองเห็นฮ่องเต้ที่สูงส่งของแคว้นจิ่นสวี้แล้ว คนที่เป็นฮ่องเต้ล้วนแต่หน้าตาดีทั้งนั้น เพียงแต่ฮ่องเต้ไม่ได้ดูขาวบริสุทธุิ์เหมือนมู่หรงเจิง ดูมีความหยาบๆอยู่บ้าง เลยยิ่งทำให้ดูขรึม หัวคิ้วก็ดูโค้งๆ ดวงตาดูเข้ม แล้วก็กำลังมองนางอย่างคิดไตร่ตรอง   "เย่เล่อจือ เข้ามาใกล้ๆข้า"ฮ่องเต้พูดขึ้นเพียงสองคำ แต่ก็ทำให้รู้สึกไม่กล้าปฏิเสธ   เย่เล่อจือรู้สึกลนลานอย่างบอกไม่ถูก ผลักลุกขึ้นแล้วเดินไปด้านหน้า แล้วฮ่องเต้ก็บอกให้มานั่งข้างๆ แล้วฮ่องเต้ก็เอาแต่จ้องนาง เหมือนกับมองสัตว์ที่เขาต้องการจะล่าที่สามารถมาล่าได้ตลอดเวลา   ทำไมภาพนี้ถึงได้เหมือนตอนแรกๆที่นางเข้าไปอยู่ในแก๊งค์ค้ายาเลย?   เย่เล่อจือกลืนน้ำลายแล้วพูดขึ้น:"เพคะฝ่าบาท"   ฮ่องเต้ชะงักไป:"เรียกข้าว่ามู่หรงเฉิน"   "มู่หรงเฉิน?"เย่เล่อจือพูดทวนอีกรอบด้วยเสียงต่ำ สองคนนี้ชอบอะไรแปลก?ทำไมชอบให้คนอื่นเรียกชื่อ?   "เจ้ายอมกลับมาอยู่ข้างๆข้าแล้วหรือ?"มู่หรงเฉินกุมมือนางไว้   เย่เล่อจือหันไปมองมู่หรงเจิงแวบนึงสีหน้าของเขาดูนิ่งๆ สายตาก็ไม่ได้มองมาทางนาง มู่หรงเฉินหัวเราะแล้วพูดขึ้น:"พอได้เจอเล่อจือ ก็ลืมไปเลยว่าเจ้าคุกเข่าอยู่ รีบลุกขึ้นมานั่งด้วยกัน มานั่งดื่มเป็นเพื่อนข้า"   มู่หรงเจิงลุกขึ้นมาแล้วนั่งลงทางด้านซ้าย แล้วก็มีขันทีน้อยมารินเหล้าให้และตั้งสำหรับอาหาร   "ข้ารู้ว่าวันก่อนที่ข้าลงโทษเจ้าค่อนข้างรุนแรง จ้าโกรธข้าหรือไม่?"คำพูดนี้เขาพูดกับเย่เล่อจือ   "ทำไมฮ่องเต้ถึงลงโทษข้าล่ะเพคะ? ข้าจำอะไรไม่ได้เลย"ในเมื่อมู่หรงเจิงบอกว่าข้าจำอะไรไม่ได้ งั้นก็ทำเป็นไม่รู้อะไรเลย เย่เล่อจือก็ขี้เกียจที่จะไปคิดเรื่องพวกนั้นแล้ว ตอนนี้สายตานางจับจ้องอยู่ที่โต๊ะอาหาร น้ำลายก็พลันไหลไม่หยุด ตั้งแต่เมื่อคืนที่กินพุทราไปจนตอนนี้ก็ยังไม่กินอะไรเลย หิวจนกระเพาะขาดแล้ว   มู่หรงเฉินหัวเราะขึ้น:" จำไม่ได้ก็ดี ลองชิมอาหารมังกรก้อยนี่ดู"   เย่เล่อจือเลียปากสองสามที แล้วพลันหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อ เนื้อแน่นๆสดๆพลันเอาเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างอร่อย ที่สำคัญคือไม่มีก้าง อาหารในวังนั้นไม่เหมือนอาหารของคนทั่วไป นางเอาเข้าปากไปยังไม่ทันกลืนก็เอาเข้าไปอีกคำจนเต็มปาก:"อร่อยจริงๆ!"นางพููดขึ้นจากใจจริง   "ชอบอันไหน?ก็กินเข้าไปเยอะๆ"   มู่หรงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เลยทำให้เย่เล่อจือไม่รู็สึกเขินเลย ฮ่องเต้ก็ถือว่าทำกับเราไม่เลวเลย ไม่ได้ดูโหดร้ายอย่างที่มู่หรงเจิงพูดเลย  พอมานึกดู นางก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองมู่หรงเจิง ใบหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึก เคร่งขรึมไม่มีใคารปาน กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ โดยไม่กินอะไรซักคำ เขาไม่หิวหรือไง?แล้วความคิดนั้นก็หายไป เย่เล่อจือหันไปสนใจอาหารที่วางบนโต๊ะแทน อาหารพวกนี้ล้วนแต่เป็นของราชา รสชาติล้ำเริส มีทุกสิ่งอย่าง สีสันหลากหลายน่ากิน จนทำให้คนน้ำลายยืดเลยทีเดียว   พอดีที่กินลงไปท้องก็เลยไม่ร้อง นางเลยกินอย่างไม่เกรงใจเอาตะเกียบคีบอาหารแล้วก็รีบเคี้ยวรีบกลืนทันที ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษคนในวังที่ทำอาหารอร่อยเกินไป แต่ว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในหนึ่งปีของเย่เล่อจือก็ไม่สามารถเป่าออกไปได้ แค่เวลาแปปเดียว อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะก็เกลี้ยงทันที   นางกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยก็พลันได้ยินเสียงดังขึ้น:"เจ้ากล้าหลอกข้า เจ้าไม่ใช่เย่เล่อจือ!"
已经是最新一章了
加载中