ตอนที่ 189 สั่นสะท้าน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 189 สั่นสะท้าน
ตอนที่ 189 สั่นสะท้าน “เตชิตตตตต~” น้ำเสียงที่เจือปนความเคืองโดยที่ตนเองก็ยังไม่รู้ “คุณเกือบจะพร้อมแล้วนะ” “ไม่ได้นะตอนนี้ทีนาร์เข้ามาพักที่นี่ ยังมีน้ารินอยู่อีกคน ไฟทั้งสองอันนี่ส่องตาจนตาจนปวดตา หาโอกาสอยู่ใกล้ชิดอยู่กับคุณไม่ได้เลย” ไฟห้องน้ำ..... นัชชาเกือบจะพ่นน้ำออกมา คำพูดที่ว่ามีความสุขบนความทุกข์คนอื่น “คุณหาเรื่องเองนะ จะโทษใครได้ล่ะ” “ยังไงนะ คุณไม่สบายใจหรอ? เขาหยิกต้นขาเธอ จะสบายใจอะไรก็ไม่มีประโยชน์ คุณต้องชดใช้ผมคืนในตอนกลางวัน” เขาสองคนยังคงเถียงกันอยู่ในห้องทำงานสักพักจนใกล้ถึงเวลาเข้างาน เตชิตถึงได้ปล่อยตัวนางออก เธอรีบเดินตรงแหน่วไปยังประตูห้องทำงาน เตชิตอยากลุกขึ้นไปส่งเธอที่หน้าประตู ที่ไหนได้ตอนเขากำลังยืนขึ้นปลายเท้าถึงกับมีอาการเซ เขาจับโต๊ะเพื่อประคองตัว เขาครุ่นคิดพลางเรียกถามเธอ “นัชชา ช่วงนี้กินจนอ้วนแล้วหรอ?” นัชชาที่กำลังเดินไปถึงหน้าประตูถึงกับหยุดเท้าหันตัวกลับมามองเขาอย่างงงๆ “ยังไงนะ?” เขาชี้ไปที่หน้าแข้งเขา “คุณนั่งทับผมจนชาหมดแล้ว” “…..” นัชชากัดริมฝีปาก “ใครอ้วนหรอ นั่งนานไปหน่อยเลยชา!” “ไม่เป็นไร อ้วนขึ้นหน่อยก็ดีนะ เต็มมือ...” เขายังพูดไม่ทันจบ สาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาเมื่อกี้ก็เปิดประตูกระโดดหายออกไปอย่างกับควันไฟ เธอที่ร่างกายที่สุขภาพดีทำอย่างกับว่ามีปีศาจใต้น้ำกำลังวิ่งตามเธออยู่อย่างไงอย่างนั้น เตชิตได้แต่มองเธอที่หายไปต่อหน้าต่อตาเขา เขาหันตัวกลับเข้าห้องทำงานเขาหยุดยืนด้านหน้าของหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เขามองลงด้านล่างที่เห็นรถขับไปวนมาเหมือนรังมดซึ่งเป็นแบบนี้ทุกๆวัน เขา เขาควรจะคิดถึงตัวเองหรอ? ช่วงนี้การแสดงออกของเขาค่อนข้างเจ้าชู้ ชอบแกล้งคนมาก.... นัชชาที่รีบออกมาอย่างกับควันไฟกลับมาถึงห้องทำงาน เพื่อนร่วมแผนกยังไม่กลับมา มีแค่เก๋ที่นั่งอยู่ด้านหลังห้องทำงานเท่านั้นที่กำลังนั่งกินจุบจิบพวกขนมอยู่ เธอได้ยินเสียงคนเข้ามา เธอรีบเอาพวกขนมที่อยู่ในมือเก็บทันที เธอเงยหน้ามองนัชชา แล้วเอาขนมขึ้นมาอีกครั้ง “โอย แม่เจ้า ตกใจหมดเลย ฉันนึกว่า魏主任ซะอีก...” “ทำไรอ่ะ เป็นขโมยหรอ ทำไมละอายใจขนาดนี้อ่ะ?” นัชชาตบไหล่เธอเบาๆและก็หยิบแผ่นมันฝรั่งที่วางอยู่บนจานของเธอเอาใส่ปากไปหนึ่งคำ “ใครเป็นขโมยล่ะ กินขนมในห้องทำงานดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฉันกลัวถูกบ่นหน่ะ” เก๋งับแผ่นมันฝรั่ง ดังกร๊อบแกร๊บ “ตอนกินข้าวเธอไปไหนมาอ่ะ ไม่เห็นเธอเลยนะ?” “ขึ้นไปข้างบน” นัชชามองและชี้ขึ้นไปด้านบน ก็ไม่ได้คิดจะปิดบังเธอเพราะว่าทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว ปิดบังไปก็แสดงแค่นั้น เหมือนโกหกอยู่ แต่ว่า..... “ทำไมกลับมาเร็วจัง ปกติเธอเป็นคนสุดท้ายกลับมาที่โต๊ะไม่ใช่หรอ?” ปกติเก๋กินข้าวเสร็จจะดื่มกาแฟตามเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า วันนี้กลับมาก่อนมากินขนมที่นี่อ่ะนะ? เก๋ที่กำลังเอาขนมเข้าไปถึงกับหยุด สีหน้าเปลี่ยนไปดูไม่เป็นธรรมชาติ “วันนี้มีธุระ มีธระ....” ปกติเธอไม่พูดโกหก ขนาดนัชชายังมองออก พฤติกรรมที่ปิดบังต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่ๆ นัชชาเหมือนได้กลิ่นไม่ค่อยดี “เธอมีแฟนแล้วใช่ไหม?” “แค่กๆ....." เก๋ถึงกับสำลักน้ำลายแล้วรีบโบกมือไปมา “เธออย่าพูดมั่วนะ ฉันจะไปหาแฟนที่ไหน หล่ะ ฉันมาทำงานตรงเวลาเป๊ะ” นัชชาถึงกับรู้สึกได้อะไรบางอย่าง “หึย ไม่ใช่แล้ว ฉันจำได้ว่าเธอไม่ค่อยกินขนมสักเท่าไหร่ วันนี้เอาขนมมากินในบริษัทเลยมันไม่ใช่นิสัยของเธอนะ ....” เธอพูดไปมองรอบๆเก๋ไป เก๋แทบไม่ได้สนใจเลย ได้แต่รีบแย่งเอาขนมคืนกลับมา มองแล้วมองอีกพลางเห็นขนมอยุ่หนึ่งห่อ เขียนเป้นภาษาต่างประเทศแน่นอนว่าเธอไม่ได้ซื้อเองแน่ๆ “พูดมา ใครเอามาให้เธอ” นัชชามองเธอแบบขำๆ เก๋อ้ำอ้ำอึ้งอึ้งไม่ยอมพูดออกมาสักที อาจจะเป็นเพราะว่าถูกบังคับจนสับสน หน้าแดงอย่างกับลูกมะเขือเทศ “โอ้ย อย่าถาม เลย....” “ยังไง ยังพูดไม่ได้อีกหรอ?” เก๋ผลักเธอเบาๆให้นั่งลงบนโต๊ะ พูดอ้อมแอ้มออกมา “ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้นี่!” “ฉันหรอ?” นัชชี้ชาไปที่ตัวเองถึอย่างมึนๆ “เธอไม่พูดแล้วฉันจะรู้ได้ยังไง” “ฉันคิดไปเอง” นัชชาจับต้นชนปลายไม่ถูกกับสิ่งที่เก๋พูด คิดไปคิดมาก็คิดไม่ออก “ตกลงว่าใครอ่ะ บอกฉันได้ไหมฉันไม่บอกคนอื่นต่อ” “อาชัญ…..” “อะไรนะ?” นัชชาได้ยินไม่ชัด “เธอพูดอะไรนะ?” “ตรัณนั่นอ่ะ” เก๋ถึงกับถูกเธอถามจนทนไม่ไหว ในที่สุดก็พูดออกมาสักที ตอนนี้นี่แหละ นัชชาถึงกับตกใจ “หา?” ถีงแม้ว่าตอนแรกตั้งใจจะแนะนำให้เก๋ได้รู้จักแต่ตลอดเวลาไม่ได้พูดเลย