ตอนที่ 4 ทำให้เขาขุ่นเคือง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 4 ทำให้เขาขุ่นเคือง
ตอนที่ 4 ทำให้เขาขุ่นเคือง ชายคนนั้นคลิกเข้าไปที่ข้อความ และนั่งดูข้อความอย่างช้าๆอยู่บนโซฟา นิ้วเรียวยาวเลื่อนหน้าจอเป็นครั้งคราว แขไข เพศหญิง อายุ20ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมเมืองJ และเพิ่งสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งชาติ M ส่วนสูง 162 เซนติเมตร น้ำหนัก 42 กิโลกรัม สัดส่วน วิณใช้เวลามองดูทั้งสามส่วนนี้อยู่ครู่หนึ่ง เมื่อสมองได้รับคำสั่งการก็เป็นธรรมดาที่จะหยุดอยู่ที่นี่สิ่ง และนึกย้อนกลับไป และทางฝั่งโทรศัพท์ บุลกิตก็กำลังอธิบาย “คุณแขไข ได้ทำการสอบเข้ามหาวิทยาลัยสองครั้ง ครั้งแรกสอบภายในประเทศ และครั้งที่สองสอบต่างประเทศ และคะแนนเธอก็ดีมาก เพราะว่าเมื่อเธอสอบเสร็จและไม่ได้เข้าไปเรียนที่มหาลัย และเมื่อไปต่อต่างประเทศจึงล่าช้าไปหนึ่งปี ดังนั้นเธอจึงเรียนช้าไปหนึ่งปี” ข้อมูลที่ชัดเจน ประวัติที่ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ แต่กลับเห็นบันทึกการวินิจฉัยของโรงพยาบาลในหน้าที่เกือบจะสุดท้าย ใบหน้าชายคนนั้นก็เปลี่ยนไป--------- ตั้งแต่สิบขวบก็ได้เข้าสู่ตระกูลดาวริศกุล ร่างกายเธอก็ได้รับการบาดเจ็บมาตลอด หนักสุดคือตอนอายุสิบสอง ในบันทึกเขียนไว้ว่าเธอมีอาการโคม่าเป็นเวลาถึงสองวัน ในบันทึกนี้เวลาไล่เลี่ยกัน เห็นได้ว่าในเวลาสองสามวันเธอก็จะได้รับบาดเจ็บอีกครั้งและอีกครั้ง หลังจากได้ย้อนกลับไปคิด ฉัตรพรคือแม่เลี้ยงของเธอ ขจรจิตก็ไม่รักเธอ และเธอก็มีชีวิตอยู่อย่างลำบากมาตลอด อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือการรับรองว่าตัวเขาและผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์อะไร ไม่ต้องมีสิ่งของต้องมลทินและความบริสุทธิ์ดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อวิณบังเอิญมองเห็นรูปภาพบัตรประชาชนเขาก็ตกตะลึง ใบหน้านั้นดูเหมือนผู้หญิงที่เพิ่งปรากฎตัวในห้องของเขา ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเยาะในลำคอ เมื่อนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ไม่น่าล่ะเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคย ในคืนนั้นที่เขาอยู่ท่ามกลางแก๊ส เขาตกตะลึงอย่างไร้เหตุผล และยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นไปไม่ได้ที่จะจดจำรูปลักษณ์ของเธอ เมื่อกี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรู้จักหรืออะไรออกมา ดูแล้วเธอเองก็เป็นเช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินเสียงที่มาจากลำโพง บุลกิตก็หยุดนิ่ง และถามด้วยความสับสนเล็กน้อยว่า “กัปตันวิณ ข้อมูลมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” รอยยิ้มบนใบหน้าของวิณก็หายไปอย่างรวดเร็ว “พยายามหาแทบตายไม่เจอ พอเลิกหาเลิกสนใจ กลับได้มาง่ายๆ แบบคาดไม่ถึง” บุลกิตไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นแต่ก็รู้ว่าไม่ควรถามอะไร แค่เพียงพูดเตือนเขา “กรุ๊ปเลือดของคุณแขไขก็พิเศษเช่นกัน” เมื่อพูดจบ วิณก็มองดูที่ช่องกรุ๊ปเลือด แต่ในขณะที่ดวงตาของเขามองเห็นร่างกายของเขาก็นิ่งงัน เขามองอย่างละเอียด มันคือกรุ๊ปเลือด DEIGO