ตอนที่14 ผู้หญิงดื้อ
1/
ตอนที่14 ผู้หญิงดื้อ
ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
(
)
已经是第一章了
ตอนที่14 ผู้หญิงดื้อ
ตนที่14 ผู้หญิงดื้อ บทสนทนาของสาวใช้สองคน ไม่ได้ทำให้หลินซีนเยียนโกรธเคือง นางรู้อยู่แล้วว่า นางไม่เคยคิดว่าจะได้อะไรจากโม่จื่อฟง และไม่เคยคิดจะบินขึ้นยอดกิ่งไม้ เพราะว่านางไม่ได้ต้องการ จึงไม่เกรงกลัว เพียงแต่ ที่แท้โม่จื่อฟงออกด่านเพื่อไปรับสตรีนางหนึ่งหรือ?หลินซีนเยียนแสยะยิ้ม ที่แท้ก็เป็นท่านอ๋องที่เจ้าชู้จริงๆ ผ่านไปสองวันหลินซีนเยียนอยู่อย่างสงบ ตอนกลางวันออกไปเดินเล่นในลาน แต่ไหนแต่ไรไม่เคยขอออกไป ช่วงแรกมีสาวใช้เดินตามนางทั้งวัน พอช่วงหลังๆ พวกสาวใช้เริ่มเบื่อหน่ายจึงไม่เดินตามนางแล้ว อีกอย่างนางไม่เป็นวรยุทธ จะหนีออกจากเรือนไปได้อย่างไร? เมื่อหลินซีนเยียนได้เดินสำรวจไปทั่วแล้ว ในเรือนนี้มีสาวใช้ทั้งหมดสี่คน คนงานสี่คน หญิงแก่สองคน แต่ทุกคนคล้ายกับมีวรยุทธเก่งกล้า ในจุดนี้ ทำให้หลินซีนเยียนนับถือโม่จื่อฟงอย่างมาก เรือนที่อยู่ในหมู่บ้านเล็กติดชายแดน คนที่นี่ล้วนฝึกฝนมาอย่างดี เช่นนั้นแล้ว หากอ๋องอู่เสวียนยึดครองแคว้นหนานเยว่ได้เกือบครึ่ง ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ชนะด้วยกำลังไม่ได้ ก็ชนะด้วยสติปัญญาแล้วกัน หลินซีนเยียนอ้างว่าอยากปักผ้าเช็ดหน้าให้ท่านอ๋อง จึงไปถามหาเข็มและด้ายกับหญิงแก่ ถึงหญิงแก่จะมองด้วยสายตาเหยียดหยาม คล้ายกับคิดว่านางจะคิดเล็กคิดน้อยอะไร แต่สุดท้ายก็นำเข็มด้ายและผ้าแพรมาให้นางอยู่ดี ในค่ำคืนนั้นหลินซีนเยียนได้ปิดประตูและหน้าต่างในห้องเพื่อปักผ้า นางใช้เวลาปักผ้าหนึ่งคืนเต็มๆ เช้าวันรุ่งขึ้น สาวใช้ที่ยกน้ำล้างหน้าไปให้ เคาะประตูห้องเรียก ในห้องเงียบกริบไม่มีเสียงใดๆ สาวใช้เริ่มกังวล จึงใช้แรงเคาะประตูอีกที เสียงเคาะประตูดัง‘ ก๊อกๆๆ’ ภายในห้องยังคงเงียบไม่ส่งเสียงใดๆ ในที่สุดสาวใช้ก็ทนไม่ไหว ถีบประตูจนเปิดออกในครั้งเดียว และเข้าดูมาในห้อง ในห้องว่างเปล่าไร้เงาคน “เป็นไปไม่ได้!เห็นอยู่ว่านางไม่เป็นวรยุทธ!”ไม่มีทางหนีรอดพ้นจากสายตาของพวกนางไปได้ สาวใช้แปลกใจ และยิ่งทำให้นางแปลกใจอีก เมื่อมีคนอยู่ด้านหลัง “เจ้าหาข้าอยู่รึ?”ทันทีนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนาง ที่แท้เป็นหลินซีนเยียนที่หลบอยู่หลังประตู สาวใช้ชะงักไปช่วงหนึ่ง หันหลังมา ยังไม่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน ก็รู้สึกเจ็บตรงกลางหน้าผาก สักพักโลกทั้งใบก็จมลงสู่ความมืดมิด เมื่อเห็นสาวใช้ล้มลงหลินซีนเยียนก็โล่งใจ ยังดี เพราะว่านางไม่เป็นวรยุทธ แต่สาวใช้พวกนี้ไม่ได้ระมัดระวังในตัวนาง นางจึงสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ หลินซีนเยียนไม่กล้าถ่วงเวลา จึงรีบถอดชุดสาวใช้และนำมาเปลี่ยนให้ตนเอง สองวันที่ผ่านมาได้เดินไปทั่วเรือนหลังนี้แล้ว นางจึงจำเส้นทางได้เป็นอย่างดี แต่ว่า นางไม่รู้ทางออกไปข้างนอก เพียงแต่รู้ทางไปห้องเก็บของ ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนตะโกนออกมาจากห้องเก็บของ “แย่แล้ว ไฟไหม้!” พวกสาวใช้และคนงานต่างวิ่งตาลีตาเหลือกมาที่ห้องเก็บห้อง เพื่อมาช่วยกันดับไฟ น่าเสียดายที่คนในเรือนมีน้อย ทุกคนในเรือนจึงต้องเปลืองแรงไปอย่างมาก ในที่สุดไฟก็ดับลง “เห็นอยู่ดีๆ ทำไมถึงไฟไหม้ได้?”สาวใช้และคนงานต่างก็สงสัย“เอ๊ะ แล้วฟางเฉาล่ะ ไฟไหม้ขนาดนี้ไม่ยอมมาช่วยกันเลย ” “ฟางเฉาไม่ใช่ไปรับใช้สตรีผู้นั้นอยู่...แย่แล้ว!”หญิงแก่รู้สึกตัวก่อนคนอื่น จึงให้ทุกคนออกตามหา พอเห็นฟางเฉาล้มอยู่หน้าประตู ทุกคนถึงกับขาสั่นไปหมด อารมณ์ของท่านอ๋อง พวกเขาล้วนรู้ดี หากคนผู้นี้หายไป ชีวิตของพวกเขาคง... หญิงแก่ก้มตัวไปตรวจศพของฟางเฉา พบว่ามีเข็มปักผ้าเล็กๆ อยู่ตรงกลางหน้าผาก สตรีผู้ไม่เป็นวรยุทธ กลับใช้เข็มปักผ้าสังหารฟางเฉาที่มีวรยุทธเก่งกล้าได้ พวกเขาสะเพร่าเอง คิดว่าหญิงที่ไม่เป็นวรยุทธ จะไม่มีพิษภัยอะไร ใครจะรู้ว่านางจะใช้วิธีนี้! “มัวรออะไรอยู่เล่า? ไปตามสิ!”หญิงแก่โกรธจนหน้าแดง ในใจเกลียดสตรีเจ้าเล่ห์ผู้นี้อย่างมาก สายลมในฤดูหนาว หนาวเย็นอย่างมาก ยิ่งช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ตกดิน หลินซีนเยียนใช้โอกาสตอนที่เกิดเรื่องวุ่นวาย หนีออกจากเรือนหลังนั้น เดินตรงมาที่ทำการส่งสาร ใช้สิ่งของมีค่าอย่างเดียวที่พกติดตัวมา เป็นหยกที่โม่จื่อฟงมอบไว้ให้ แลกกับม้าหนึ่งตัว และควบม้าวิ่งออกไปอย่างไม่ลังเล ตอนที่นางหยิบหยกออกมา นางจำท่าทางของคนขายม้าที่ทำการส่งสารได้ สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ บางที หยกชิ้นนั้นอาจจะมีค่ามากกว่าที่นางคิดไว้ เช่นนั้นแล้วทำไม? ตอนที่หนีเพื่อเอาตัวรอด ถึงจะให้จ่ายมากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญทั้งนั้น ในตอนนี้ สิ่งของที่มีค่าในตัวนางก็มีแต่หยกนี้ เพียงแค่สามารถหนีได้ ล้วนคุ้มค่ายิ่งนัก! หลินซีนเยียนขี่ม้าไปสักพัก เห็นชายวัยกลางคนกำลังแบกถุงผ้าที่ทั้งหนาและหนักอยู่บนถนน จึงดึงสายบังเหียนให้ม้าหยุดวิ่งทันที “คุณลุง ม้าตัวนี้ข้ายกให้ท่าน”หลินซีนเยียนยิ้มหวาน ดวงตาใสแป๋ว ชายวัยกลางคนผู้นั้นนิ่งอึ้งไปสักพัก เอียงคอมองนางอย่างงุนงง“แม่นางอย่าล้อข้าเล่นเลย ม้าตัวนี้นำไปแลกเป็นเงินพอเลี้ยงตัวข้าไปได้หลายเดือน เจ้ายกให้ข้าง่ายๆ เช่นนี้ได้รึ? ” หลินซีนเยียนลงจากหลังม้า นำสายบังเหียนวางไว้ในมือของเขา“ข้าพูดจริง ท่านขี่ม้าไปเถิด ก่อนที่ข้ายังไม่เปลี่ยนใจ ท่านจงรีบขี่ม้าไป ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าเอาเปรียบแล้วกัน” ชายวันกลางคนลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อคิดอย่างดีแล้ว ว่าตัวเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร อยากจะรวยต้องยอมเสี่ยง ไม่ลองก็ไม่รู้ จึงกัดฟันกระโดดขึ้นหลังม้า“ครั้งนี้เป็นเจ้าที่เต็มใจยกให้ข้า อย่าโทษว่าข้ารังแกเด็กอย่างเจ้าแล้วกัน” “ไปเถิด”หลินซีนเยียนตบหลังไปหนึ่งที ม้าวิ่งทะยานตัวออกไป นางยกมือขึ้นปัดยุ่งไปมา แล้วถอยหลังเดินเข้าไปในป่า ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ สายตาจ้องมองไปบนถนน ผ่านไปสักพัก มีม้าสอง-สามตัววิ่งตามมา ม้าไม่ได้หยุดยังคงวิ่งมุ่งหน้าไปบนถนน ในป่าเงียบสงบ หลินซีนเยียนที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เดินออกมาอย่างไม่รีบร้อน ผ่านไปสักพักก็เห็นพวกสาวใช้และคนงานวิ่งกลับมา พอหลังจากที่รอให้พวกเขาจากไป ในที่สุดหลินซีนเยียนก็เดินออกจากป่า นางยื่นมือออกไป แสงอาทิตย์ที่ส่องมาในมือ อบอุ่นยิ่งนัก นี่เป็นความรู้สึกของการเป็นอิสระ! นางยิ้ม แต่ไม่อาจชะล่าใจได้ ยิ่งตอนที่นางสิ้นเนื้อประดาตัว อยากจะมีชีวิตอยู่รอดต่อไป คงไม่ง่ายแน่ ทุ้งหญ้าเขตชายแดน มักจะทำให้รู้สึกเงียบเหงาและเปล่าเปลี่ยวใจอย่างมาก บนทุ้งหญ้ามีรถม้าสิบกว่าคันจอดเรียงรายอยู่ แม้จะมีคนยืนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในทุ้งหญ้าที่กว้างใหญ่นี้ มองเห็นเป็นเพียงแค่มดตัวเล็กๆ อินทรีตัวหนึ่งกางปีกบินวนไปมาระหว่างก้อนเมฆ ผ่านไปพริบตาเดียวก็บินดิ่งลงมาเกาะอยู่บนรถม้าที่อยู่แถวหน้าในที่สุด ในรถม้า มือที่สะอาด ดูทรงพลังแต่เรียวงามก็ยื่นออกไป อินทรีตัวนั้นคล้ายกับจำมือนั้นได้ จึงก้มหน้าคายจดหมายออกมาให้ในมือ “เป็นสตรีที่อยู่เฉยไม่เป็นจริงๆ” เสียงที่เย็นชาได้ดังออกมาจากในรถม้า จินมู่ที่อยู่ข้างหน้าเดินมาหา“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องกับแม่นางซีนเยียนรึ?” “อืม นางหนีไปแล้ว”โม่จื่อฟงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เสียงที่ดังในกลางทุ้งหญ้าที่โล่ง แม้อากาศจะหนาวเย็น กลับเป็นน้ำเสียงที่ไม่มีความโกรธเคืองใดๆ จินมู่แปลกใจ“เป็นไปได้อย่างไร คนที่เรือนล้วนมีวรยุทธเก่งกล้า แม่นางซีนเยียนไม่เป็นวรยุทธ จะหนีได้อย่างไร?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่14 ผู้หญิงดื้อ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A