ตอนที่13ลักลอบพลอดรัก
1/
ตอนที่13ลักลอบพลอดรัก
Cotinue love เลห์รักยัยดื้อ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่13ลักลอบพลอดรัก
ตอนที่13ลักลอบพลอดรัก บนโต๊ะอาหารแพรวาตักข้าวต้มใส่ปากเล็กๆของเธอแล้วมองไปที่อื่นฟังคนทั้งสี่คนกำลังพูดคุยกันเงียบๆนอกจากพรรษิษฐ์จะชมปิยะวัฒน์ว่าหนุ่มอย่างนั้นอย่างนี้เสร็จแล้วก็ยังพยายามลากเข้ามาเรื่องการแต่งงานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของคนเราพรรษิษฐ์ตั้งใจพยายามจะโยงเข้าเรื่องแพรใจปิยะวัฒน์ท่าทางถ่อมตัวไม่แสดงท่าทีอะไรให้ดูออกได้ชัดเจน ถ้าพูดถึงปิยะวัฒน์แล้วแพรวารู้เรื่องของเขาไม่ถึงสิบคงจะประมาณเจ็ดเห็นจะได้บริษัทเอส.อามีคนสวยมากมายไปหมดก็ยังไม่เห็นจะดึงดูดให้ปิยะวัฒน์สนใจได้เลยการพูดกับแพรใจก็แค่ฝืนทำตามมารยาทยิ่งไปกว่านั้นปิยะวัฒน์รำคาญที่สุดคือผู้หญิงที่เรื่องเยอะเห็นได้ชัดเจนว่าแพรใจไม่ใช่คนที่ชอบความสงบในสายตาของ ปิยะวัฒน์แพรใจก็แค่คู่ควงชั่วคราวก็คงเป็นไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ว่าปิยะวัฒน์ทำไมได้มาดูตัวกับแพรใจถึงขนาดมาส่งเขาที่บ้านน่ะหรออาจจะเป็นเพราะท่านประธานบริษัทอย่างปิยะวัฒน์รู้สึกเบื่อๆจนเกินไปล่ะมั้งเลยหาเรื่องสนุกๆทำ “แค่กๆ”แพรวาสำลักน้ำแกงขึ้นจมูกรีบดึงกระดาษทิชชูมาซับที่จมูกบทสนทนาถูกทำให้ชะงักญาญิณีมองแพรวาอย่างเอือมระอาสีหน้าดูก็รู้ว่าไม่พอใจ พรรษิษฐ์หันมาถาม“เป็นอะไรรึเปล่า” แพรวาส่ายหัว“ไม่เป็นอะไรค่ะแค่ดื่มน้ำแกงเร็วไปหน่อยก็เลยถูกน้ำแกงลวกลิ้น” แพรวาหลุบเปลือกตาลงต่ำค่อยๆเช็ดที่ริมฝีปากสายตาเรียบๆมองไปที่ใต้โต๊ะ เท้าของปิยะวัฒน์กำลังเกี่ยวไปถูที่ขาอุ่นๆของเธอแต่เบื้องหน้านั้นทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นไม่มีใครเห็นพฤติกรรมที่รุ่มร่ามของเขา เห็นสายตาของเธอมองกลับมาปิยะวัฒน์ก็ไม่ลืมที่จะพูดจาประชด“ลิ้นคือส่วนที่สำคัญที่สุดคุณแพรวาต้องดูแลรักษาดีๆนะครับ” แพรวายิ้มและตอบรับ“ขอบคุณคุณปิยะวัฒน์ที่เตือนค่ะต่อไปฉันจะระวัง” แพรใจมองสองคนกำลังคุยกันกลับไปกลับมาเห็นแล้วว่าเป็นการพูดคุยธรรมดาแต่กลับรู้สึกสะกิดใจแปลกๆที่ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง เธอรีบพูดแทรกขึ้นมา“คุณปิยะวัฒน์คะฉันได้ยินมาว่าอาทิตย์หน้าในเครือซิ่งอี้จะจัดงานกาล่าการกุศลเอสอาก็เข้าร่วมด้วยไม่ทราบว่าคุณปิยะวัฒน์จะไปร่วมเป็นเกียรติด้วยหรือเปล่าคะ” มีเท้าที่ยังยุ่มย่ามอยู่บนขาไม่ยอมเอาออกไปจนแพรวาต้องยื่นขาถูกลับคืนไปเหมือนกัน ตัวของผู้ชายนั้นถูกยั่วเย้าให้ขึ้นนั้นง่ายกว่าผู้หญิงแพรวาเอาขามาถูขาปิยะวัฒน์และเอาหลังเท้ามาถูเบาๆช้าๆ ปิยะวัฒน์ตัวทื่อแข็งขึ้นมาอยู่วินาทีเหลือบตาขึ้นมากวาดสายตาไปที่แพรวาเม้มริมฝีปากแน่นพูดไม่ออก “อ่อคับผมไม่ชอบงานเลี้ยงแบบนี้ครับไม่มีทางไปงาน”ปิยะวัฒน์พูดพร้อมลุกขึ้นยืนบอกว่า“เย็นมากแล้วผมควรจะกลับได้แล้ว” แพรใจก็ลุกขึ้นยืน“ดื่มให้หมดแล้วค่อยกลับไม่ต้องรีบร้อนขนาดนนั้นก็ได้ค่ะ” “ไม่ดีกว่าครับ”ปิยะวัฒน์มองไปที่แพรวาพูดเรียบๆว่า“ถ้าดื่มเยอะเกินผมกลัวจะมีอาการร้อนใน” แพรว่ากระตุกยิ้มตรงมุมปากคล้ายจะหัวเราะก็ไม่หัวเราะเหมือนแขวะอยู่ในทีเขามองท่าทีพอใจของคนที่เคยอยู่ในอาณัติเขามาก่อนก็รู้สึกคันในหัวใจอยากจะลงโทษด้วยการจับกดลงบนเตียงตลอดเวลาเข้าใจเสมอว่านี่คือกระต่ายเชื่องๆตัวหนึ่งตอนนี้ถึงพึ่งจะรู้ฝ่ายตรงข้ามแท้จริงนั้นเป็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ชอบยั่วยวนคนตัวหนึ่ง ปิยะวัฒน์มองแพรวานิ่งๆจากนั้นก็ก็รีบก้าวยาวๆเดินออกไป ตอนที่ครอบครัวเกาออกไปส่งปิยะวัฒน์แพรวาก็กลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวอาบน้ำ แต่ว่าเพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามาอย่างแรงแพรใจยืนหน้าเรียบเย็นอยู่หน้าประตูพูดอย่างโมโห“แพรวานางจิ้งจอกหน้าไม่อาย” คำพูดปรักปรำประหลาดที่ยัดเยียดมาให้แพรวารู้สึกว่ามันน่าขำสิ้นดีกอดหน้าอกยืนพิงที่หน้าห้องน้ำกระตุกคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า“เพิ่งจะส่งเจ้าบ่าวกลับไปก็แสดงต่อไม่ไหวแล้วหรอความจริงเธอแสดงเป็นผู้หญิงที่ดูงดงามเพียบพร้อมก็ดูไม่เลวนะเวลาด่าคนจนเส้นเลือดขึ้นหน้าผากแบบนี้ดูแล้วรู้สึกหน้าตาดุร้ายน่ากลัว” แพรใจโกรธจนแทบควันจะแทบจะพ่นไฟได้แล้วก็กวาดเอาของที่แพรวาวางไว้บนโต๊ะลงไปที่พื้นพูดเสียงแหลม“ตอนที่อยู่บนโต๊ะอาหารแกเล่นหูเล่นตาใส่คุณปิยะวัฒน์แกคิดว่าฉันตาบอดหรือไงฉันขอเตือนแกไว้คุณปิยะวัฒน์ไม่ใช่คนที่แกจะมายุ่งด้วยได้อยู่ให้ห่างๆเขาเข้าไว้” แพรวาพูดในใจว่าแพรใจน่ะแหละที่ตาบอดพวกฉันน่ะลักลอบพลอดรักที่ใต้โต๊ะต่างหาก แพรวาหุบยิ้มพูดเรียบๆ“เธอสบายใจได้แต่ไหนแต่ไรฉันไม่สนใจผู้ชายที่มีเจ้าของหรอก แต่อันดับแรกเธอต้องจับเขาให้ดีๆล่ะ” “ถ้าทำได้อย่างที่แกพูดก็จะดีมากไม่งั้นฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่”แพรใจทิ้งท้าย หลังจากที่แพรใจออกจากห้องไปแพรวาก็ก้มเก็บของที่อยู่บนพื้นขึ้นมาสีหน้าของแพรวาเย็นชาราบเรียบส่วนภายในใจนั้นกลับยิ่งรู้สึกเงียบเหงาเสียงของแพรใจค่อนข้างดังแพรวาไม่เชื่อว่าพ่อจะไม่ได้ยินเสียงพ่อมีแต่ปล่อยให้แพรใจทำทุกอย่างตามอำเภอใจปล่อยจนไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำจะถูกหรือจะผิดถึงแม้จะรู้ความจริงแบบนี้แล้วทุกครั้งแพรวาก็ยังคาดหวังในตัวพ่อพอคิดแล้วช่างเป็นความคิดที่ไร้ค่าสิ้นดี ปิยะวัฒน์กลับมาถึงรถพยายามระงับอารมณ์โกรธจากนั้นจึงโทรศัพท์ไปหาจรณ์ที่เป็นผู้ช่วย “แพรวาเป็นลูกสาวของพรรษิษฐ์เพราะอะไรก่อนหน้านี้ฉันให้แกตรวจสอบถึงตรวจสอบไม่เจอ” จรณ์ชะงักไปเล็กน้อย“ท่านครับตอนที่ท่านกับคุณแพรวากำลังคบกันอยู่นั้นโรงงานพรรษิษฐ์เป็นแค่ลานโรงงานเสื้อผ้าเขาเพิ่งจะรวยอย่างรวดเร็วมาเมื่อสองปีที่แล้วนี่เองก็เลยทำให้ตอนแรกไม่มีข้อมูลปรากฏขึ้นมา” “รวยอย่างรวดเร็วเนี่ยนะ”ปิยะวัฒน์กำลังครุ่นคิดคำว่ารวยอย่างรวดเร็วคิ้วย่นขึ้น “ครอบครัวมีฐานะและยังเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้อยากจะมีชื่อเสียงทำไมถึงอยากจะทำงานในวงการบันเทิงล่ะ” ปิยะวัฒน์รู้สึกว่าสามปีที่ผ่านมานั้นเขาไม่เคยรู้จักตัวตนจริงของแพรวาเลยคงจะต้องเริ่มต้นทำความรู้จักแพรวาใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ บ้านของแพรวาไกลจากบริษัททำให้ทุกวันแพรวาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อจะขับรถไปที่กองถ่ายถ่ายโฆษณาไม่เหมือนกับถ่ายละครฉากหนึ่งฉากต้องถ่ายหลายรอบจนถึงสิบรอบก็ยังมีและไหนจะต้องพยายามจะดึงอารมณ์ให้ได้ตามที่ผู้กำกับต้องการอีกหลังจากถ่ายเสร็จแค่เห็นแปรงสีฟันก็แทบจะอ้วกออกมาการใช้ชีวิตแบบนี้ผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์บริษัทก็บอกกะทันหันให้ไปร่วมงานการกุศลเพื่อให้ดูขึ้นกล้องและแสดงน้ำใจพนิตเจ้าของบริษัทที่แพรวาทำงานอยู่ก็อนุญาตให้แพรวาพักผ่อนตลอดช่วงบ่าย เมื่อออกจากบริษัทแพรวารู้สึกหัวหนักๆเท้าไม่มีแรงเหมือนตอนออกจากบ้านมีคนอีกคนเกาะติดมาด้วย ร่างกายของแพรวาเริ่มโงนเงนตอนที่จะล้มลงไปก็มีคนเข้ามาช่วยประครองให้ยืนทรงตัวได้มั่งคง “ขอบคุณมากค่ะ”แพรวานวดตรงขมับนวดคิ้วพรางตอบออกไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองมุ่งตรงเดินจากมาทันที ญาณวุฒิยังคงยืนมองหลังของแพรวาที่เดินจากไปอยู่ที่เดิมด้วยสายตาครุ่นคิด ปพนผู้ช่วยของญาณวุฒิก้มลงไปเก็บกระดาษที่อยู่บนพื้นขึ้นมาดูแล้วตะโกน“ท่านครับท่านดูนี่ดูนี่ก่อน” ญาณวุฒิกวาดตามองบิดปากแต่ไม่พูดอะไร “คุณญาณวุฒิต้องการให้เอากลับไปส่งคืนให้เธอหรือเปล่า”ปพนถามเบาๆ “เอามาให้ฉันมา”ญาณวุฒิรับมาแล้วก็เก็บไปในกระเป๋าเสื้อสูทแล้วก็รีบเดินออกมา
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่13ลักลอบพลอดรัก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A