ทั้งประเทศแทบจะไม่มี ซึ่งหายากมาก ในตอนนั้น ร่างกายของเขาเหมือนมีระเบิดนิวเคลียร์และร่างกายเหมือนกับว่ามีเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย เขาก็ตัดสายบุลกิต และหยิบโทรศัพท์ของเขาโทรหารชต “รชต วันนี้สองทุ่มที่ตึกแสงทอง ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ...” ตั้งแต่ออกจากโรงแรมแขไขก็ไม่ได้กลับบ้าน แต่เดินไปตามถนนเพียงลำพัง หลังจากเดินไปตามถนนเท้าของเธอก็มีอาการเจ็บปวดอย่างมาก และก็ไม่รู้ว่าตนเองจะไปที่ไหน ปิติกรก็ไม่อยู่บ้าน เธอกลับไปได้เพียงแค่เส้นทางสู่ความตายได้เท่านั้น เพราะเธอได้ตะโกนด่าวิณในตอนนั้นและไม่รู้ว่าในตอนนี้ชายคนนั้นได้รายงานต่อฉัตรพรไปถึงไหนแล้ว หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาเพื่อนที่ดีของเธอ เพื่อนร่วมชั้นของเธอตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมัธยมปลาย “ฮัลโหล ไข่หวาน?” ธิภาพูดออกมาจากไมโครโฟนด้วยความตื่นเต้น “เฮ้ย เธอจริงๆด้วย ในที่สุดเธอก็โทรมาแล้ว กลับมาแล้วเหรอ?” แขไข ค่อยๆขยับโทรศัพท์ออกห่าง รอให้เธอกรีดร้องให้จบถึงจะพูดตอบ “ใช่ ธิภา เธออยู่ที่ไหน?” 20นาทีหลังจากนั้น Audi R8 สีแดงก็มาจอดที่ข้างถนน ธิภารีบก้าวเท้าอย่างรวดเร็วและดึงไข่หวานมากอดไว้ในอ้อมแขน “ว้าว ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว คิดถึงเธอแทบตาย!” แขไขมองชุดนอนของเธอ และเป็นครั้งแรกที่เธอยิ้มอย่างจริงใจตั้งแต่กลับมา “ทำไมเธอไม่เปลี่ยนชุดก่อนออกมา?” “ไม่ใช่ว่าฉันคนนี้อยากเจอเธอแทบแย่หรอกเหรอ ไม่แก้ผ้ามาก็ดีแล้ว!” ธิภาดึงมือเธอและผลักให้เข้าไปในรถ “ไปกัน ไปบ้านฉัน” “บ้านเธอ แล้วพี่ชายเธอล่ะ?” “ก็อยู่บ้าน บ้านฉันมีสี่ชั้น พี่ฉันไม่มารบกวนเราสองคนหรอก อีกอย่างใช่ว่าจะไม่เคยเห็นกัน แล้วเธอกลับมาทั้งที่ต้องฉลองหน่อย ไปบ้านฉันเถอะ ไม่อึดอัด” ธิภาชวนอย่างตื่นเต้น แขไข มองไปยังความมืดที่นอกหน้าต่าง เธอเองก็ไม่มีที่ไป จึงพยักหน้าและตกลง บ้านของธิภาทำเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม พี่ชายก็รับช่วงธุรกิจต่อ เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมาก ดังนั้นที่แขไขยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับเธอก็เพราะว่าที่นิสัยจริงใจของเธอ บ้านของตระกูลพงศ์นิธิกุลอยู่ในพื้นที่ที่ร่ำรวยในเขตชานเมืองทางใต้และที่จอดรถอยู่ในชั้นใต้ดิน แขไขตามธิภาขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบน หลังจากเปลี่ยนรองเท้าแตะที่ทางเข้าแล้ว ก็มุ่งหน้าไปชั้นสอง และบังเอิญที่ธิพันธ์กำลังลงมาจากห้องทำงานที่ชั้นสาม “ภา กี่โมงแล้วเพิ่งจะกลับ ฉันว่าเธอ....” พูดได้เพียงครึ่งเสียงของธิภาเงียบไปเพราะมองเห็นแขไขที่ยืนอยู่ข้างกาย “ไข่หวาน?เธอกลับมาแล้ว?” แขไขรู้สึกเกร็งเล็กน้อยและพยักหน้า “เพิ่งกลับมาแล้ว ไม่ได้ติดต่อธิภามานานแล้ว ก็เลยมาเล่นด้วยกันหน่อย” ธิพันธ์แก่กว่าเธอหกปี แค่มองก็รู้แล้วว่าเธอกำลังเกร็ง จึงพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ใช่แล้ว ภาของเราคิดถึงเธอแล้ว แฟนก็ไม่ยอมหา เอาแต่คิดถึงเธอ....