อยู่ดีๆสองคนก็คบกันแล้ว? “เธอเก่งนะ เร็วทันใจดี” “เชอะ!” เก๋หน้าแดงแจ๋ทำตาโตมองเธอ “อย่าพูดมั่ว เราแค่เพิ่งเริ่มคุยกัน” นัชชากระดิกนิ้วชี้ขึ้นลงไปมา“เธอไม่เข้าใจ ฉันเข้าใจในความรู้สึกของตรัณ ถ้าเขาไม่ชอบเธอ เขาจะไม่สนใจเธอเลย” หรือเป็นเพราะว่าอยู่ใกล้กับเตชิตเลยโดนผลกระทบไปด้วย ถึงแม้ว่าตรัณดูแล้วจะนิ่งๆเรียบร้อย แต่ในความจริงแล้วเขาค่อน ข้างมีด้านมืด เป็นภายใต้รอยยิ้มนั้นซ่อนมีดแหลมคมไว้ เธอยังเคยรู้ว่าเขาอบอุ่นกับเธอมากแต่ที่จริงแล้วเขาแทบจะจำไม่ได้เลย ตั้งแต่แรกว่าเธอคือใคร นี่คือเรื่องจริงที่เธอเคยมีประสบการณ์มาแล้ว “ทำไมเขาถึงอยากส่งของให้เธอกินล่ะ?” เมื่อโดนถามถึงเรื่องนี้ เก๋ทำกับทำเครียดร้องไห้ไร้น้ำตา เธอขยับตัวหยิบกล่องสีดำใต้โต๊ะทำงานที่ไม่เล็กมากขึ้นมา “เธอดูนี่” ในกล่องนั้นอัดแน่นไปด้วยขนมที่นำเข้าหลากหลายชนิด นัชชาเห็นแล้วถึงกับทำโตออกมา ไม่คิดเลยว่าผู้ช่วยตรัณเป็นคนจริงจังมาก ตัวตนที่แท้จริงแล้วเป็นเด็กน้อย ขนาดส่งของขวัญ ยังส่งเป็นพวกขนม.... เก๋รีบหยุดไม่ให้นัชชาพูดต่อตอบกลับโดยเร็ว มันทั้งตลกและทั้งหน้าเบื่อ “เมื่อคืนวานฉันอยู่บ้าน ที่บ้านก็ไม่มีอะไรกิน เลย โพสต์ลงในบล็อกเพื่อนบ่นไปเรื่อยว่า ถ้ามีใครหอบขนมห่อใหญ่ๆเอามาให้ต่อหน้า ฉันจะให้เขาเป็นแฟนแหละ .... เธอก็รู้ว่า ฉัน ก็แค่ล้อเล่น ที่ไหนได้วันนี้เขาเอาขนมมาให้ฉันเลย....” ช่วงพักทานข้าวตอนกลางวัน ตรัณให้เธอไปหาที่จอดรถ ที่ไหนได้เขาหยิบลังใหญ่ออกมาจากด้านหลังของรถออดี้ A8 คันนั้น เธอนึกไปก็ยังขำ “ไม่คิดเลยว่าตรัณเป็นคนที่ชอบแสดงออก” นัชชารู้สึกอารมณ์ดีที่ได้เจอเรื่องที่ดีแบบนี้ “คนอื่นเขาให้ความสำคัญถึงการเป็นแฟนไม่ได้หมายถึงขนมสักหน่อย” “แต่ว่า....” พูดเรื่องนี้ เก๋ก็ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ “แท้จริงแล้วเขาเป็นเจ้านาย ตำแหน่งเขาสูงกว่าฉันมาก ฉันกลัวว่าจะถูกคนอื่นนินทา” นัชชาตบไหล่เธอเบาๆพลางพูดปลอบใจ “เธอมีความรักก็เพื่อตนเองไม่ได้มีความรักไปเพื่อคนอื่น ถ้าชอบก็อย่ากลัว ไม่งั้นเดี๋ยวจะเสียใจในภายหลังนะ” เก๋ถอนหายใจ ณ ตอนนี้รู้สึกว่านัชชาไม่เหมือนกับเวลาปกติช่างกล้าหาญจริงๆ เธอพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว” หลังจากเลิกงานในช่วงเย็นแล้ว นัชชาก็ไปห้องทำงานรอเตชิตเลิกงาน เขาประชุมไม่หยุดจนถึงสองทุ่มถึงเสร็จ ระหว่างทางกลับบ้านผ่านละแวกมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้านนอกก็มีตลาดกลางคืนตั้งร้าน นัชชาดูรถอาหารร้านแล้วร้านอีก คิดถึงความทรงจำในอดีต ทันใดนั้นเองอยากจะลงไปเดินเที่ยวเล่น “เตชิต เราไปเดินเที่ยวตลาดกลางคืนกันนะ” ผู้ชายคนที่กำลังขับรถนั่นหันหน้าไปมองด้านนอกที่มีฝูงชนพลุกพล่านไปทั่ว คนเบียดเสียดยัดเยียดกันภายใต้แสงไฟที่ไม่ค่อยสว่างเท่าที่ควร ไม่เห็นมีตรงไหนที่น่าสนใจ เขาไม่เข้าใจจริงๆ “ที่นี่มีอะไรน่าสนุก?” “ดูเหมือนว่าคุณยังไม่เคยเดินเที่ยว” นัชชายกมือขึ้นตบไหล่เขา ทำอย่างกับนางจิ้งจอกน้อยที่มองเขาด้วยสายตากระหืดกระหาย “เดี๋ยววันนี้ฉันจะทำให้คุณรู้ถึงเสน่ห์ของตลาดมืด รับประกันเลยว่าคุณมาครั้งนี้ครั้งแรกก็อยากมาครั้งที่สองแน่ๆ” เตชิตไม่ได้สนใจสักนิด แต่เห็นเธอสนใจมากเลยตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ เขาเอารถจอดไว้ที่ปากซอยที่ลานจอดรถกลางแจ้ง รถหรูราคาหลายล้านจอดข้างๆกับรถราคาแค่ไม่กี่แสน เด็กหนุ่มที่มองอยู่ถึงกับตกใจ เตชิตยืนเงินไปห้าร้อยบาท ไม่มีแบงค์ย่อย เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นัชชาดึงเขาเข้าในกลุ่มคน คนพลุกพล่านเดินกวักไกว่ไปมาเดินไหล่แทบจะชนกันเต็มถนน ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยใบหน้าอันหนาว เหน็บกลับมีกลุ่มควันไฟเพิ่ม บนถนนมีของทุกชนิดจัดวางไว้เต็มไปหมด ของกินก็มีอยู่บนรถ คนไม่น้อยเลยที่ทั้งกินทั้งเดินเที่ยว เล่น เห็นใบหน้าของวัยรุ่นเหล่านั้นเต็มไปด้วยความสุข ขนาดอากาศที่ว่าหนาวแล้วยังช่วยให้คลายหนาวได้ส่วนหนึ่ง นานแล้วที่นัชชาไม่ได้มาเดินเที่ยวมองไปทางไหนก็สนใจไปทั่ว เมื่อเดินมาสักพักกลับรู้สึกได้ว่าผู้ชายที่เดินมาด้วยข้างๆกลับไม่มีความรู้สึกใดๆ เธอเงยหน้าขึ้นไปมอง ครึ่งใบหน้าท่โผล่ออกมานั้นเห็นถึงจมูกที่โด่ง เบ้าตาลึก กำลังขมวดคิ้ว เห็นได้เลยว่าเขาไม่ชิน นัชชาคิดได้ว่าเขาเพิ่งเสร็จจากการประชุม วุ่นวายมาทั้งวัน ปกติตัวเขาก็ไม่ค่อยชอบอะไรที่วุ่นวาย แต่เขายังยอมที่จะตามใจตัวเองมาเดินเที่ยวตามถนนแบบนี้ คิดได้เรื่องนี้ ใจเต้นรัว นัชชาเลื่อนสายตามองที่อุ้งมือขนาดใหญ่ที่แกว่งอยู่ในอากาศ เธอยิ้มแล้วจับมือของเขาไว้ แล้วก้ทำเหมือนเด็กน้อยเอามือเขายัดเข้ากระเป๋าของตัวเอง สายตายิ้มแถมซ่อนแสงประกายวิบวับ “คุณไม่กลัวหนาวหรอ”
已经是最新一章了
加载中