ตอนที่14รังเกียจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่14รังเกียจ
ตอนที่14รังเกียจ แพรวาไม่มีเวลาแม้จะกินข้าวพอถึงห้องของจิตราก็หลับไปในทันทีจิตรารู้ว่าหลายวันมานี้แพรวาเหนื่อยก็เลยไม่ปลุกหรือรบกวนจากนั้นก็ไปเตรียมเสื้อผ้าเครื่องประดับให้เรียบร้อยรอแค่เมื่อแพรวาตื่นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปได้เลย เวลาห้าโมงเย็นจิตราก็ปลุกให้แพรวาตื่นเธองัวเงียบ่นตามอารมณ์คนพึ่งตื่นแค่ไม่กี่คำแพรวาก็ถูกจิตราผลักเข้าไปในห้องน้ำ รอจนแพรวาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วออกมาจิตราจึงพูดขึ้นมาว่า“บัตรเชิญงานกาล่าการกุศลอยู่ไหน” แพรวาทำปากยื่นๆชี้ไปทางเตียงที่มีกองเสื้อผ้า“ข้างในกระเป๋าล่ะ” จิตราค้นดูสักพักแล้วก็ขมวดคิ้ว“แกลืมเอามาหรือเปล่า” “เป็นไปไม่ได้ตอนที่ประธานพนิตเอาให้ฉันฉันก็สอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเลยจนกระทั่งแกโทรมานั่นแหละฉันก็ออกมา”แพรวาพูดแล้วก็เดินมาช่วยหาบัตรเชิญหาอยู่หลายรอบแล้วก็หาไม่เจอค่อนข้างประหลาดใจที่หาไม่เจอเลย “ทำไมมันไม่เจอล่ะฉันมั่นใจว่าเอาไว้ตรงนี้”แพรวาเอามือดึงผมคิ้วขมวดแน่น “ช่างเถอะไม่ต้องหาแล้วเดี๋ยวฉันโทรหาจวิ้นหลานลองๆดูว่าพอจะมีทางหาให้อีกสักใบหรือเปล่า” จิตรากำลังโทรหาจวิ้นหลานชนัตอยู่ภายในงานแล้วพอได้ฟังสถานการณ์แล้วก็พูดขึ้นมาว่า“ตอนเข้ามาในงานบัตรเชิญของผมถูกเก็บไปแล้วตอนนี้ผมก็ไม่มีวิธีอื่นแต่ว่าไม่มีกฎห้ามพาคู่ควงมาด้วยนะคุณลองติดต่อไปที่บริษัทถามว่ามีนักแสดงผู้ชายคนไหนถูกเชิญมาร่วมงานบ้างแล้วก็เข้ามาในงานพร้อมพวกเขาก็ได้” “พูดก็เหมือนไม่ได้พูดไม่มีประโยชน์”จิตราพูดงึมงำในลำคอแล้วกำชับชนัตว่าอย่าดื่มเยอะจึงวางสายไป ตอนนี้แพรวาพัวพันอยู่แต่กับข่าวฉาวทุกคนก็พร้อมกระเหี้ยนกระหืออยากจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ชู้สาวใครจะเต็มใจมาช่วยแล้วตัวเองพลอยเดือดร้อนไปด้วยแพรวาโยนหวีไปให้จิตราแล้วพูดว่า“วันนี้พ่อของฉันก็จะมาร่วมงานฉันจะลองถามดูว่าฉันไปพร้อมด้วยได้หรือเปล่า” จิตราถลึงตาใส่แพรวา“มีตัวช่วยดีขนาดนี้ทำไมตอนนี้ถึงพึ่งจะคิดออก” แพรวายิ้มเล็กน้อยแล้วรีบติดต่อหาพรรษิษฐ์ผู้เป็นพ่อ ขณะเดินทางพรรษิษฐ์ได้รับสายแพรวาหลังจากวางสายญาญินีขมวดคิ้วถาม“แพรวาโทรมาทำไมคะ” “บัตรเชิญของแพรวาหายจะเข้าไปในงานพร้อมพวกเราผมเลยบอกว่าเดี๋ยวจะรออยู่ที่ชั้นหนึ่ง” ญาญินีชักสีหน้าพึมพำในลำคอ“ของสำคัญขนาดนี้ยังทำหายไม่รู้เลยจริงๆวันๆมัวแต่ไปทำเรื่องไร้สาระอะไรอยู่” “พอได้แล้วอย่าพูดเยอะให้มากเรื่อง”พรรษิษฐ์ตะโกนออกไปไม่ค่อยดังมากหันไปถามคนขับรถว่ายังอีกไกลไหม แพรใจนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่มาหลังจากวันนั้นที่ปิยะวัฒน์มาส่งแพรใจที่บ้านวันทั้งวันจนถึงตอนเย็นก็คอยฟังข่าวดีจากทางปิยะวัฒน์ตั้งตารอนัดครั้งหน้าที่จะได้พบกันเพื่อจะสร้างความประทับใจให้ดีกว่าเดิมแค่ส่งข้อความไปหาปิยะวัฒน์ก็เหมือนขว้างก้อนหินลงไปในทะเลไม่เคยมีตอบข้อความกลับเลยสักครั้งโทรศัพท์ไปก็ไม่เคยรับสายเว้นแต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผู้ช่วยเป็นคนรับสายแล้วบอกว่าปิยะวัฒน์กำลังประชุมอยู่ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะยังมีความไว้ตัวเพราะเป็นผู้หญิงอยู่เล็กน้อยป่านนี้คงไปหาถึงที่แล้วพอนึกมาถึงตรงนี้ว่า ปิยะวัฒน์ไม่ได้มาร่วมงานกาล่าการกุศลคืนนี้แพรใจก็เลยรู้ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนั่งใจลอยตลอดทาง พอรถจอดที่ใต้ตึกสายตาของแพรวาก็มองเห็นปิยะวัฒน์ลงมาจากรถเบนท์ลี่ราคาแพงปิยะวัฒน์ใส่ชุดสูทสีดำที่ตัดด้วยมือผมดกดำที่ถูกจัดแต่งด้วยเจลปัดไปด้านหลังทำให้เห็นโครงมุมหน้าที่ชัดเจนให้ความรู้สึกเรียบหรูไปทั้งตัวคล้ายกับเทพบุตรแสงระยิบระยับจนจ้าตาภายในอกของแพรใจหัวใจเต้นระรัวเร็วรีบหันไปดูเร่งให้พรรษิษฐ์ลงจากรถ “รออีกสักครู่”พรรษิษฐ์บอก พรรษิษฐ์มองดูเวลาบอกแพรวายังมาไม่ถึง แพรใจพูดเสียงสูงขึ้น“แพรวามาทำอะไรพ่อคะพ่อบอกให้แพรวามาหรอ” “จริงๆแล้วแพรวาก็ถูกเชิญมางานนี้อยู่แล้วแต่ทำบัตรเชิญหายก็เลยเข้าไปในงานไม่ได้เลยจะเข้าไปพร้อมพวกเรา” แพรใจขมวดคิ้วแน่น“แล้วจะต้องรอนานแค่ไหนหนูปวดท้องอยากจะเข้าไปเข้าห้องน้ำ” “ยัยเด็กคนนี้นี่นะรออีกสักหน่อยนะ”พรรษิษฐ์มองดูเวลาอีกครั้ง ผ่านไปสิบนาทีแพรวาก็ยังไม่ถึงญาญินีก็เลยพูดเรียบๆว่า“ไม่ตรงต่อเวลาแบบนี้อยากจะรอคุณก็รอเองเถอะฉันกับลูกจะเข้าไปในงานแล้ว” “มีแค่บัตรเชิญแค่ใบเดียวรออีกสักหน่อยไม่อย่างนั้นผมกับแพรวาจะเข้าไปในงานได้ยังไง” ญานิณีโมโหทันที“ถ้าคุณเป็นห่วงเป็นใยยายแพรวาขนาดนั้นคุณก็เข้าไปพร้อมแพรวาเถอะแพรใจพวกเรากลับบ้านกัน” “ตกลงตกลงเข้าไปเข้าไปแค่เข้าไปก็พอแล้วใช่ไหม” สีหน้าของญาญินียังไม่ดีขึ้นพาแพรใจลงจากรถด้านหลังพรรษิษฐ์โทรศัพท์ไปหาแพรวาแต่ไม่มีคนรับสายเลยหันไปมองแล้วมองอีกกัดฟันเล็กน้อยแล้วเดินตามญาญินีและแพรใจเข้าไปในงาน