บทที่ 14 ขอโทษ หนูผิดไปแล้ว   1/    
已经是第一章了
บทที่ 14 ขอโทษ หนูผิดไปแล้ว
บทที่ 14 ขอโทษ หนูผิดไปแล้ว ครู่หนึ่งคนที่อยู่ข้างหน้าต่างได้ยินเสียงเรียกเบาๆ ของเธอ เอื้อมมือไปดึงผ้าม่านขึ้น ไฟก็สว่างขึ้น แสงไฟทำให้เธอลืมตาไม่ขึ้น เป็นเวลานานกว่าเธอจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา เตชินิใบหน้าดูเย็นชา มองเธออย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า“เด็กเป็นลูกของใคร?” “แม่...” กัดริมฝีปากแน่นกั้นไม่ให้ส่งเสียงสะอื้น น้ำตาไหลออกมา ทั้งรู้สึกผิดทั้งรู้สึกอับอาย “เด็กเป็นลูกของใคร?” เตชินินั่งอยู่ข้างเตียงมองเธอ กับลูกสาวคนเดียวของเธอ เธอก็ทำใจไม่ได้ที่จะต่อว่าเธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรทุกเรื่องก็จะมีผลลัพธ์ของมันเสมอ“เปรมบอกว่าเด็กไม่ใช่ของเขา นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? คนนั้นเป็นใคร?” “ไม่รู้ หนูไม่รู้ หนูตื่นขึ้นมาก็เหลือแค่หนูคนเดียว หนูไม่รู้จริงๆ ว่าคนนั้นคือใคร? หนูไม่รู้จริงๆ!” ส่ายหน้าซ้ำไปซ้ำมา เวธนีโผเข้าไปกอดเตชินิไว้แน่น ความเก็บกดในใจของเธอ ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ใจสองเดือนกว่าที่ผ่านมานี้ทำให้เธอทรุดลงทันที “แม่ ขอโทษ! หนูผิดไปแล้ว หนูรู้ตัวว่าผิดไปแล้วจริงๆ รู้ตัวว่าผิดไปแล้วจริงๆ” มองดูลูกสาวกำลังร้องไห้เจ็บปวดอย่างไร้เสียง ตั้งแต่เล็กจนโตไม่ว่าเธอได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างไร แต่ก็ไม่เคยมีท่าทางทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ ใจของเตชินิอ่อนลง ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า“น้าดนิตาของเธอยังไม่กลับ เด็กก็สองเดือนกว่าแล้ว รอต่อไปจะเป็นอันตรายกับร่างกายของแม่มากขึ้น ตอนค่ำวันนี้ก็เอาเด็กออกเถอะ!” “ไม่ ไม่เอา!” สีหน้าของเวธนีซีดขาวราวกับกระดาษ มือทั้งสองของเธอปกป้องอยู่ที่ท้องโดยไม่รู้ตัว เธอยังไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของเด็ก บางทีมันอาจเป็นสัญชาตญาณของความเป็นแม่ เธอรับไม่ได้กับการทำแท้ง ไม่สามารถทนดูเด็กถูกกำจัดออกจากร่างกายของตนได้ เตชินิก็ไม่สบายใจเช่นกัน เมื่อคิดถึงภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบของเปรม เธอทำได้เพียงกล่าวว่า“นี เปรมไม่สามารถยอมรับเด็กคนนี้ได้ เขาเคยพูดแล้ว แค่เพียงเอาเด็กคนนี้ออกซะ กับพ่อของเด็กก็ไม่ต้องติดต่ออีก พวกเธอยังสามารถมีความสุขเหมือนเมื่อก่อนได้ พวกเธอจะแต่งงานกัน สามารถมีลูกของตัวเองได้” “เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้แล้ว” “ไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้ยังไง? ต้องบอกว่าแม้กระทั่งพ่อของเด็กเธอก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เพื่อคลอดลูกของผู้ชายแปลกหน้า มันคุ้มค่าแล้วเหรอ?” เวธนีไม่พูดอะไร เพียงแค่ร้องไห้สะอึกสะอื้น เตชินิมองดูท่าทางแบบนี้ของเธอก็หันหลังเดินจากไป สักครู่หนึ่งก็เปิดประตูกลับมา แต่ด้านหลังตามมาด้วยผู้หญิงสวมชุดคลุมสีขาว เป็นแพทย์ประจำตระกูลของตระกูลบวรพล ยังรักกันเหมือนเป็นพี่น้องกับเตชินิ ถือได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับตระกูลบวรพล ดูแลเวธนีราวกับเป็นลูกสาวของตนเองมาตลอด เธอเดินมาข้างหน้า ถอนหายใจออกมาแล้วกุมมือเธอเอาไว้ อ้าปากอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากแค่ตบไหล่ของเธอแล้วลุกขึ้น รอเธอหันกลับมาที่ข้างเตียง สวมถุงมือขาวสวมเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งเธอผลักเวธนีให้นอนลงบนเตียง สองมือกดลงบนท้องของเธอ เวธนีถึงได้มีสติกลับมาทันที มองเตชินิอย่างตื่นตระหนก เตชินิเดินมาข้างหน้า มือหนึ่งกุมมือของเธอแล้วนั่งลงข้างๆ มืออีกข้างหนึ่งลูบหน้าผากของเธอแล้วกล่าวปลอบเสียงเบาว่า“นีไม่ต้องกลัว แค่เจ็บนิดเดียวก็ผ่านไปแล้ว แค่ครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง เรื่องทั้งหมดก็จะผ่านไป เรื่องทั้งหมดก็จะดีขึ้นเองนะ เชื่อฟัง!” ระหว่างที่เตชินิพูดอยู่ คุณหมอดนิตาก็ถอดกางเกงของเวธนีออกแล้ว เวธนีกระโดดขึ้นมานั่งอย่างตกใจ ตัวสั่นขดเข้าไปหลบที่มุมเตียงด้านใน มองดูพวกเธออย่างหวาดกลัว “นี!” เตชินิน้ำเสียงเคร่งเครียด มองเธออย่างไม่พอใจ เวธนีเงยหน้าขึ้นมา สายตาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเตชินิครู่หนึ่งถึงได้กล่าวว่า“แม่คะ ขอโทษ คนทำผิดคือหนู ไม่ใช่เด็ก! เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ ตั้งแต่หนูทำให้เขามีชีวิตขึ้นมา ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำให้เขาหายไปได้ หนูไม่สามารถกำจัดเด็กคนนี้ได้ค่ะ” “ลูกพูดอะไรนะ?” เตชินิถามคำถามใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ เวธนีหายใจเข้าลึกๆ พูดคำต่อคำว่า“หนูพูดว่า! หนูไม่สามารถกำจัดเด็กคนนี้ได้” เตชินิมองเธออย่างลึกซึ้งเนิ่นนานก่อนจะพูดเบาๆว่า“ลูกก็รู้ว่าฟาร์มดอกไม้ของตระกูลบวรพลหกสิบเปอร์เซ็นต์เป็นตระกูลณัฐศิลป์ออกทุนให้ ยังมีร้านดอกไม้ของตระกูลบวรพลสี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็เป็นตระกูลณัฐศิลป์ร่วมลงทุน ถ้าลูกต้องการเด็กคนนี้จริงๆ ลูกก็ไม่สามารถเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลบวรพลได้อีก ลูกเข้าใจไหม?”
已经是最新一章了
加载中