กลับมาแล้ว ไข่หวานมีแฟนแล้วหรือยัง?” แขไขยังไม่ทันที่จะตอบก็ถูกธิภาขัดจังหวะ และจ้องเขม็งไปที่พี่ชายของเธอ “โธ่พี่ ทำไมถึงถามอะไรจุกจิกแบบนั้นเล่า!” ธิพันธ์เห็นว่าทั้งสองคนกำลังเขินอาย และในใจก็มีคำตอบไว้อยู่แล้ว “โอเคๆ ฉันไม่ถามแล้ว พวกเธอไปเล่นด้วยกันเถอะ รีบนอนล่ะ” ธิภาผลักไข่หวานเข้าไปในห้อง แต่เธอกลับวิ่งลงไปชั้นล่างและไปหาธิพันธ์ที่อยู่ในครัว “พี่ ทำไมแสดงออกชัดเจนแบบนั้น เพิ่งจะเจอก็ถามแล้วเหรอว่ามีแฟนรึยัง!” ธิพันธ์ลูบคางตัวเองและเลิกคิ้วถาม “มีไหม?” ธิภารู้ว่าพี่ชายของเธอหลงใหลในตัวเพื่อนสนิทของเธอ คิดไม่ถึงว่าหลังจากไปหนึ่งปีแล้วเขาก็ยังไม่ตัดใจ และมองเขาอย่างเตือนๆ “เบาหน่อย ไม่งั้นฉันอาจจะลงมือจัดการญาติตัวเองได้นะ!” ธิพันธ์แลบลิ้นออกมา “รีบๆขึ้นไปข้างบนไป แล้วดูว่าคนอายุเท่ากันอย่างไข่หวานว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว!” “เอาเลย ตะโกนเลย เขาไม่สนใจพี่หรอก” ธิภาทำหน้ากวนๆใส่เขาและหยิบน้ำหนึ่งแก้วขึ้นไปชั้นบน ทิ้งธิพันธ์ไว้พร้อมกับรอยยิ้มและการส่ายหัว แขไขและธิภาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมต้นและมัธยมปลายก็อยู่ด้วยกัน ในช่วงมหาวิทยาลัยก็คิดจะเรียนด้วยกัน แต่ในช่วงนั้นตระกูลดาวริศกุลมีปัญหา ปิติกรและขณิฐาต่างแบ่งมรดกกัน ฉัตรพรกลัวว่าเธอจะมาแย่งมรดกด้วย เมื่อเธอจบมัธยมปลายจึงส่งเธอไปที่ประเทศM จริงๆแล้วก็อยากจะผลักไสเธอออกไปด้วย และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเธอและธิภาจึงไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ช่วงเวลาที่แสนแหวน พวกเธอพูดคุยกันทุกเรื่อง นอนบนเตียงใหญ่ที่แสนนุ่มด้วยกัน ในที่สุดแขไขก็พบคนที่เธอวางใจและสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง เธอเล่าให้ธิภาฟังตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นที่ประเทศJจนถึงคืนนี้ แน่นอน เรื่องราวความสัมพันธ์ในคืนนี้เธอเลือกที่จะเก็บไว้ เมื่อธิภาได้ฟังก็รู้สึกตกตะลึง และกลัว และกระตุ้นเธอเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่พูดอะไรต่อ “วิณคนนี้ ฉันเคยได้ยินพ่อพูดถึง ครอบครัวเขาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วีรสกุลกรุ๊ปจำกัดเคยได้ยินไหม ตอนนี้พ่อพิธานและพี่ชายเวทิศกำลังดูแลธุรกิจอยู่ เขาเป็นผู้นำตระกูลมหาเศรษฐีทรงอิทธิพลระดับโลกเลย” แขไขกลิ้งไปมาและพึมพำ “ทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?” “นี่ไม่ใช่ระดับที่ยอดเยี่ยมธรรมดานะ แต่คือระดับที่ยอดเยี่ยมอย่างทรงพลังเลยล่ะ” ธิภาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอางี้ ธุรกิจของฉันในสายตาเขา อาจเป็นเพียงแค่ลมตดเลยล่ะ.....” เมื่อธิภาพูดถึงท่อนนี้ ราวกับว่าเธอกำลังรู้สึกแปลกๆ และสีหน้าเปลี่ยนไปสองวิและพูดต่อ “เออก็ลมตดนั่นแหละ” “…………..” “ดังนั้นการที่ไปยั่วยุผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ทางที่ดีเธออย่าไปทำให้เขาขุ่นเคืองเลย” แขไขถอนหายใจ “ฉันอาจจะทำให้เขาขุ่นเคืองไปแล้ว...” เมื่อคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้และคำเตือนของฉัตรพรแล้วภายในใจของแขไขก็รู้สึกกระวนกระวายมาก พรุ่งนี้เช้าฉัตรพรไม่เพียงแต่จะรู้ว่านอกจากจะทำให้วิณไม่พอใจแล้วแถมยังทำให้เขาขุ่นเคืองอีกด้วย ดูแล้วเขาจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่ๆ
已经是最新一章了
加载中