ตอนออกมาจากห้องแพรวาลืมเอาโทรศัพท์มาบนถนนรถก็ดันมาติดพอถึงจึงเอาโทรศัพท์ของจิตราโทรไปหาพ่อรออยู่ตั้งนานจึงมีคนรับสาย “คุณพ่อคะหนูถึงแล้วพ่ออยู่ตรงไหน” “ฉันเองไม่ใช่พ่อโทรศัพท์ของพ่ออยู่ที่ฉัน”แพรใจพูดเรียบๆ“ตอนนี้เธอเดินไปที่ประตูทางเข้าพ่อถือบัตรเชิญรอเธออยู่ที่นั่นรีบๆหน่อยแล้วกัน”พอพูดเสร็จไม่รอให้แพรวาถามให้ละเอียดก็วางสายไป แพรวาถือโทรศัพท์ขมวดคิ้วปกติแล้วแพรใจเป็นปฏิปักษ์กับแพรใจตลอดวันนี้นึกไม่ถึงว่าจะพูดประโยคโดยไม่ใส่อารมณ์แบบนี้ออกมาได้ทำให้แพรใจรู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย แพรวาไม่ชอบใส่ร้ายคนอื่นแต่ว่าแพรวากับแพรใจโตมาด้วยกันทำให้แพรวารู้จักแพรใจเป็นอย่างดี “ว่ายังไงบ้าง”จิตรารับโทรศัพท์มาแล้วถาม “ให้พวกเราเข้าไปได้เลยบอกว่ารออยู่ที่ทางเข้าแล้ว” “งั้นก็ลงจากรถกัน”จิตราพูดเสร็จก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแพรวาลังเลอยู่นิดหน่อยแล้วก็ลงจากรถ งานกาล่าการกุศลเริ่มตอนหนึ่งทุ่มตอนนี้เวลาหกโมงครึ่งประตูทางเข้ามีคนรวมกันอยู่เป็นจำนวนมากทั้งดารานักธุรกิจและบุคคลที่มีชื่อเสียงแพรวาไม่ได้เดินไปข้างหน้ายืนมองพยายามสอดสายตาหาพ่อสอดสายตาหาอยู่หลายรอบก็ยังหาไม่เจอทันใดนั้นแพรวารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลรีบควานหาโทรศัพท์เพื่อที่จะติดต่อหาพรรษิษฐ์แต่ปรากฏว่าทางนั้นปิดเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว ณเวลานี้นักข่าวได้มองเห็นแพรวาแล้วกล้องก็รีบหันมาจับที่แพรวาอย่างรวดเร็วพวกนักข่าวรุมล้อมเข้ามายกไมค์ขึ้นมาจ่อทยอยถามคำถามกัน “จากที่ทราบมาว่างานกาล่าการกุศลวันนี้เป็นการนำของดารามาประมูลเพื่อรวบรวมเงินไปบริจาคไม่ทราบวันนี้คุณแพรวานำอะไรมาสามารถบอกทุกคนสักนิดได้ไหมคะ” “ก่อนหน้านี้ที่มีภาพคุณแพรวาเมาอยู่ที่ผับนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ” “แล้วเรื่องช่วงนี้มีรายงานข่าวเกี่ยวว่ากำลังคบกันกับดาราดังญาณวุฒิคุณแพรวามีอะไรอยากจะพูดซักหน่อยไหมคะ” คำถามมากมายคำถามต่อคำถามส่งเสียงประเดประดังเข้ามาถ้าเป็นแต่ก่อนแน่นอนแพรวาชำนาญมากกว่านี้แต่ตอนนี้แพรวาไม่มีบัตรเชิญถูกกลุ่มนักข่าวรุมแบบนี้ทำให้ไม่สามารถที่หลุดออกไปได้ทำให้ตอนนี้แพรวาเริ่มรู้สึกอิดหนาระอาใจกับแพรใจเป็นอย่างยิ่ง “ทำไมคุณขึ้นมาก่อน”
已经是最新一章了
加载中